Claims (12)
DEPCT65DEPCT65
1. ชุดป้องกันประกอบด้วยคู่ของส่วนปลอกและส่วนลำตัว, ที่ซึ่งหนึ่งของคู่ของส่วนปลอกประกอบด้วยส่วน A ที่คลุมข้อศอกของแขนขวาของผู้สวม ใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกัน, ที่ซึ่งอีกหนึ่งของคู่ของส่วนปลอกประกอบด้วยส่วน B ที่คลุมข้อศอกของแขนซ้ายของ ผู้สวมใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกัน, ที่ซึ่งส่วนลำตัวประกอบด้วยส่วน C ที่คลุมกล้ามเนื้อหน้าอกใหญ่ของผู้สวมใส่ที่เวลา ของการสวมใส่ชุดป้องกัน, ที่ซึ่งชุดป้องกันมีผ้าที่หนึ่งที่มีความสามารถในการซึมผ่านได้ของอากาศของ 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ตารางเซนติเมตร/วินาทีหรือมากกว่าและผ้าที่สองที่มีความต้านทานการงอของ 80 มม.หรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งผ้าที่หนึ่งถูกจัดเรียงบนส่วน C และมีโครงสร้างที่ถูกทำเป็นชั้นของผ้าไม่ถักไม่ทอ ที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่หนึ่งและผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่หนึ่ง, และ ที่ซึ่งผ้าที่สองถูกจัดเรียงบนส่วน A และส่วน B และมีโครงสร้างที่ถูกทำเป็นชั้นของผ้า ไม่ถักไม่ทอที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่สองและผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่สอง1. Protective clothing consists of a pair of sheath and body parts, where one pair of sheath consists of part A covering the elbow of the wearer's right arm. Put on at the time of wearing the protective suit, where the other of the pair of sheath sections consists of the B section that covers the elbow of the left forearm. The wearer at the time of wearing the protective suit, where the torso consists of a C-section covering the wearer's pectoral muscles at the time of wearing protective clothing, where the protective clothing has a first fabric with an air permeability of 30 cubic centimeters/cm²/s or more and a second fabric with a flexing resistance of 80. mm or less, where the first fabric is arranged on the C-section and has a layered structure of the non-woven non-woven fabric. where the first spun bonded and the first melt-blown non-woven fabric, and where the second fabric is arranged on the A and B sections and has a layered structure of the fabric. Second spun bonded non-woven fabric and second melt-sprayed non-woven fabric
2. ชุดป้องกันของข้อถือสิทธิที่ 1, ที่ซึ่งความหนาแน่นรวมของผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่หนึ่งเป็น 0.05 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือ มากกว่าและ 0.18 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งความหนาของผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่หนึ่งเป็น 70 ไมโครเมตรหรือมากกว่า และ 200 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่หนึ่งเป็นผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่ถูกอัด, ที่ซึ่งผ้าไม่ถักไม่ทอที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่หนึ่งและผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่หนึ่ง ถูกติดโดยสารติดที่หนึ่ง และปริมาณองค์ประกอบของสารติดที่หนึ่งเป็น 0.5 ก./ตารางเมตร หรือมากกว่า และ 5.0 ก./ตารางเมตร หรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งความหนาแน่นรวมของผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่สองเป็น 0.20 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือ มากกว่าและ 0.53 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งความหนาของผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่สองเป็น 30 ไมโครเมตรหรือมากกว่า และ 120 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งความหนาแน่นรวมของผ้าไม่ถักไม่ทอที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่สองเป็น 0.10 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือมากกว่าและ 0.15 ก./ลูกบาศก์เซนติเมตรหรือน้อยกว่า, ที่ซึ่งความหนาของผ้าไม่ถักไม่ทอที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่สองเป็น 120 ไมโครเมตรหรือ มากกว่าและ 200 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า, และ ที่ซึ่งผ้าไม่ถักไม่ทอที่ถูกเชื่อมยึดแบบปั่นที่สองและผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่นหลอมที่สองถูก ทำเป็นชั้นโดยตรงหรือถูกติดโดยสารติดที่สอง และเมื่อสารติดที่สองถูกใช้ปริมาณองค์ประกอบ ของสารติดที่สองมากกว่า 0 ก./ตารางเมตร และ 0.4 ก./ตารางเมตร หรือน้อยกว่า2. Protective clothing of Claim 1, where the bulk density of the first meltblown non-woven fabric is 0.05 g/cm3 or more and 0.18 g/cm3. or less, where the thickness of the first melt-sprayed non-woven fabric is 70 µm or more and 200 µm or less, where the first melt-sprayed non-woven fabric is extruded fusible, where the first spun-bonded non-woven fabric and the first fusible-sprayed non-woven fabric was stuck in a passenger stranded in one place and the composition content of the first adhesive is 0.5 g/m2 or more and 5.0 g/m2 or less, where the bulk density of the second melt-sprayed non-woven fabric is 0.20 g/m3. cm or more and 0.53 g/cm3 or less, where the thickness of the second melt-bonded non-woven fabric is 30 µm or more and 120 µm or less, where the bulk density of the second spun-bonded non-woven fabric is is 0.10 g/cm3 or more and 0.15 g/cm3 or less, where the thickness of the second spun-bonded non-woven fabric is 120 µm or more and 200 µm or less, and where the non-woven fabric does not The second spun bonded woven and the second melt-sprayed non-woven fabric were Directly tiered or attached to second passenger and when the second addict is used, the amount of constituents of the secondary substance is greater than 0 g/m2 and 0.4 g/m2 or less.
3. ชุดป้องกันของข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2, ที่ซึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นใยเฉลี่ยของเส้นใยที่ประกอบขึ้นเป็นผ้าไม่ถักไม่ทอแบบพ่น หลอมที่หนึ่งเป็น 3 ไมโครเมตรหรือมากกว่าและ 15 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า3. Protective clothing of claim 1 or 2, where the average fiber diameter of the fibers that make up the sprayed non-woven fabric. First annealing is 3 µm or more and 15 µm or less.
4. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3, ที่ซึ่งค่า QF ของผ้าที่หนึ่งเป็น 0.30 หรือมากกว่า, และ ค่า QF ของผ้าที่สองเป็น 0.20 หรือน้อยกว่า4. Protective clothing of any of clauses 1 to 3, where the QF of the first fabric is 0.30 or more, and the QF of the second fabric is 0.20 or less.
5. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 4, ที่ซึ่งพื้นที่รวมทั้งหมดของผ้าที่หนึ่งเป็น 15% หรือมากกว่าและ 70% หรือน้อยกว่าบน พื้นฐานพื้นที่รวมทั้งหมดของชุดป้องกัน, และ ที่ซึ่งพื้นที่รวมทั้งหมดของผ้าที่สองเป็น 30% หรือมากกว่าและ 85% หรือน้อยกว่าบน พื้นฐานพื้นที่รวมทั้งหมดของชุดป้องกัน5. Protective clothing of any of clauses 1 to 4, where the total area of the first fabric is 15% or more and 70% or less on Basic total area of protective clothing, and where the total area of the second fabric is 30% or more and 85% or less on The basic total area of the protective suit.
6. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 5, ประกอบต่อมาด้วย ส่วนคลุมศรีษะ, ที่ซึ่งส่วนลำตัวและส่วนคลุมศรีษะถูกรวมกัน6. THE PROTECTIVE SUIT OF ONE OF CLAIMS 1 TO 5, INCLUDING FOLLOWING The hood, where the torso and hood are combined.
7. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 6, ประกอบต่อมาด้วย ผ้าด้านล่าง, ที่ซึ่งส่วนลำตัวและผ้าด้านล่างถูกรวมกัน7. The protective clothing of any of Articles 1 to 6, consequently, consists of the undercloth, where the torso and underclothes are joined.
8. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 7, ที่ซึ่งส่วนลำตัวประกอบต่อมาด้วยส่วน D ที่คลุมกล้ามเนื้อใต้กระดูกสะบักของผู้สวมใส่, ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกัน, และ ที่ซึ่งผ้าที่หนึ่งถูกจัดเรียงบนส่วน D8. Protective clothing of any of claims 1 to 7, where the torso consists of segment D covering the muscles under the scapula of the wearer, at the time of wearing the protective clothing, and where the first fabric is arranged on part D.
9. ชุดป้องกันของข้อถือสิทธิที่ 6, ที่ซึ่งอย่างน้อยส่วนหนึ่งของส่วนคลุมศรีษะถูกทำจากผ้าที่หนึ่ง9. Protective clothing of the 6th claim, where at least part of the head covering is made of the first cloth.
10. ชุดป้องกันของข้อถือสิทธิที่ 7, ที่ซึ่งผ้าด้านล่างประกอบด้วยส่วน E ที่คลุมข้อเข่าของขาขวาของผู้สวมใส่ที่เวลาของ การสวมใส่ชุดป้องกัน และส่วน F ที่คลุมข้อเข่าของขาซ้ายของผู้สวมใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุด ป้องกัน, และ ที่ซึ่งผ้าที่สองถูกจัดเรียงบนส่วน E และส่วน F10. Protective clothing of claim 7, where the lower fabric consists of part E covering the knee joint of the right leg of the wearer at the time of Wearing the protective suit and part F covering the knee joint of the wearer's left leg at the time of wearing the protective suit, and where the second cloth is arranged on the E and part F.
11. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 10, ที่ซึ่งหนึ่งของคู่ของส่วนปลอกมีส่วนที่ถูกเย็บที่หนึ่งในแบบซึ่งผ้าที่หนึ่งและผ้าที่สองถูก เย็บ, ที่ซึ่งอีกหนึ่งของคู่ของส่วนปลอกมีส่วนที่ถูกเย็บที่สองในแบบซึ่งผ้าที่หนึ่งและผ้าที่สอง ถูกเย็บ, ที่ซึ่งส่วนที่ถูกเย็บที่หนึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างข้อศอกของแขนขวาของผู้สวมใส่และส่วน ฐานของแขนขวาของผู้สวมใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกัน, และ ที่ซึ่งส่วนที่ถูกเย็บที่สองถูกสร้างขึ้นระหว่างข้อศอกของแขนซ้ายของผู้สวมใส่และส่วน ฐานของแขนซ้ายของผู้สวมใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกัน11. Protective clothing of any of Articles 1 to 10, where one pair of sheath sections has one sewn part in such a way that the first and second fabrics are sewn, where the other Of a pair of sheath sections there is a second sewn section in such a way that the first and second fabrics are sewn, where the first sewn section is formed between the elbow of the wearer's right arm and the section. the base of the wearer's right arm at the time of wearing the protective suit, and where a second stitched portion is created between the elbow of the wearer's left forearm and the the base of the wearer's left arm at the time of wearing the protective suit
12. ชุดป้องกันของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 11, ที่ซึ่งส่วนลำตัวมีส่วน G ที่คลุมเอวของผู้สวมใส่ที่เวลาของการสวมใส่ชุดป้องกันและ ส่วนที่ถูกเย็บที่สามในแบบซึ่งผ้าที่หนึ่งและผ้าที่สองถูกเย็บ, ที่ซึ่งผ้าที่สองถูกจัดเรียงบนส่วน G, ที่ซึ่งส่วน G มีส่วนรวบรวมที่รัดแน่นเอวของผู้สวมใส่, และ ที่ซึ่งส่วนที่ถูกเย็บที่สามถูกจัดให้มีบนด้านศรีษะของผู้สวมใส่แทนที่จะเป็นส่วน รวบรวม -----------------------------------------------------------12. Protective clothing of any of Articles 1 to 11, where the torso has a G covering the waist of the wearer at the time of wearing the protective clothing and The third stitched section in such a way that the first fabric and the second fabric are sewn, where the second fabric is arranged on the G section, where the G section has gathered sections that tighten the wearer's waist, and where A third sewn section is provided on the wearer's head instead of the gathered section ----------------------------- ------------------------------