Claims (3)
1. กรรมวิธีสำหรับเพิ่มปริมาณความชื้นของวัสดุอินทรีย์ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน ของ (a) การทำให้เกิดเบดของวัสดุอินทรีย์โดยการทับถมวัสดุอินทรีย์บนสายพานซ้อนชนิดเวียน กลับที่มีชั้นจำนวนหนึ่ง (b) การให้วัสดุอินทรีย์บนเบดสัมผัสกับกระแสอากาศที่มีความชื้นสัมพัทธ์ใกล้ภาวะสมดุล ของวัสดุอินทรีย์ กระแสอากาศไหลจากชั้นหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่งในเส้นทางที่ถือว่าทวนกระแส กับ เส้นทางของเบดของวัสดุอินทรีย์ตลอดชั้นจำนวนหนึ่งนั้น (c) การเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ของกระแสอากาศที่สัมผัสกับวัสดุอินทรีย์บนเบดเพื่อเพิ่ม ปริมาณความชื้นของวัสดุอินทรีย์ในลักษณะซึ่งคงรักษาความชื้นสัมพัทธ์ของกระแสอากาศที่สัมผัส กับวัสดุอินทรีย์ให้ใกล้กับภาวะสมดุลของวัสดุอินทรีย์จนกระทั่งบรรลุถึงปริมาณความชื้นที่ต้องการ ของวัสดุอินทรีย์ โดยที่กระแสอากาศถูกดีไฮเดรทโดยเป็นลำดับและวัสดุอินทรีย์ถูกไฮเดรทโดยเป็น ลำดับตามกระแสอากาศที่ไหลในเส้นทางที่ถือว่าทวนกระแส กับเส้นทางของเบดของวัสดุอินทรีย์ 2. กรรมวิธีสำหรับการลดปริมาณความชื้นของวัสดุอินทรีย์ ซึ่งประกอบรวมด้วยขั้นตอนของ (a) การทำให้เกิดเบดของวัสดุอินทรีย์โดยการทับถมวัสดุอินทรีย์บนสายพานซ้อนชนิดเวียน กลับที่มีชั้นจำนวนหนึ่ง (b) การทำให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับกระแสอากาศที่ไหลจากชั้นหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่งในเส้น ทางที่ถือว่าทวนกระแสกับเส้นทางของเบดของวัสดุอินทรีย์ตลอดชั้นจำนวนหนึ่งนั้น กระแสอากาศมี ความชื้นสัมพัทธ์ใกล้กับหรือต่ำกว่าภาวะสมดุลของเบดของวัสดุอินทรีย์ และ (c) การลดความชื้นสัมพัทธ์ของกระแสอากาศที่สัมผัสกับวัสดุอินทรีย์ในขณะที่ปริมาณ ความชื้นของวัสดุอินทรีย์ลดลงในลักษณะซึ่งคงรักษาความชื้นสัมพัทธ์ของกระแสอากาศที่สัมผัสกับ วัสดุอินทรีย์ให้ใกล้กับหรือต่ำกว่าภาวะสมดุลของวัสดุอินทรีย์ จนกระทั่งบรรลุถึงปริมาณความชื้นที่ ต้องการของวัสดุอินทรีย์ โดยที่วัสดุอินทรีย์ถูกดีไฮเดรทโดยเป็นลำดับและกระแสอากาศถูกไฮเดรท โดยเป็นลำดับ ขณะที่กระแสอากาศเดินทางในเส้นทางที่ถือว่าทวนกระแสกับเส้นทางของเบดของ วัสดุอินทรีย์ 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งอุณหภูมิของวัสดุอินทรีย์ต่ำกว่า ประมาณ 38 ํซ. (100 ํฟ. ) ก่อนการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับกระแสอากาศ 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งก่อนขั้นตอนของการให้วัสดุ อินทรีย์สัมผัสกับกระแสอากาศ วัสดุอินทรีย์มีปริมาณความชื้นเริ่มต้นจากประมาณ 1.5% ถึงประมาณ 13% 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ที่ซึ่งก่อนขั้นตอนของการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับกระแส อากาศ วัสดุอินทรีย์มีปริมาณความชื้นเริ่มต้นจากประมาณ 1.5% ถึงประมาณ 6% 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งกระแสอากาศที่สัมผัสกับวัสดุอินทรีย์มีความชื้น สัมพัทธ์จากประมาณ 30% ถึงประมาณ 64% ที่อุณหภูมิจากประมาณ 21 ํซ. (70 ํฟ.) ถึงประมาณ 49 ํซ. (120 ํฟ.) 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ซึ่งวัสดุอินทรีย์ คือ ยาสูบ 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งยาสูบ คือ ยาสูบพอง 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งยาสูบ คือ ยาสูบที่ตัดแล้ว 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่ง ยาสูบถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบรวมด้วย ยาสูบพอง หรือ ยาสูบที่ไม่พอง ใบยาสูบทั้งหมด ยาสูบที่ตัดหรือหั่นแล้ว ก้าน ยาสูบที่ประกอบใหม่ หรือ การ รวมกันของสิ่งเหล่านี้ 1 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ประกอบรวมต่อไปด้วยขั้นตอนของการทำอุณหภูมิของ วัสดุอินทรีย์ให้ร้อนล่วงหน้าจากประมาณ 38 ํซ. (100 ํฟ.) ถึงประมาณ 121 ํซ. (250 ํฟ.) ก่อนถึง ขั้นตอน (a) 1 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งอุณหภูมิของวัสดุอินทรีย์ต่ำกว่าประมาณ 121 ํซ. (250 ํฟ.) ก่อนถึงขั้นตอนของการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับกระแสอากาศ 1 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งปริมาณความชื้นที่ต้องการของวัสดุอินทรีย์ภายหลัง ขั้นตอน (c) คือ จากประมาณ 11% ถึงประมาณ 13% 1 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับ กระแสอากาศ วัสดุอินทรีย์มีปริมาณความชื้นจากประมาณ 11% ถึงประมาณ 40% 1 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งกระแสอากาศที่สัมผัสกับวัสดุอินทรีย์มีความชื้น สัมพัทธ์จากประมาณ 20% ถึงประมาณ 60% ที่อุณหภูมิจากประมาณ 21 ํซ. (70 ํฟ.) ถึงประมาณ 49 ํซ. (120 ํฟ.) 1 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งอุณหภูมิของกระแสอากาศเป็นจากประมาณ 24 ํซ. (75 ํฟ.) ถึงประมาณ 121 ํ ซ. (250 ํฟ.) 1 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งขั้นตอนของการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับ กระแสอากาศนั้นกระทำโดยการใช้กระแสอากาศที่มีความเร็วจากประมาณ 0.23 เมตร/วินาที (45 ฟุต/ นาที) ถึงประมาณ 1.22 เมตร/วินาที (240 ฟุต/นาที) 1 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งขั้นตอนของการให้วัสดุอินทรีย์สัมผัสกับ กระแสอากาศนั้นกระทำโดยการให้กระแสอากาศมุ่งลงล่างหรือขึ้นบนอย่างใดอย่างหนึ่งผ่านเบดของ วัสดุอินทรีย์หรือโดยการให้กระแสอากาศมุ่งทั้งลงล่างหรือขึ้นบนผ่านเบดของวัสดุอินทรีย์ 1 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งทำการเลือกอุณหภูมิของกระแสอากาศเพื่อจัด ให้มีการกระทำด้วยความร้อนตามที่ต้องการ 2 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งทำการเลือกอุณหภูมิของกระแสอากาศเพื่อไม่ จัดให้มีการกระทำที่ใช้ความร้อน 21. Method for increasing the moisture content of organic materials consists of the procedure of (a) bed forming of organic materials by deposition of organic materials on a circular overlap belt. (B) exposure of organic materials on the bed to a relative humidity air stream near equilibrium. Of organic materials The air current flows from one layer to the other in a path that is considered countercurrent with the bed path of organic materials throughout a certain number of layers. (C) Increasing the relative humidity of the air current in contact with the organic material on the bed to increase The moisture content of the organic material in a manner that maintains the relative humidity of the air flow exposed. With organic materials as close to the equilibrium of organic materials until the required moisture content is reached. Of organic materials Where the air currents are dehydrated sequentially and organic materials are hydrated as Respectively according to the air current flowing in the path considered counter current The path of the bed of organic materials. 2. Methods for reducing the moisture content of organic materials. This includes the process of (a) bed forming of organic materials by depositioning of organic materials on a circular overlap belt. Back with a number of layers (b) exposing organic materials to air currents flowing from one layer to another in the strands A path that is assumed to be countercurrent with the bed path of organic material throughout a number of layers is that air currents have relative humidity close to or below the bed equilibrium of organic materials and (c) relative humidity reduction of air currents in contact with organic materials. While quantity The moisture content of organic materials is reduced in a way that maintains the relative humidity of the air currents in contact with the Organic materials close to or below the equilibrium of organic materials Until reaching the amount of moisture that Need of organic materials Where organic materials are dehydrated sequentially and air currents are hydrated sequentially while air currents travel in a path considered counter-current to the bed path of Organic materials 3. Process according to one or two of the claims. Where the temperature of the organic material is approximately 38 C (100) prior to exposure of the organic material to the air flow. 4. One of the procedures of claim 1 or 2. Where before the material feeding step Organic contact with air currents Organic materials have an initial moisture content of approximately 1.5% to approximately 13%. 5. Process according to claim 4 where, prior to the phase of exposure to organic materials, organic materials have an initial moisture content of approximately 1.5% to Approximately 6% 6. Treatment according to claim 1, where air currents in contact with organic materials are humid. Relative from approx. 30% to approx. 64% at temperatures from approx. 21 ํ (70 F) to approximately 49 ํ (120 ํ F) 7. Process according to claim 1 or 2, where organic materials are Tobacco 8. Clause 7, where tobacco is inflated tobacco 9. Clause 7, where tobacco is cut tobacco 1 0. Clause 7 where tobacco is selected from the group. That consists of blistered tobacco or non-inflated tobacco Whole tobacco leaves Cut or cut tobacco, reconstituted tobacco rod, or a combination of them 1 1. Process according to claim 2 that is further incorporated into the process of temperature treatment of The organic material is pre-heated from approximately 38 (100) to about 121 ํ (250 F) prior to step (a) 1 2. Process according to claim 2, where the temperature of The organic material was approximately 121 ํ (250 ํ F) before the process of exposure to the organic material 1 3. Procedure according to claim 1, where the required moisture content of the organic material after the process was reached. (c) is from approximately 11% to approximately 13% 1 4. The process of claim 2, where prior to the stage of exposure to organic materials, organic materials have a moisture content of approximately 11% to approx. 40% 1 5. Treatment according to claim 2, where the air currents in contact with organic materials are humid. Relative from approx. 20% to approx. 60% at temperatures from approx. 21 ํ (70 F) to approximately 49 ํ (120 ํ) 1 6. Treatment according to claim 2, where the temperature of the current Air is from approximately 24 C (75 F) to about 121 C (250) 1 7. Process according to claim 1 or 2, where the process of exposure of organic materials is Air flow is carried out by using air currents with velocity from approximately 0.23 m / s (45 ft / min) to approximately 1.22 m / s (240 ft / min) 1 8. Procedures of claim 1 or 2, where The procedure of exposure to organic materials The air current is either directed downward or upward, either through the bed of the Organic materials or by directing the air stream either downward or upward through the bed of organic material 1 9. Process according to claim 1 or 2 where air flow temperature is selected to arrange To do the heating required 2 0. Treatment according to claim 1 or 2, where the temperature of the air current is selected so as not to Provide a heat-based action 2
1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งวัสดุอินทรีย์ คือวัสดุอินทรีย์ชนิดดูดความชื้น 21. Process according to claim 1 or 2, where organic materials Is hygroscopic organic material 2
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 21 ที่ซึ่งวัสดุอินทรีย์ชนิดดูดความชื้นถูกเลือกจากกลุ่มที่ ประกอบรวมด้วย ผลไม้ ผัก ธัญญาหาร กาแฟ ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม ชา และการรวมกันใดๆ ของ สิ่งเหล่านี้ 22. Process according to claim 21, where the hygroscopic organic material is selected from the group that Includes fruits, vegetables, cereals, coffee, pharmaceutical products, tea and any combination of these.
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งสายพานซ้อนเป็นสายพานชนิดเวียนกลับ และ กระแสอากาศที่ถือว่าไหลผ่านส่วนซ้อนเรียงตามลำดับผ่านชั้นแบบต่อเนื่อง3. Procedures according to claim 1 or 2, where the overlap is a reciprocating belt and the air that is deemed to flow through the stack sequentially through a continuous layer.