Claims (7)
1. ขบวนการสำหรับดึงไฮโดรเจนออกจากไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอมให้เป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลิฟิน โดยมีปริมาณไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลิฟินอยู่น้อยที่สุด ซึ่งประกออบไปด้วยขั้นตอนของ (a) การนำไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอมดังกล่าว และไฮโดรเจนเป็นกระแสสารป้อนเข้าไปผ่านเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกกที่รักษาให้อยู่ในสภาพของปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกเพื่อผลิตกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกที่เป็นส่วนไอ ซึ่งประกอบไปด้วย (i) ไฮโดรเจน (ii)ไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ที่มีจำนวนอะตอมคาร์บอนต่อโมเลกุลน้อยกว่าสี่อะตอม (iii)ไฮโดรคาร์บอนประภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอมที่ไม่ถูกดึงไฮโดรเจนออก (iv)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอม และ (v) ไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอม (b) การทำกระแสสารขาออกของเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกให้เย็นลงเพื่อให้กระแสสารขาออกของเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกควบแน่นเป็นบางส่วนให้เป็นกระแสส่วนที่เป็น ไอ-ของเหลว (c) การแยกสารขาออกของเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกส่วนที่เป็นไอ-ของเหลวที่เย็นลงแล้วดังกล่าวในเขตแยกไอ-ของเหลวที่คงไว้ที่สภาพแยกไอ-ของเหลวให้เป็นกระแสไอส่วนบนของเขตแยกซึ่งประกอบด้วยไฮโดรเจนและกระแสของเหลวที่ส่วนล่างของเขตแยกซึ่งประกอบด้วย i) ไฮโดรเจนที่ละลายอยู่ ii) ไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ซึ่งมีคาร์บอนน้อยกว่าสี่อะตอม iii) ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนมากว่า 4 อะตอม iv)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนมากว่า 4อะตอม และ v) ไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนมากกว่า 4 อะตอมการปรับปรุงซึ่งประกอบด้วยการ ผ่านกระแสของเหลวส่วนล่างของเขตแยกดังกล่าวและกระแสไฮโดรเจนป้อนเข้าในปริมาณที่ควบคุมไว้เข้าไปในเขตปฏิกิริยาเลือกเติมไฮโดรเจน ซึ่งอยู่ที่ด้านปลายกระแสของเขตแยกไอ-ของเหลวดังกล่าว และที่ต้นกระแสของเขตระเหยสารซึ่งจะบรรยายต่อไปในขั้นตอน(d) เขตเติมไฮโดรเจนดังกล่าวมีสารเร่งปฏิกิริยาเลือกเติมไฮโดรเจนและคงไว้ที่ สภาพการเปลี่ยนการเลือกเติมไฮโดรเจนให้แก่ไดโอลีฟิน ปริมาณไฮโดรเจนดังกล่าวเลือกเพื่อให้ผลในการเลือกเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินให้เป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟิน และเพื่อผลิตกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนที่จัดได้ว่าปราศจากไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินชนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอม และ (d) การระเหยกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนดังกล่าวในเขตระเหยที่คงไว้ที่สภาพการระเหยที่จะยังผลให้เกิดการผลิตกระแสสารส่วนบนของเขตระเหยที่มีไฮโดรเจนและไฮโดคาร์บอนเบาแทบทั้งหมดที่มีอยู่ในกระแสสารขาออกของเขตเติมไฮโดรเจนดังกล่าว และกระแสสารส่วนล่างของเขตระเหย ซึ่งจัดได้ว่าปราศจากไดโอลีฟิน และมีไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินชนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 4 อะตอม เป็นกระแสผลผลิตของ ขบวนการดังกล่าว 2. ขบวนการของข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่สภาพในการเลือกเติมไฮโดรเจน รวมถึงการมีไฮโดรเจนอยู่น้อยกว่า 2.0 เท่าของปริมาณไฮโดรเจนที่ต้องใช้อย่างพอดีในการเลือกเติมไฮโดรเจนให้แก่ไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่อยู่ในกระแสสารของขบวนการส่วนทีเป็ษนของเหลวให้กลายเป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟิน 1.0 4. ขบวนการของข้อถือสิทธิ 3 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่สารเร่งปฏิกิริยาการเลือกเติมไฮโดรเจนแก่ไดโอลีฟินประกอบด้วยนิคเกิลและกำมะถันและสารรองรับอนินทรีย์ชนิดทนทาน 5. ขบวนการของข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่สารเร่งปฏิกิริยาการเลือกเติมไฮโดรเจนแก่ไดโอลีฟินประกอบด้วยพัลเลเดียมและสารรองรับอนินทรีย์ชนิดทนทาน 6. ขบวนการสำหรับดึงไฮโดรเจนออกจากไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมให้เป็นไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า10 อะตอม โดยมีไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมอยู่น้อยกว่า 0.4 % เมื่อคิดเป็นโมลซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ (a) การนำไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า10 อะตอมดังกล่าว และไฮโดรเจนเป็นกระแสป้อนเข้าไปผ่านเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกที่รักษาในสภาพของปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกเพื่อผลิตกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกที่เป็นส่วนไอ ซึ่งประกอบด้วย i) ไฮโดรเจน ii)ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงที่เป็นผลพลอยได้ซึ่งมีคาร์บอนน้อยกว่า 8 อะตอม ซึ่งถูกดึงเอาไฮโดรเจนออก iii)ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า10 อะตอมซึ่งไม่ได้ถูกดึงเอาไฮโดรเจน ออก iv)ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม และ v) ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (b) การทำกระแสสารขาออกของเขตปฏิกิรยาการดึงไฮโดรเจนออกให้เย็นลงเพื่อให้กระแสสารขาออกจากการดึงไฮโดรเจนออกควบแน่นเป็นบางส่วนให้เป็นกระแสส่วนที่เป็น ไอ-ของเหลว (c) การแยกสารขาออกของเขตปฏิกิริยาการดึงไฮโดรเจนออกส่วนที่เป็นไอ-ของเหลวที่เย็นลงแล้วดังกล่าวในเขตแยกไอ-ของเหลวที่คงไว้ที่สภาพการแยกให้เป็นกระแสไอส่วนบนของเขตแยก ซึ่งประกอบด้วยไฮโดรเจนและกระแสของเหลวที่ส่วนล่างของเขตแยกซึ่งประกอบด้วย i) ไฮโดรเจนที่ละลายอยู่ ii) ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงที่เป็นผลพลอยได้ซึ่งมีคาร์บอนน้อยกว่า 8 อะตอม ซึ่งถูกดึงเอาไฮโดรเจนออก iii) ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า10 อะตอม iv)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม และ v) ไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม การปรับปรุงซึ่งประกอบด้วยการผ่านกระแสของเหลวส่วนล่างของเขตแยกดังกล่าวและกระแสไฮโดรเจนป้อนเข้าไปในเขตปฏิกิริยาเลือกเติมไฮโดรเจน ซึ่งอยู่ที่ด้านปลายกระแสของเขตแยกไอ-ของเหลวดังกล่าว และที่ต้นกระแสของเขตระเหยสารซึ่งจะบรรยายต่อไปในขั้นตอน(d) เขตเติมไฮโดรเจนดังกล่าวมีสารเร่งปฏิกิริยาเลือกเติมไฮโดรเจนและคงไว้ที่สภาพการเปลี่ยนการเลือกเติมไฮโดรเจนให้แก่ไดโอลีฟิน ปริมาณไฮโดรเจนดังกล่าวเลือกเพื่อให้ผลในการเลือกเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงชนิดไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมดังกล่าวให้เป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม เพื่อผลิตกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนที่มีไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทไดโอลีฟินชนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมอยู่น้อยกว่า 0.4 % เมื่อคิดเป็นโมล และ (d) การระเหยกระแสสารขาออกในเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนดังกล่าวในเขตระเหยที่คงไว้ที่สภาพการระเหยที่จะยังผลให้เกิดการผลิตกระแสสารส่วนบนของเขตระเหยที่มีไฮโดรเจนและไฮโดรคาร์บอนที่เป็นผลพลอยได้ซึ่งมีคาร์บอนน้อยกว่า 8 อะตอมแทบทั้งหมดที่มีอยู่ในสารขาออกของเขตปฏิกิริยาดังกล่าว และกระแสสารส่วนล่างของเขตระเหย ซึ่งประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินน้อยกว่า0. 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อคิดเป็นโมลและของผสมของไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม และไฮโรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมเป็นกระแสผลผลิตของขบวนการดังกล่าว 7. ขบวนการของข้อถือสิทธิ 6 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินประกอด้วยพาราฟินที่มีคาร์บอน 15 ถึง 20 อะตอม 8. บวนการของข้อถือสิทธิ 6 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินประกอด้วย c ของผสมของไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอน10ถึง15อะตอม 9. บวนการของข้อถือสิทธิ 6 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่ระบบไฮโดรเจนป้อนเข้าที่เติมเข้าในเขตการเติมไฮโดรเจนดังกล่าวประกอบด้วยส่วนหนึ่งของกระแสไอด้านบนของเขตแยกซึ่งแยกออกจากเขตแยกไอ-ของเหลว 1 0. บวนการของข้อถือสิทธิ 9 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่สารเร่งปฏิกิริยาเติมไฮโดรเจนประกอบด้วยนิคเกิลกำมะถัน และสารรองรับอนินทรีย์ชนิดทนทาน 1 1.0 11. A process for removing hydrogen from paraffin hydrocarbons with more than 4 carbon atoms to form monoolifin hydrocarbons. With the least amount of diolphin hydrocarbons This is carried out by the process of (a) the conductivity of paraffin hydrocarbons with more than four carbon atoms. And hydrogen is the feed stream through the hydrogen extraction reaction zone that maintains it in the state of the hydrogen extraction reaction to produce an output stream in the vapor recovery zone of hydrogen extraction. It consists of (i) hydrogen (ii) light hydrocarbons, a byproduct with fewer than four carbon atoms per molecule. (iii) A paraffin-containing hydrocarbon with more than four carbon atoms that is not removed from hydrogen. (iv) Hydrocarbons with more than 4 carbon atoms, and (v) Diolefin hydrocarbons with more than four carbon atoms (b) Output current of hydrogen extraction zone. Cool it down so that the output current of the hydrogen extraction zone is partially condensed into a vapor-liquid phase (c). The cooled liquid is in a fixed vapor-liquid separation zone that separates the vapor-liquid into a vapor stream, the upper part of the separation zone consisting of hydrogen and liquid flows at the lower part of the separation zone consisting of i) dissolved hydrogen. I) byproduct light hydrocarbons with four atoms less carbon iii) paraffin hydrocarbons with more than 4 carbon atoms iv) monoolefin hydrocarbons with more than four carbon atoms and v) dio hydrocarbons Lefin with more than 4 carbon atoms, the improvement consisting of Through the lower liquid flow of the separation zone and the controlled amount of hydrogen flows into the selective hydrogen reaction zone. Which is at the end of the stream of the vapor-liquid separation zone And at the source of the evaporation zone, described later in step (d), the hydrogenated zone contains a selective hydrogenated catalyst and remains constant. Conditions for changing the selection of hydrogenation to diolefin The hydrogen content was chosen to influence the conversion of diolefin hydrocarbons to monoolefin hydrocarbons. And to produce output currents in a hydrogenation-free zone classified as free of 4-carbon diolefin hydrocarbons and (d) evaporation of the output currents in the hydrogenation reaction zone as It is said in the evaporation zone that maintains the evaporation condition that results in the production of the upper part of the evaporation zone containing virtually all hydrogen and light hydrocarbons present in the outgoing stream of the hydrogenated zone. And the lower stream of the evaporation zone Which is classified as free from diolefins And there are monoolefin hydrocarbons with more than four carbon atoms as the product flow The process 2. The claim 1 process, which has an additional feature, is the state of selective hydrogenation. This also includes having less than 2.0 times the hydrogen content of the hydrocarbons required to be able to opt for hydrogenation of diolefin hydrocarbons in the stream of the liquid part of the process to become hydrocarbons. Monoolefin 1.0 4. The process of claim 3, which has additional characteristics, is the diolefin selective hydrogenation catalyst, composed of nickel and sulfur, and an inorganic substrate. Durable 5. The process of claim 2, which has additional characteristics, is the diolefin selective hydrogenation catalyst consisting of a palladium and durable inorganic support. Hydrocarbons leave paraffin straight chain hydrocarbons with more than 10 carbon atoms to form monoolefin straight chain hydrocarbons with more than 10 carbon atoms, with diolefin straight chain hydrocarbons having more than 10 carbon. Atoms are less than 0.4% when they are moles, which consist of the process of (a) conduction of paraffin-type hydrocarbons with more than 10 carbon Said atom And hydrogen is the current fed through the hydrogen extraction reaction zone treated in the state of the hydrogen extraction reaction to produce the output current in the vapor depletion reaction zone. It consists of i) hydrogen ii) straight chain hydrocarbons, a by-product with less than eight carbon atoms, that hydrogen has been removed. iii) Straight-chain hydrocarbons of paraffin-type carbon containing more than 10 Atoms that were not removed from hydrogen iv) monoolefin straight-chain hydrocarbons with more than 10 carbon atoms and v) direct-chain hydrocarbons of diolphins with more than 10 carbon atoms (b) Condensate the output stream of the hydrogen extraction zone to cool it so that the effluent stream is partially condensed into a vapor-liquid stream (c). Of the hydrogen extraction reaction zone, the cooled vapor-liquid part, in the constant vapor-liquid separation zone at the separation state, the upper vapor-liquid separation zone. Which consists of hydrogen and liquid currents at the lower part of the separation zone consisting of i) dissolved hydrogen ii) by-product straight-chain hydrocarbons with less than 8 carbon atoms removed from hydrogen iii) straight chain hydrocarbons of paraffin-containing Over 10 carbon atoms; iv) monoolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms; v) diolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms. It separates it, and the hydrogen stream enters the selective hydrogen reaction zone. Which is at the end of the stream of the vapor-liquid separation zone And at the source of the evaporation zone, described later in step (d), the hydrogenated zone contains a selective hydrogenation catalyst and is maintained at the diolefin-hydrated transition state. The hydrogen content was chosen to influence the selection of diolefine straight-chain hydrocarbons with more than 10 carbon atoms to monoolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms to produce a current. The output in the hydrogenation zone with the diolefine direct-chain hydrocarbons, the more than 10 carbon atoms, is less than 0.4% as moles, and (d) evaporation of the output current in the reaction zone. The addition of such hydrogen in the evaporation zone maintained at evaporation conditions results in the production of the upper volatile zone containing hydrogen and by-product hydrocarbons, with virtually 8 atoms less carbon at Is present in the outgoing substance of the said reaction zone And the lower stream of the evaporation zone Which contains less than 0 diolefin hydrocarbons 4 percent as moles and mixtures of straight-chain hydrocarbons, paraffin with more than 10 carbon atoms, and monoolefin straight-chain hyocarbons with more than 10 carbon atoms are the product currents of the process.7 The process of claim 6, which has additional characteristics, is paraffin-bonded hydrocarbons with 15 to 20 carbon atoms. 8. The process of claim 6, which has additional characteristics, lies in paraffin-type hydrocarbons. With c, a mix of straight-chain paraffin-type hydrocarbons with 10 to 15 carbon atoms 9. The process of claim 6, which has additional characteristics, is the infeed hydrogen system added to the said hydrogenation zone consists of: One of the vapor currents above the junction, which is separated from the vapor-liquid separation zone 1 0. The process of claim 9, which has an additional characteristic, is that the hydrogenated catalyst contains nickel sulfur. And durable inorganic supports 1 1.0 1
2. บวนการของข้อถือสิทธิ 6 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่สารเร่งปฏิกิริยาเติมไฮโดรเจนประกอบด้ยพัลเลเดียมและสารรองรับอนินทรีย์ชนิดทนทาน 12. The process of claim 6, which is further characterized by the hydrogenated catalyst, consists of a palladium and durable inorganic substrate 1.
3. บวนการของข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่กระแสสารป้อนเข้าประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินชนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 9 อะตอม อย่างน้อยหนึ่งชนิด และมีการผ่านกระแสผลผลิตเข้าไปในเขตเติมหมู่อัลคิลที่รักษาไว้ในสภาพที่ส่งเสริมให้เกิดปฏิกิริยาการเติมหมู่อัลคิล ซึ่งรวมถึงการมีไฮโดรคาร์บอนประเภทอาโรแมติคและสารเร่งปฏิกิริยาการเติมหมู่อัลคิลและการผลิตกระแสสารขาออกของเขตเติมหมู่อัลคิลซึ่งประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนประเภทอัลคิลอาโรแมติค และมีการแยกเอาไฮโดรคาร์บอนประเภทอัลคิลอาโรแมติคจากกระแสสารขาออกของเขตเติมหมู่อัลคิล 13. The process of claim 1, which has additional characteristics at the feed stream, consists of at least one type of paraffin hydrocarbon with more than 9 carbon atoms. And the product flow was passed into the retained alkyl group addition zone in a condition that promoted the addition of alkyl group. This includes the presence of aromatic hydrocarbons and catalysts, the addition of alkyl groups, and the production of outgoing streams of the alkyl-aromatic zone containing alkyl-aromatic hydrocarbons. C And alkyl aromatic hydrocarbons were separated from the outgoing stream of the alkyl group 1 addition zone.
4. บวนการของข้อถือสิทธิ 13 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่ไฮโรคาร์บอนประเภทอาโรแมติคนั้นคือเบนซีน 14. The process of claim 13, which has an additional characterization in the aromatic type of hyrocarbon, is benzene 1.
5. บวนการของข้อถือสิทธิ 13 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเพิ่มเติมอยู่ที่กระแสสารขาออกของเขตเติมหมู่อัลคิลมีส่วนประกอบที่เป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินชนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 8อะตอมอยู่ด้วย และอยู่ที่มีการแยกเอาไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินขนิดที่มีคาร์บอนเกินกว่า 8 อะตอมนั้นออกจากกระแสสารขาออกของเขตเติมหมู่อัลคิล และป้อนกลับเข้าสู่เขตการดดึงเอาไฮโดรเจนออก 15. The process of claim 13, which has additional characteristics, lies in the outgoing currents of the alkyl group addition of an excess carbon-containing paraffin-type hydrocarbon. 8 atoms are there And it is at the separation of paraffin-type hydrocarbons with more than eight carbon atoms from the outgoing stream of the alkyl group. And feed it back into the hydrogen extraction zone 1
6. ขบวนการสำหรับดึงเอา"ฮโดรเจนออกจากไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินดังในข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ (a) การนำกระแสป้อนไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อยหนึ่งไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประะเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมไปผ่านเขตปฏิกิริยาดึงไฮโดรเจนออกที่ให้ผลในการผลิตกระแสสารขาออกจากปฏิกรณ์การดึงไฮโดรเจนออกที่เป็นส่วนไอ ซึ่งประกอบไปด้วย (i) ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า10 อะตอม (ii)ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมดังกล่าว (iii) ไฮโดรคาร์บอนโซ่ตรงประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (iv)ไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ที่มีคาร์บอนน้อยกว่า10 อะตอม และ (v) ไฮโดรเจน (b) การทำให้สารขาออกจากเขตปฏิกรณ์การดึงไฮโดรเจนออกดังกล่าวเย็นลงและควบแน่นเป็นบางส่วนเพื่อให้เป็นกระแสส่วนที่เป็น ไอ-ของเหลว (c) การผ่านสารขาออกจากเขตปฏิกรณ์การดึงไฮโดรเจนออกส่วนที่เป็นไอ-ของเหลวดังกล่าวไปยังเขตแยกไอ-ของเหลวเพื่อแยกสารขอออกจากเขตปฏิกรณ์ การดึงไฮโดรเจนออกที่เป็นไอ-ของเหลวดังกล่าวให้เป็นกระแสของขบวนการที่เป็นส่วนไอ ซึ่งประกอบด้วยไฮโดรเจนและกระแสสารของขบวนการที่เป็นของเหลวซึ่งประกอบด้วย (i) ไฮโดรเจนที่ละลายอยู่ (ii) ไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ที่มีคาร์บอนน้อยกว่า10 อะตอม (iii) ไฮโดรคาร์บอนโประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (iv)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม และ (v) ไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (d) การนำกระแสของขบวนการส่วนของเหลวที่ได้จากเขตแยกไอ-ของเหลวดังกล่าว และกระแสสารป้อนไฮโดรเจนในปริมาณควบคุมไปผ่านเขตปฏิกิริยาการเลือกเติมไฮโดรเจนที่อยู่ด้านปลายกระแสของเขตแยกไอ-ของเหลวดังกล่าวและด้านต้นกระแสของเขตระเหยที่จะกล่าวต่อไปในขั้นตอน(e )ซึ่งเขตเลือกเติมไฮโดรเจนดังกล่าว มีสารเร่งปฏิกิริยาเลือกเติมไฮโดรเจนและรักษาไว้ที่สภาพการเลือกเติมไฮโดรเจน ที่ซึ่งปริมาณดังกล่าวของไฮโดรเจนในกระแสสารป้อนไฮโดรเจนเลือกไว้เพื่อเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมที่ตรงกันเพื่อให้ได้เป็นสารขาออกจากเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนที่มีไฮโดรคาร์บอนประเภทไดโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอมอยู่น้อยกว่า0.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อคิดเป็นโมล และประกอบด้วย (i) ไฮโดรเจน (ii) ไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ที่มีคาร์บอนน้อยกว่า10 อะตอมที่ละลายอยู่ (iii) ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10อะตอม (iv)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (e) การผ่านกระแสสารขาออกจากเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนดังกล่าวเข้าไปในเขตระเหยซึ่งปฏิบัติงานที่สภาพซึ่งจะเลือกแยกและกำจัดไฮโดรเจนดังกล่าวและไฮโดรคาร์บอนเบาที่เป็นผลพลอยได้ที่มีคาร์บอนน้อยกว่า 10 อะตอมจากเขตปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนดังกล่าวและเพื่อผลิตกระแสสารส่วนล่างงในเขตระเหยซึ่งประกอบด้วย (i) ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม และ (ii)ไฮโดรคาร์บอนประเภทโมโนโอลีฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10 อะตอม (f) การผ่านกระแสสารขาออกส่วนล่างของเขตระเหยดังกล่าวและเบนซีนเข้าไปในเขตเติมอัลคิลที่รักษาไว้ที่สภาพส่งเสริมการเติมอัลคิลเพื่อผลิตกระแสสารขาออกจากเขตเติมอัลคิลที่ประกอบด้วย (i) ไฮโดรคาร์บอนประเภทพาราฟินที่มีคาร์บอนเกินกว่า 10อะตอม และ (ii) อัลคีนเบนซีนโซ่ตรง และ (g) การแยกอัลคีนเบนซีนโซ่ตรงดังกล่าวออกจากกระแสสารขาออกจากเขติตมอัลคิลดังกล่าว 16. The process for removing "hydrogen from paraffin-type hydrocarbons, as in claim 1, consists of the procedure of (a) conduction of paraffin-type hydrocarbons, consisting of at least one straight-chain hydrocarbon as carbon-containing paraffin). More than 10 atoms go through the hydrogen extraction reaction zone, which results in the production of an outlet flow from the reactor. It consists of (i) straight-chain hydrocarbons of more than 10 carbon atoms (ii) straight-chain hydrocarbons of more than 10 carbon atoms (iii) straight-chain hydrocarbons of diolyte. Fins with more than 10 carbon atoms (iv) light hydrocarbons are byproducts with less than 10 carbon atoms and (v) hydrogen (b) the evacuation of the reactor area, such extraction of hydrogen cooling and condensation. It is partially to provide a vapor-liquid stream (c), through the outlet from the reactor, to extract the vapor-liquid part of hydrogen to the vapor-liquid separation zone to separate the request from the reactor. reactor Hydrogen is extracted as a vapor-liquid into the flow of the vapor process. It consists of hydrogen and a fluid flow consisting of (i) dissolved hydrogen (ii) byproduct light hydrocarbons with less than 10 carbon atoms (iii) polypropylene hydrocarbons with more than 10 carbon atoms. (iv) monoolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms and (v) diolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms (d) conductivity of liquid parts obtained from the vapor separation zone. - such liquid And the controlled volume of the hydrogen feed stream passes through the hydrogen selection reaction zone at the end of the stream of the vapor-liquid separation zone and at the source of the evaporation zone described later in the step (e ) Where the selected hydrogen area There are selective catalysts, hydrogenated and maintained at selective hydrogenation conditions. Where that amount of hydrogen in the hydrogen feed stream is selected to convert diolefin-type hydrocarbons with more than 10 corresponding carbon atoms to obtain an output from the hydrocarbon-containing hydrocarbon reaction zone. An olefin containing more than 10 carbon atoms is less than 0.4. Percent when calculated in moles And contains (i) hydrogen (ii) byproduct light hydrocarbons with less than 10 carbon Dissolved atoms (iii) paraffin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms (iv) monoolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms (e) passing the outgoing current from the hydrogenation reaction zone It enters the evaporation zone operating at a condition where it selects the separation and removal of such hydrogen and byproduct light hydrocarbons with less than 10 carbon atoms from the hydrogenation reaction zone and to produce the substrate stream. The evaporation zone contains (i) paraffin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms and (ii) monoolefin hydrocarbons with more than 10 carbon atoms (f). It evaporates and the benzene enters the preserved alkyl zone at an alkyl boosting state to produce an outward flow from the alkyl addition zone containing (i) carbon-containing paraffin hydrocarbons. Exceeding 10 atoms and (ii) straight chain alkene benzene and (g) the separation of such direct chain alkene benzene from the outgoing stream from the aforementioned alkyl 1
7. ขบวนการของข้อถือสิทธิ 16 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเติมอยู่ที่สารเร่งปฏิกิริยาการเติมอมู่อัลคิลขั้นประกอบด้วย HF7. The process of claim 16, which is characterized by the addition of a high-alkyl phase additive catalyst, contains HF.