TH2101003814A - แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง และ วิธีการสำหรับการผลิตสิ่งเดียวกันนี้ - Google Patents

Abstract

DEPCT65 22/09/2564 ที่ถูกจัดให้มีคือแผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงที่มีความแข็งแรงสูง (high-strength hot-dip galvanized steel sheet) และความต้านทานการแตกร้าวระยะหลังที่ดีเยี่ยม และวิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้า แผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงมีองค์ประกอบทางเคมีจำเพาะและ โครงสร้างระดับจุลภาคของเหล็กกล้าต่อไปนี้ ในบริเวณที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตร ตั้งแต่ชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าในทิศทางความหนาของแผ่นเหล็กกล้า, สัดส่วนพื้นที่ทั้งหมด ของมาร์เทนไซต์และไบไนต์ที่มีคาร์ไบต์เท่ากับ 60 ถึง 100% และขนาดเกรนโดยเฉลี่ยของ ออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 15 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า ในบริเวณที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรจากชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าในทิศทางความหนาของแผ่นเหล็กกล้า อัตราส่วน ของความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัมที่ตำแหน่ง 5 นาโนเมตรหรือมากกว่า จากขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมต่อความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัม ที่ขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 0.20 หรือมากกว่า แผ่นเหล็กกล้ามีชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่ม ร้อนบนพื้นผิวของสิ่งนั้น ----------------------------------------------------------- DEPCT64 ที่ถูกจัดให้มีคือแผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงที่มีความ แข็งแรงสูง (high-strength hot-dip galvanized steel sheet) และความต้านทานการแตกร้าวระยะหลัง ที่ดีเยี่ยม และวิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้าบาง แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงมีองค์ประกอบทางเคมีจำเพาะ และโครงสร้างระดับจุลภาคของเหล็กกล้าต่อไปนี้ ในบริเวณที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรตั้งแต่ชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบางในทิศทางความหนาของแผ่นเหล็กกล้าบาง, สัดส่วนพื้นที่ทั้งหมดของมาร์เทนไซต์และไบไนต์ที่มีคาร์ไบด์เท่ากับ 60 ถึง 100% และขนาดเกรน โดยเฉลี่ยของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 15 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า ในบริเวณที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรจากชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบางในทิศทางความหนาของแผ่นเหล็กกล้าบาง อัตราส่วนของความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอน (Auger electron) สเปกตรัม ที่ตำแหน่ง 5 นาโนเมตรหรือมากกว่าจากขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมต่อความสูงของยอดคลื่น ของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัมที่ขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 0.20 หรือมากกว่า แผ่นเหล็กกล้าบางมีชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนบนพื้นผิวของสิ่งนั้น -----------------------------------------------------------

Claims (6)

DEPCT65 22/09/2564 1. แผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง (high-strength hot-dip galvanized steel sheet) ที่มีองค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน % โดยมวลประกอบรวมด้วย C:0.08 ถึง 0.35% Si: 0.01 ถึง 3.0% Mn: 2.0 ถึง 4.0% P: 0.010% หรือน้อยกว่า (ที่ไม่รวมถึง 0) S: 0.002% หรือน้อยกว่า (ที่ไม่รวมถึง 0) A1: 0.01 ถึง 1.50% และ B: 0.0005 ถึง 0.010% และ ที่ยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูกเลือกจาก Mo: 0.03 ถึง 2.0% และ Ti: 0.010 ถึง 0.10%, โดยมีส่วนที่เหลือที่เป็น Fe และสารมลทินที่เลี่ยงไม่ได้ ที่ซึ่งแผ่นเหล็กกล้ามีโครงสร้างระดับจุลภาคของเหล็กกล้าในที่ซึ่งในบริเวณที่ทอดขยาย จาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรตั้งแต่ชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบางในทิศทางความหนาของแผ่น เหล็กกล้า สัดส่วนพื้นที่ทั้งหมดของมาร์เทนไซต์และไบไนต์ที่มีคาร์ไบด์เท่ากับ 60 ถึง 100% และ ขนาดเกรนโดยเฉลี่ยของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 15 ไมโครเมตรหรือน้อยกว่า และในที่ซึ่งในบริเวณ ที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรจากชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบางในทิศทางความหนา ของแผ่นเหล็กกล้า อัตราส่วนของความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัม ที่ตำแหน่ง 5 นาโนเมตรหรือมากกว่าจากขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมต่อความสูงของยอดคลื่น ของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัมที่ขอบเกรนของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 0.20 หรือมากกว่า และ ที่ซึ่งแผ่นเหล็กกล้ามีชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนบนพื้นผิวของสิ่งนั้น 2. แผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง องค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน% โดยมวลยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูกเลือกจาก Nb: 0.005 ถึง 0.20% และ V:0.005 ถึง 2.0% 3. แผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งองค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน% โดยมวลยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูก เลือกจาก Cr: 0.005 ถึง 2.0% Ni: 0.005 ถึง 2.0% Cu: 0.005 ถึง 2.0% Ca: 0.0002 ถึง 0.0050% REM: 0.0002 ถึง 0.0050% Sn: 0.001 ถึง 0.05% และ Sb: 0.001 ถึง 0.05% 4. แผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใด ข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนเป็นชั้นชุบสังกะสีและอบอ่อนแบบจุ่มร้อน 5. วิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง, วิธีการ ที่ประกอบรวมด้วย: การนำเหล็กแท่งแบนที่มีองค์ประกอบทางเคมีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งผ่านการรีดร้อน, การเย็นตัว และการขดเพื่อผลิตแผ่นรีดร้อนด้วยวิธีนี้; การแช่กรด ให้แก่แผ่นรีดร้อน; การรีดเย็นของแผ่นรีดร้อนที่ได้มา; การนำแผ่นรีดเย็นผ่านการอบอ่อนที่รวมถึง การให้ความร้อนที่ 750 ถึง 950 องศาเซลเซียส, การคงสภาพเป็นเวลา 10 ถึง 600 วินาที, ตามด้วย การเย็นตัวถึง 550 องศาเซลเซียสที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 3 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า และ การคงสภาพที่อุณหภูมิ Ms ถึง 550 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 300 วินาทีหรือน้อยกว่า; การนำแผ่นอบ อ่อนผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน; ที่เป็นทางเลือกคือการนำแผ่นชุบสังกะสีผ่านกรรมวิธีชุบ สังกะสีและอบอ่อน; การให้ความเย็นแก่แผ่นที่ได้มาถึงอุณหภูมิ Ms ที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า; และตามด้วยการนำแผ่นที่ได้มาผ่านขั้นตอนการเย็นตัวเพื่อ ให้สอดคล้องกับสูตร (1) ต่อไปนี้ที่ซึ่งในขั้นตอนการเย็นตัว ความเครียดมากกว่า 0% และ 0.067% หรือน้อยกว่าถูกให้แก่แผ่นที่ได้มาที่ 250 องศาเซลเซียสถึงอุณหภูมิ Ms: Loge([P]x[C]x(8.65 - 474xDAx[B])xt) + 35.4 มากกว่าหรือเท่ากับ 13320/(273 + T) + 4831/ (273 +T-100x[Si]), (1) ซึ่งในสูตร (1) เมื่อ DAx[B] มากกว่าหรือเท่ากับ 0.00912, DAx[B] ถูกกำหนดที่ 0.00912 ซึ่ง [P], [C], [B] และ [Si] ในสูตร (1) เป็นปริมาณ (% โดยมวล) ของ P, C, B และ Si ตามลำดับในเหล็กกล้า ซึ่ง DA เป็นขนาดเกรน (ไมโครเมตร)ของออสเทไนต์เดิม ซึ่ง T เป็นอุณหภูมิการคงสภาพ (องศาเซลเซียส) และซึ่ง t เป็นเวลาคงสภาพทั้งหมด (วินาที) ที่อุณหภูมิการคงสภาพ 6. วิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้าชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง, วิธีการ ที่ประกอบรวมด้วย: การนำเหล็กแท่งแบนที่มีองค์ประกอบทางเคมีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใด ข้อหนึ่งผ่านการรีดร้อน, การเย็นตัว และการขดเพื่อผลิตแผ่นรีดร้อนด้วยวิธีนี้; การแช่กรดให้แก่ แผ่นรีดร้อน; การทำเทมเปอร์ให้แก่แผ่นรีดร้อนที่ได้มาภายใต้สภาวะของอุณหภูมิสูงสูด ที่ต่ำกว่า 400 องศาเซลเซียส; การรีดเย็นของแผ่นรีดร้อนที่ได้มาที่การรีดลดทอน 70% หรือมากกว่า; การนำแผ่นรีดเย็นผ่านการอบอ่อนที่รวมถึงการให้ความร้อนที่ 750 ถึง 950 องศาเซลเซียส, การคงสภาพเป็นเวลา 10 ถึง 600 วินาที, การเย็นตัวถึง 550 องศาเซลเซียสที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 3 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า และการคงสภาพที่อุณหภูมิ Ms ถึง 550 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 300 วินาทีหรือน้อยกว่า; การนำแผ่นอบอ่อนผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน; ที่เป็นทางเลือก คือการนำแผ่นชุบสังกะสีผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีและอบอ่อน; การให้ความเย็นแก่แผ่นที่ได้มาถึง อุณหภูมิ Ms ที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า; และตามด้วยการนำแผ่น ที่ได้มาผ่านขั้นตอนหลังจากนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสูตร ต่อไปนี้ (1) ที่ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนั้น ความเครียดมากกว่า 0% และ 0.067% หรือน้อยกว่าถูกให้แก่แผ่นที่ได้มาที่ 250 องศาเซลเซียสถึง อุณหภูมิ Ms: Loge([P]x[C]x(8.65 - 474xDAx[B])xt) + 35.4 มากกว่าหรือเท่ากับ 13320/(273 + T) + 4831/(273 + T- 100x[Si]), (1) ซึ่งในสูตร (1) เมื่อ DAx[B] มากกว่าหรือเท่ากับ 0.00912, DAx[B] ถูกกำหนดที่ 0.00912 ซึ่ง [P], [C], [B] และ [Si] ในสูตร (1) เป็นปริมาณ (% โดยมวล) ของ P, C, B และ Si ตามลำดับในเหล็กกล้า ซึ่ง DA เป็นขนาดเกรน (ไมโครเมตร) ของออสเทไนต์เดิม ซึ่ง T เป็นอุณหภูมิการคงสภาพ (องศาเซลเซียส) และซึ่ง t เป็นเวลาคงสภาพทั้งหมด (วินาที) ที่อุณหภูมิการคงสภาพ ----------------------------------------------------------- DEPCT64

1. แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง (high-strengthhot-dip galvanized steel sheet) ที่มีองค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน % โดยมวลประกอบรวมด้วย C:0.08 ถึง 0.35% Si: 0.01 ถึง 3.0% Mn: 2.0 ถึง 4.0% P: 0.010% หรือน้อยกว่า (ที่ไม่รวมถึง 0) S: 0.002% หรือน้อยกว่า (ที่ไม่รวมถึง 0) Al: 0.01 ถึง 1.50% และ B: 0.0005 ถึง 0.010% และ ที่ยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูกเลือกจาก Mo: 0.03 ถึง 2.0% และ Ti: 0.010 ถึง 0.10%, โดยมีส่วนที่เหลือที่เป็น Fe และสารมลทินที่เลี่ยงไม่ได้ ที่ซึ่งแผ่นเหล็กกล้าบางมีโครงสร้างระดับจุลภาคของเหล็กกล้าในที่ซึ่งในบริเวณที่ทอด ขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรตั้งแต่ชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบางในทิศทางความหนาของ แผ่นเหล็กกล้าบาง สัดส่วนพื้นที่ทั้งหมดของมาร์เทนไซต์และไบไนต์ที่มีคาร์ไบด์เท่ากับ 60 ถึง 100% และขนาดเกรนโดยเฉลี่ยของออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 15ไมโครเมตรหรือน้อยกว่าและ ในที่ซึ่งในบริเวณที่ทอดขยายจาก 300 ถึง 400 ไมโครเมตรจากชั้นพื้นผิวของแผ่นเหล็กกล้าบาง ในทิศทางความหนาของแผ่นเหล็กกล้าบาง อัตราส่วนของความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอน (Auger electron) สเปกตรัมที่ตำแหน่ง 5 นาโนเมตรหรือมากกว่าจากขอบเกรน ของออสเทไนต์เดิมต่อความสูงของยอดคลื่นของ P ในออเชอิเล็กตรอนสเปกตรัมที่ขอบเกรนของ ออสเทไนต์เดิมเท่ากับ 0.20 หรือมากกว่า และ ที่ซึ่งแผ่นเหล็กกล้าบางมีชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนบนฟื้นผิวของสิ่งนั้น

2. แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง องค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน% โดยมวลยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูกเลือกจาก Nb: 0.005 ถึง 0.20% และ V:0.005 ถึง 2.0%

3. แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูงตามข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งองค์ประกอบทางเคมีซึ่งใน% โดยมวลยังประกอบรวมด้วยหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่ถูก เลือกจาก Cr: 0.005 ถึง 2.0% Ni: 0.005 ถึง 2.0% Cu: 0.005 ถึง 2.0% Ca: 0.0002 ถึง 0.0050% REM: 0.0002 ถึง 0.0050% Sn: 0.001 ถึง 0.05% และ Sb: 0.001 ถึง 0.05%

4. แผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสงตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชั้นชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนเป็นชั้นชุบสังกะสีและอบอ่อนแบบจุ่มร้อน

5. วิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง, วิธีการที่ประกอบรวมด้วย: การนำเหล็กแท่งแบนที่มีองค์ประกอบทางเคมีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งผ่านการรีดร้อน, การ.เย็นตัว และการขดเพื่อผลิตแผ่นรีดร้อนด้วยวิธีนี้; การแช่กรด ให้แก่แผ่นรีดร้อน; การรีดเย็นของแผ่นรีดร้อนที่ได้มา; การนำแผ่นรีดเย็นผ่านการอบอ่อนที่รวมถึง การให้ความร้อนที่ 750 ถึง 950 องศาเซลเซียส, การคงสภาพเป็นเวลา 10 ถึง 600 วินาที, ตามด้วย การเย็นตัวถึง 550 องศาเซลเซียสที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 3 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า และ การคงสภาพที่อุณหภูมิ Ms ถึง 550 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 300 วินาทีหรือน้อยกว่า; การนำแผ่นอบ อ่อนผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน; ที่เป็นทางเลือกคือการนำแผ่นชุบสังกะสีผ่านกรรมวิธีชุบ สังกะสีและอบอ่อน; การให้ความเย็นแก่แผ่นที่ได้มาถึงอุณหภูมิ Ms ที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า; และตามด้วยการนำแผ่นที่ได้มาผ่านขั้นตอนการเย็นตัวเพื่อให้ สอดคล้องกับสูตร (1) ต่อไปนี้ที่ซึ่งในขั้นตอนการเย็นตัว ความเครียดมากกว่า 0% และ 0.067% หรือน้อยกว่าถูกให้แก่แผ่นที่ได้มาที่ 250 องศาเซลเซียสถึงอุณหภูมิ Ms: Loge([P]X[C]X(8.65 - 474XDAX[B])Xt) + 35.4 มากกว่าหรือเท่ากับ 13320/(273 + T) + 4831/(273 + T - 100X[Si]), (1) ซึ่งในสูตร (1) เมื่อ DAX[B] มากกว่าหรือเท่ากับ 0.00912, DAX[B] ถูกกำหนดที่ 0.00912ซึ่ง [P], [C], [B] และ [Si] ในสูตร (1) เป็นปริมาณ (% โดยมวล) ของ P, C, B และ Si ตามลำดับในเหล็กกล้า ซึ่ง DA เป็นขนาดเกรน (ไมโครเมตร) ของออสเทไนต์เดิม ซึ่ง T เป็นอุณหภูมิการคงสภาพ (องศาเซลเซียส) และซึ่ง t เป็นเวลาคงสภาพทั้งหมด (วินาที) ที่อุณหภูมิการคงสภาพ

6. วิธีการสำหรับการผลิตแผ่นเหล็กกล้าบางชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนความแข็งแรงสูง, วิธีการที่ประกอบรวมด้วย: การนำเหล็กแท่งแบนที่มีองค์ประกอบทางเคมีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งผ่านการรีดร้อน, การเย็นตัว และการขดเพื่อผลิตแผ่นรีดร้อนด้วยวิธีนี้; การแช่กรด ให้แก่แผ่นรีดร้อน; การทำเทมเปอร์ให้แก่แผ่นรีดร้อนที่ได้มาภายใต้สภาวะของอุณหภูมิสูงสุด ที่ต่ำกว่า 400 องศาเซลเซียส; การรีดเย็นของแผ่นรีดร้อนที่ได้มาที่การรีดลดทอน 70% หรือมากกว่า; การนำแผ่นรีดเย็น ผ่านการอบอ่อนที่รวมถึงการให้ความร้อนที่ 750 ถึง 950 องศาเซลเซียส, การคงสภาพเป็นเวลา 10 ถึง 600 วินาที, การเย็นตัวถึง 550 องศาเซลเซียสที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 3 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า และการคงสภาพที่อุณหภูมิ Ms ถึง 550 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 300 วินาทีหรือน้อยกว่า; การนำแผ่นอบอ่อนผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน; ที่เป็นทางเลือก คือการนำแผ่นชุบสังกะสีผ่านกรรมวิธีชุบสังกะสีและอบอ่อน; การให้ความเย็นแก่แผ่นที่ได้มาถึง อุณหภูมิ Ms ที่อัตราการเย็นตัวเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส/วินาทีหรือสูงกว่า; และตามด้วยการนำแผ่น ที่ได้มาผ่านขั้นตอนหลังจากนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับสูตร ต่อไปนี้ (1) ที่ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนั้น ความเครียดมากกว่า 0% และ 0.067% หรือน้อยกว่าถูกให้แก่แผ่นที่ได้มาที่ 250 องศาเซลเซียสถึง อุณหภูมิ Ms: Loge([P]X[C]X(8.65 - 474XDAX[B])Xt) + 35.4 มากกว่าหรือเท่ากับ 13320/(273 + T) + 4831/(273 + T - 100X[Si]), (1) ซึ่งในสูตร (1) เมื่อ DAX[B] มากกว่าหรือเท่ากับ 0.00912, DAX[B] ถูกกำหนดที่ 0.00912 ซึ่ง [P], [C], [B] และ [Si] ในสูตร (1) เป็นปริมาณ (% โดยมวล) ของ P, C, B และ Si ตามลำดับในเหล็กกล้า ซึ่ง DA เป็นขนาดเกรน (ไมโครเมตร) ของออสเทไนต์เดิม ซึ่ง T เป็นอุณหภูมิการคงสภาพ (องศาเซลเซียส) และซึ่ง t เป็นเวลาคงสภาพทั้งหมด (วินาที) ที่อุณหภูมิการคงสภาพ -----------------------------------------------------------