Claims (4)
1. กระบวนการสำหรับกำจัดเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์จากกระแส ไฮโดรคาร์บอนซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ (a) การป้อนไดโอลีฟินและกระแสไฮโดรคาร์บอนที่มีเมอร์แคปแตน และ/หรือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์เข้าสู่ปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นให้เข้าไปในเขตป้อน (b) การป้อนไฮโดรเจนเข้าสู่ปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวในปริมาณที่เพียงพอที่ จะรักษาสภาพสารเร่งปฏิกิริยาให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ แต่ต้องต่ำกว่าระดับที่ก่อให้เกิดการท่วม คอลัมน์ (c) การดำเนินการดังต่อไปนี้พร้อมกันไปในปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าว (i) การสัมผัสไดโอลีฟินกับเมอร์แคปแตนดังกล่าว ไฮโดรเจนซัลไฟด์ดังกล่าว หรือของผสมของสารดังกล่าวที่อยู่ภายในกระแสไฮโดรคาร์บอนดังกล่าวในขณะที่มีไฮโดรเจนในเขต การทำปฏิกิริยาการกลั่นที่มีสารเร่งปฏิกิริยาที่เป็นออกไซด์ของโลหะในหมู่ VIII ที่เป็นวัสดุรองรับที่ เตรียมขึ้นในรูปที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างสำหรับกลั่นแบบเร่งปฏิกิริยา โดยวิธีนี้จะเกิดปฏิกิริยาระหว่าง ส่วนหนึ่งของเมอร์แคปแตนดังกล่าว และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์กับส่วนหนึ่งของไดโอลีฟิน จนเกิด เป็นผลผลิตประเภทซัลไฟด์และผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นที่มีปริมาณเมอร์แคปแตน และ/หรือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ลดลง และ (ii) การแยกซัลไฟด์ดังกล่าวจากผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นดังกล่าวโดย การกลั่นลำดับส่วน (d) การเอาผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าว ที่จุดหนึ่งเหนือเขตการทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว ผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นดังกล่าวมี ปริมาณของเมอร์แคปแตน และ/หรือปริมาณของไฮโดรเจนซัลไฟด์ลดลง และ (e) การเอาผลผลิตประเภทซัลไฟด์ออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวที่ จุดหนึ่ง ได้เขตการทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว 2. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ในที่ซึ่งกระแสไฮโดรคาร์บอน ดังกล่าวเป็นสารที่ได้จากการกลั่นชนิดแนพธาเบาที่แตกตัวแล้วที่ประกอบด้วยส่วน C5 และสารที่เบา กว่านั้น และส่วน C6 และสารที่หนักกว่านั้นส่วน C5 และสารที่เบากว่านั้นดังกล่าวถูกเอาออกเป็น ส่วน เหนือหัวจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าว และส่วน C6 และสารที่หนักกว่านั้นดังกล่าวถูกเอาออกเป็น สารส่วนก้นจากปฏิกรณ์คอลัมกลั่นดังกล่าว 3. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ในที่ซึ่งมีไดโอลีฟินในปริมาณ เกินพอเมื่อคิดเป็นโมลเทียบกับเมอร์แคปแตน และ/หรือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ 4. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 3 ในที่ซึ่งเมอร์แคปแตน และ/หรือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ดังกล่าวในระดับที่จัดว่าทั้งหมดจะถูกทำปฏิกิริยากับไดโอลีฟินแล้วเกิดเป็นผลผลิต ประเภทซัลไฟด์ และผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นดังกล่าวจัดว่าปราศจากเมอร์แคปแตน และ/ หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ 5. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 3 ในที่ซึ่งจัดว่าทั้งหมดของส่วน เกินพอของไดโอลีฟินดังกล่าวที่ไม่ได้ทำปฏิกิริยากับเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์นั้น ถูกเติมไฮโดรเจนให้เป็นโมโนโอลีฟิน 6. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ในที่ซึ่งไดโอลีฟินดังกล่าวเป็น ส่วนประกอบอยู่ในกระแสไฮโดรคาร์บอนดังกล่าว 7. กระบวนการสำหรับทำกรรมวิธีสารที่ได้จากการกลั่นชนิดแนพธาเบาที่แตกตัว แล้ว เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบป้อนเข้าของปฏิกิริยาการเกิดอีเทอร์ และ/หรือปฏิกิริยาการเติมหมู่อัลคิลซึ่ง ประกอบด้วยขั้นตอนของ (a) การป้อนสารที่ได้จากการกลั่นชนิดแนพธาเบาที่แตกตัวแล้วที่มีเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ และไดโอลีฟินเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยเข้าสู่ปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นที่มีเขต แยกสาร (Stripping Zone) และเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นแนพธาเบาที่แตกตัวแล้วดังกล่าวมีส่วน C6+ และส่วน C5- (b) การป้อนไฮโดรเจนเข้าไปยังปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวในปริมาณที่เพียงพอ ที่จะรักษาสภาพสารเร่งปฏิกิริยาให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้แต่ต้องต่ำกว่าระดับที่ก่อให้เกิดการท่วม คอลัมน์ (c) การแยกส่วน C6 + ดังกล่าวออกจากส่วน C5 - ดังกล่าวในเขตแยกสารดังกล่าว และการกลั่นส่วน C5- ดังกล่าวขึ้นไปในเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว (d) การดำเนินการดังต่อไปนี้พร้อมกันไปในเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว (i) การสัมผัสไดโอลีฟินกับเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟต์ที่เป็น ส่วนประกอบอยู่ภายในแนพธาเบาที่แตกตัวแล้วดังกล่าว ในขณะที่มีไฮโดรเจน ในเขตทำปฏิกิริยาการ กลั่นที่มีสารเร่งปฏิกิริยาที่เป็นออกไซด์ของโลหะในหมู่ VIII ที่ถูกรองรับอยู่บนสารรองรับที่เป็นพาร์ติคูเลท อาลูมินาที่เตรียมขึ้นในรูปที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างสำหรับกลั่นแบบเร่งปฏิกิริยา โดยวิธีนี้จะเกิด ปฏิกิริยาระหว่างส่วนหนึ่งของเมอร์แคปแตนดังกล่าว และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์กับส่วนหนึ่งของ ไดโอลีฟินจนเกิดเป็นผลผลิตที่เป็นซัลไฟด์ และผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่น (ii) การเลือกเติมไฮโดรเจนให้แก่ไดโอลีฟินส่วนที่เหลือให้เป็นโมโนโอลีฟิน และ (iii) การแยกซัลไฟด์ดังกล่าวจากผลผลิตที่เป็นสารได้จากการกลั่นดังกล่าวโดย การกลั่นลำดับส่วน (e) การเอาผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นชนิด C5-ออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่น ดังกล่าวในรูปส่วนเหนือหัว ผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นชนิด C5- ดังกล่าวมีปริมาณไฮโดรเจน ซัลไฟด์, เมอร์แคปแตน และไดโอลีฟินลดลง และ (f) การเอาผลผลิตที่เป็นซัลไฟด์ดังกล่าวออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวในรูป สารส่วนก้นร่วมมากับส่วน C6+ ดังกล่าว 8. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 7 ในที่ซึ่งมีไดโอฟินเกินพอเมื่อคิด เป็นโมลเทียบกับเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์อยู่ภายในกระแสแนพธาเบาที่แตกตัวแล้ว ดังกล่าว 9. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 7 ในที่ซึ่งจัดว่าทั้งหมดของเมอร์ แคปแตนดังกล่าวทำปฏิกิริยากับโอลีฟินเกิดเป็นผลผลิตที่เป็นซัลไฟด์ และผลิตผลผลิตที่เป็นสารที่ได้ จากการกลั่นชนิด C5- ที่จัดว่าปรากศจากเมอร์แคปแตน และ/หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ 1 0. กระบวนการสำหรับทำกรรมวิธีให้แก่สารที่ได้จากการกลั่นชนิดแนพธาเบาที่ แตกตัวแล้วเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบป้อนเข้าของปฏิกิริยาการเกิด อีเทอร์ และ/หรือปฏิกิริยาการเติมหมู่อัลคิล ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของ (a) การป้อนสารที่ได้จากการกลั่นที่เป็นแนพธาเบาที่แตกตัวแล้วที่มีเมอร์แคปแตน, H2S หรือของผสมของสารเหล่านี้ และไดโอลีฟินในปริมาณเกิดพอเมื่อคิดเป็นไมลเทียบกับเมอร์แคป แตนดังกล่าวเข้าไปในปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นที่มีเขตแยกสาร และเขตทำปฏิกิริยาการกลั่น แนพธาเบาที่ แตกตัวแล้วดังกล่าวมีส่วน C6+ และส่วน C5- (b) การป้อนไฮโดรเจนเข้าไปยังปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวในปริมาณที่เพียงพอที่ จะรักษาสภาพสารเริ่งปฏิกิริยาให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ แต่ต้องต่ำกว่าระดับที่ก่อให้เกิดการท่วม คอลัมน์ (c) การแยกส่วน C6+ ดังกล่าวออกจากส่วน C5- ดังกล่าวในเขตแยกสารดังกล่าว และการกลั่นส่วน C5- ดังกล่าวขึ้นไปในเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว (d) การดำเนินการดังต่อไปนี้พร้อมกันไปในเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นดังกล่าว (i) การสัมผัสไดโอลีฟินกับเมอร์แคปแตนที่เป็นส่วนประกอบอยู่ภายในแนพธา เบาที่แตกตัวแล้วดังกล่าว ในขณะที่มีไฮโดรเจนในเขตทำปฏิกิริยาการกลั่นที่มีสารเร่งปฏิกิริยาที่เป็น ออกไซด์ของโลหะในหมู่ VII ที่ถูกรองรับอยู่บนสารรองรับที่เป็น พาร์ติคูเลทอาลูมินาที่เตรียมขึ้นในรูปที่ทำ หน้าที่เป็นโครงสร้างสำหรับกลั่นแบบเร่งปฏิกิริยา โดยวิธีนี้จะเกิดปฏิกิริยาระหว่างเมอร์แคปแตน ดังกล่าวที่จัดว่าทั้งหมดกับส่วนหนึ่งของไดโอลีฟินดังกล่าวจนเกิดเป็นผลผลิตที่เป็นซัลไฟด์ และ ผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่น (ii) การเลือกเติมไฮโดรเจนให้แก่ไดโอลีฟินส่วนที่เหลือให้เป็นโมโนโอลีฟิน และ (iii) การแยกซัลไฟด์ดังกล่าวจากผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นดังกล่าวโดย การกลั่นลำดับส่วน (e) การเอาผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นชนิด C5- ออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่น ดังกล่าวในรูปสารเหนือหัว ผลผลิตที่เป็นสารที่ได้จากการกลั่นชนิด C5- ดังกล่าวมีปริมาณเมอร์แคป แตน และไดโอลีฟินลดลง และ (f) การแยกผลผลิตที่เป็นซัลไฟด์ดังกล่าวออกจากปฏิกรณ์คอลัมน์กลั่นดังกล่าวใน รูปสารส่วนก้นร่วมมากับส่วน C6+ ดังกล่าว 11.Processes for the removal of mercaptans And / or hydrogen sulfide from the current Hydrocarbons, which consist of steps of (a), the feeding of diolefins and hydrocarbon currents with mercaptans and / or hydrogen sulfide into the reactor, distillation columns into the feed zone (b), the input of hydrogen into the reactor. Such distillation column in sufficient quantities that Will maintain the state of the catalyst to be in an active form (C) The following operations are carried out simultaneously in the distillation column reactor. (I) Exposure to the diolefin with the mercaptans. Such hydrogen sulfide Or a mixture of such substances within the hydrocarbon currents while there is hydrogen in the zone Distillation with metal oxide catalysts among the VIII supporting materials. Prepared in a form that serves as a structure for catalytic distillation. In this way, there will be a reaction between Part of the mercaptan. And / or hydrogen sulfide and part of the diolphide to form sulfide-type products and distillate products with reduced mercaptan and / or hydrogen sulphide content; and (ii ) The separation of the sulfides from the products of such distillation by Fractional Distillation (d) Removing the distillation product from the column reactor. At a point above the distillation reaction zone The products that are obtained from such distillation have Mercaptan content And / or reduction of hydrogen sulfide content and (e) removal of sulfide-type products from the distillation column reactor at a certain point, the distillation reaction area. 2. The process as defined in the claim. Where the hydrocarbon current This is a decomposed light naphtha distillation composed of fraction C5 and lighter, and C6 and heavier substances, C5 and the lighter ones. It is the superstructure from the aforementioned distillation column reactor, and section C6 and the above heavier substances are removed as The bottoms from the distillation column reactor 3. The process as defined in claim 1, where there is a large amount of diolefin. 4. The process as defined in claim 3, where the mercaptans and / or hydrogen sulphide are at such a high level. All are considered to be reacted with diolefins to produce. Sulfide type And the products obtained from such distillation are classified as free from mercaptans and / or hydrogen sulfide. More than enough of the said diolefin did not react with the mercaptans. And / or hydrogen sulfide that 6. The process as defined in claim 1, where the diolefin is 7. The process for processing the decomposed naphthalene distillate to be used as the feedstock of the ether reaction. And / or alkyl group addition reactions, which It consists of the process of (a) the infeed of dissolved light naphthalene distillates containing mercaptan. And / or hydrogen sulfide And diolefin as a component, enters the distillation column reactor with the stripping zone and the distillation reaction zone.The decayed naphthalene has sections C6 + and sections C5- (b). Adequate amount of hydrogen is fed into the aforementioned distillation column reactor. To maintain the catalyst in its active form, but below the column flooding level (c), the separation of the C6 + fraction from the C5 - thereof in the separation zone. (D) The following operations are carried out simultaneously in the distillation zone. (I) Contact diolefin with Mercaptan And / or hydrogen sulfite that is The components are within the aforementioned decomposition naphtha. While having hydrogen In the reaction zone Distilled with metal oxide catalysts among VIII supported on the particulate substrate. Alumina prepared in a form that acts as a structure for catalytic distillation. By this way, The reaction between the part of the mercaptans And / or hydrogen sulfide with part of Diolefin until it is produced as a sulfide. (Ii) selection of hydrogenation of the remaining diolefins to monoolefins, and (iii) separation of such sulphides from the yield. Substances obtained from such distillation by Fractional distillation (e) removal of products that are obtained from type distillation. C5- out of the distillation column reactor As in the figure above the head The resulting products from this C5- distillation had decreased hydrogen sulphides, mercaptans and diolefins, and (f) the sulphide yields. Out of the aforementioned distillation column reactor in the figure The bottom substance is accompanied by the aforementioned C6 + section. 8. The process as defined in claim 7, where there is more than enough diofin when thought. Are moles compared to mercaptans. 9. The process as defined in claim 7, where all alumni are classified, is contained within the decomposed naphtha lighter current. The captain reacts with olefins to produce sulfides. And produce products that are From the type C5- distillation that is classified as derived from mercaptan And / or hydrogen sulfide 1 0. Processes for processing the refined naphthalbide Disintegrated to be used as an input material for ether and / or alkyl group addition reactions. It consists of the process of (a) feeding of lightly decomposed refined naphtha substances containing mercapta, H2S or a mixture of them. And diolefins in the amount of diolefins in the amount of mills as compared to mercap. It enters the distillation column reactor with a separation zone. And the distillation zone of the decayed light naphtha has sections C6 + and sections C5- (b). Sufficient amount of hydrogen is fed into the distillation column reactor at Will maintain the reactant state in an active form But it must be below the column flooding level (c). Separation of the C6 + from the C5- section in the separate zone. (D) The following operations are carried out simultaneously in the distillation zone. (I) Contact diolefin with The mercaptans that are constituted within the naphtha. Such a broken light While there is hydrogen in the distillation zone with a catalyst that is Metal oxides of group VII supported on a substrate that is Particulate alumina prepared in the form made. Function as a structure for catalytic distillation In this way, there is a reaction between the mercaptans. It is said that all with the aforementioned diolefin is a product of a sulfide and a product of a refined substance. (Ii) Selection of hydrogenation to the diolphin. And (iii) separation of the sulphides from the products of such distillation by Fractional Distillation (e) Removing the product of the C5-type distillation from the distillation column reactor. In the form of substances over the head The resulting products from the C5-type distillation had reduced mercapaint and diolefin content, and (f) the separation of the sulfide from the distillation column reactor. As mentioned in The bottom part is accompanied by section C6 + as mentioned.
1. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 10 ในที่ซึ่งแนพธาเบาที่แตกตัวแล้ว ดังกล่าวมีเพนทีน -1 และ 3-เมทบิวทีน-1 เป็นองค์ประกอบที่ถูกทำให้กลายเป็นไอโซเมอร์ของสาร เหล่านี้ 11. The process as defined in claim 10, where the disintegrated naphthabau They contain pentene-1 and 3-meth-butene-1. Is a constituent of these substances 1
2. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 1 ในที่ซึ่งโลหะในหมู่ VIII ดังกล่าว คือพัลเลเดียม 12. The process as defined in claim 1, where the metals among the said VIII are palladium 1.
3. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 7 ในที่ซึ่งโลหะในหมู่ VIII ดังกล่าว คือพัลเลเดียม 13.Process as defined in claim 7, where the metals among those VIII are palladium 1.
4. กระบวนการตามที่กำหนดไว้ในข้อถือสิทธิที่ 10 ในที่ซึ่งโลหะในหมู่ VIII ดังกล่าวคือพัลเลเดียม4. The process as set out in claim 10, where the metals among those VIII are palladium.