TH20005A - A biodegradable, multi-component polymer material with a non-modified starch-like polysaccharide base. - Google Patents

A biodegradable, multi-component polymer material with a non-modified starch-like polysaccharide base.

Info

Publication number
TH20005A
TH20005A TH9501000495A TH9501000495A TH20005A TH 20005 A TH20005 A TH 20005A TH 9501000495 A TH9501000495 A TH 9501000495A TH 9501000495 A TH9501000495 A TH 9501000495A TH 20005 A TH20005 A TH 20005A
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
mixture
weight
poly
caprolactone
approximately
Prior art date
Application number
TH9501000495A
Other languages
Thai (th)
Other versions
TH20005B (en
TH7698B (en
Inventor
คริชแนน นายโมฮัน
นารายัน นายรามานี
Original Assignee
นายดำเนิน การเด่น
นายวิรัช ศรีเอนกราธา
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นายต่อพงศ์ โทณะวณิก
Filing date
Publication date
Application filed by นายดำเนิน การเด่น, นายวิรัช ศรีเอนกราธา, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นายต่อพงศ์ โทณะวณิก filed Critical นายดำเนิน การเด่น
Publication of TH20005A publication Critical patent/TH20005A/en
Publication of TH20005B publication Critical patent/TH20005B/en
Publication of TH7698B publication Critical patent/TH7698B/en

Links

Abstract

การผสมที่เข้ากันได้ของโพลิเอสเทอร์ที่ไม่ชอบน้ำที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพแป้งที่ไม่มีการดัดแปร หรือโพลิแซคคาไรด์ที่คล้ายคลึงกันชนิดอื่น ซึ่งมีน้ำน้อยกว่า 1% โดยน้ำหนัก,โพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจไม่ชอบน้ำ, สารทำให้นิ่ม และสารเติมแต่งชนิดอื่น ของผสมนั้นซึ่งถูกผลิตขึ้นเมื่อไม่มีน้ำโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ที่ควรใช้นั้นคือ โพล(E-แคโพรแลคโทน) และแป้งที่ควรใช้นั้นได้จากข้าวโพดสารทำให้ยึดโดยเฉพาะที่มีปริมาณเล็กน้อยซึ่งรวมอยู่เพื่อให้ได้การยึดจนขาดที่สูงโดยเฉพาะในสารผสมที่ทำให้เกิดฟิล์มที่มีปริมาณของแป้งอย่างมีนัยสำคัญ แป้งนั้นเป็นวัฏภาคที่ไม่ต่อเนื่องซึ่งอาจทำให้นิ่มดดยสมบูรณืหรือเป็นบางส่วน และโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์นั้นเป็นวัฏภาคแบบต่อเนื่อง โพลิเมอร์ที่ควรใช้นั้นมีสมบัติการเกิดฟิล์มโดยเฉพาะและทนทานต่อน้ำและความชื้น Compatible blends of biodegradable hydrophobic polyester, non-modified starch. Or other similar polysaccharides Which contains less than 1% water by weight, other biodegradable polymers Which may not like water, softeners and other additives The mixture, which is produced in the absence of polyester water Polymers that should be used are The pollutants (E-caprolactone) and preferred starch are obtained from corn, especially small amounts of binder, which are included to achieve high adhesion, especially in mixtures that cause Films with significant amounts of starch Starch is an intermittent cycle that can be soft, completely or partially soft. And polyesters Polymers are a continuous cycle. The polymers to use have particular film-forming properties and are resistant to water and moisture.

Claims (7)

1. สารผสมที่ประกอบด้วยของผสมของโพลิแซคคาไรด์ซึ่งไม่มีการตัดแปร ที่มีหน่วย แอลฟา D-กลูโคไพแรโนซิล ที่มีน้ำน้อยกว่าประมาณ 1% โดยน้ำหนัก, สารทำให้นิ่มที่เลือกสำหรับโพลิแซคคาไรด์นั้น, แอลิแฟทิค โพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ที่ไม่ชอบน้ำที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ, และเลือกโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพชนิดอื่นหนึ่งชนิดหรือมากกว่าซึ่งอาจเป็นชนิดไม่ชอบน้ำ ซึ่งผสมเมื่อไม่มีน้ำที่อุณหภูมิสูง ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นเป็นวัฏภาคที่กระจายในโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ เป็นวัฏภาคต่อเนื่องและมี 25 ถึง 60% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น และซึ่งสารอินทรีย์ เพอออกไซด์ที่ได้ซึ่งมีโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ในปริมาณเพื่อให้ได้แรงดึงขณะหลอมที่ปรับปรุงแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับสารผสมนั้นที่ไม่มีเพอออกไซด์นั้น 2. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งสารผสมนั้นเสถียรทางกายภาพในน้ำเหลวและไอน้ำ เมื่ออยู่ในความชื้นสูง และแสดงความสามารถที่ลดลงในการซึมผ่านไปทั้งน้ำและไอน้ำ 3. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นคือแป้ง 4. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งโพลิแซคคารไรด์นั้นคือแป้งที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยแป้งที่ได้จากข้าวจ้าวข้าวโพด มันฝรั่ง มันสำปะหลัง ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต และของผสมของสารเหล่านั้น 5. สารผสมของข้อถือสิทธิ 4 นั้น ซึ่งปริมาณเอมิโลสของแป้งนั้นสูงถึงประมาณ 95% โดยน้ำหนัก 6. สารผสมของข้อถือสิทธิ 4 ซึ่งแป้งนั้นได้จากข้าวโพด 7. สารผสมของข้อถือสิทธิ 2 นั้น ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นคือแป้งที่อยู่ในรูปที่ทำให้นิ่มแล้วหรือยังไม่ได้ทำให้นิ่มในปริมาณอย่างน้อย 30% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 8. สารผสมของข้อถือสิทธิ 2 นั้น ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นคือแป้งที่อยู่ในรูปที่ทำให้นิ่มแล้วหรือยังไม่ได้ทำให้นิ่มในปริมาณประมาณ 30 ถึง 45% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 9. สารผสมของข้อถือสิทธิ 5 นั้น ซึ่งโพลแซคคาไรด์นั้นคือแป้งที่อยู่ในรูปที่ทำให้นิ่มแล้วหรือยังไม่ได้ทำให้นิ่มในปริมาณระหว่าง 30 ถึง 45% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 1 0. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ ไม่ชอบน้ำที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพนั้นเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยโพล (-แคโพรแลคโทน), โพลิเมอร์, โคโพลิเมอร์ที่มีฐานเป็น โพลิ(ไกลโคลิค แอซิด) และโพลิ (L-แลคทิค แอซิด), และโคโพลิเมอร์ของโพลิเมอร์เหล่านี้ กับมาเลอิคแอนไฮไครด์ หรือ อะคริลิค แอซิด 1 1. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งสารผสมนั้นมีโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพอีกชนิดหนึ่งที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเซลลูโลสแอซิเทท,โพลิ(ไวนิลแอลอกอฮอล์)สดาร์ช เอสเทอร์ และเอมิโลส เอสเทอร์ และเลือกที่จะมีสารทำให้นิ่ม 1 2. สารผสมของข้อถือสิทธิ 10 นั้น ซึ่งโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ ไม่ชอบน้ำที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพนั้นคือ โพลิ(E-แคโพรแลคโทน) 1 3. สารผสมของข้อถือสิทธิ 10 นั้น ซึ่งโพลิเมอร์นั้นคือ โพลิ(E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิคแอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ 1 4. สารผสมของข้อถือสิทธิ 10 นั้น ซึ่งโพลิเมอร์นั้น คือของผสมของ โพลิ (E-แคไพรแลคโทน) โพลิเมอร์ และโพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ 1 5. สารผสมของข้อถือสิทธิ 13 นั้น ซึ่ง โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮไดรด์) นั้น เป็นโคโพลิเมอร์ ซึ่งเกิด ณ ที่นั้นโดยเพอออกไซด์นั้น 1 6. สารผสมของข้อถือสิทธิ 13 นั้น ซึ่ง โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮโฃไดรด์) นั้น เป็นโคโพลิเมอร์ซึ่งแยกสังเคราะห์โดยการเริ่มต้นจากเพออกไซด์และต่อจากนั้นรวมเข้าไปในสารผสมนั้น 1 7. สารผสมของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 15 หรือ 16 นั้น ซึ่งเพอออกไซด์ที่ใช้นั้นคือ 2,5-ไดเมธิล-2.5-ได (t-บิวทิลเพอออกซี) เฮกเซน ในปริมาณ 0.05 ถึง 1 ส่วนของเพอออกไซด์ต่อหนึ่งร้อยส่วนของโพลิเอสเทอร์โพลิเมอร์นั้น 1 8. สารผสมของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 15 หรือ 16 นั้น ซึ่งปริมาณของมาเลอิค แอนไฮไดรด์ที่เติมคือจากประมาณ 1 ถึง 5 ส่วนต่อหนึ่งร้อยส่วนของ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน) โดยน้ำหนัก 1 9. สารผสมของข้อถือสิทธิ 12, 13 หรือ 14 นั้น ซึ่งปริมาณของ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน) ในสารผสมนั้นอย่างน้อยที่สุดประมาณ 35% โดยน้ำหนัก 2 0. สารผสมของข้อถือสิทธิ 12, 13 หรือ 14 นั้น ซึ่งปริมาณของ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน) ในสารผสมนั้นคือประมาณ 35 ถึง 60% โดยน้ำหนัก 2 1. สารผสมของข้อถือสิทธิ 14 นั้น ซึ่งปริมาณของ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮไดรด์) นั้น เป็นโคโพลิเมอร์ในสารผสมนั้นอย่างน้อยที่สุดประมาณ 0.05% โดยน้ำหนัก 2 2. สารผสมของข้อถือสิทธิ 11 นั้น ซึ่งปริมาณของโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพที่เพิ่มเติมนั้นในสารผสมอย่างน้อยที่สุด 1% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 2 3. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งสารทำให้นิ่มนั้นซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยกล๊เซอรอล, ซอร์บิทอล, กลีเซอรอลโมโนแอซิเทท, กลีเซอรอลไดแอซิเทท, กลีเซอรอลไทรแอซิเทท 2 4. สารผสมของข้อถือสิทธิ 23 นั้น ซึ่งสารทำให้นิ่มนั้นอย่างน้อยที่สุดประมาณ 5% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 2 5. สารผสมของข้อถือสิทธิ 23 นั้น ซึ่งสารทำให้นิ่มนั้นอยู่ระหว่างประมาณ 5 และ 30% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 2 6. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งโพลิไฮดริก แฟทที แอซิด เอสเทอร์ ที่ให้ในสารผสมนั้นเป็นสารทำให้ยึดในปริมาณระหว่างประมาณ 0.5 ถึง 5% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 2 7. สารผสมของข้อถือสิทธิ 26 นั้น ซึ่งโพลิไฮดริก แฟทที แอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ โพลิกลีเซอรอล แฟทที แอซิด เอสเทอร์ 2 8. สารผสมของข้อถือสิทธิ 27 นั้น ซึ่งโพลิกลีเซอรอล แฟทที แอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ เดคากลีเซอรอลเททราโอลีเอท 2 9. สารผสมตามข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งเพอออกไซด์ดังกล่าวเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย 2,5-ไดเมธิล-2,5ได (t-บิวทิลเพอออกซี) เฮกเซน,เบนโซอิลเพอออกไซด์,และได-คูมิล เพอออกไซด์ ในปริมาณ 0.01 ถึง 0.5 ส่วนของเพอออกไซด์ต่อหนึ่งร้อยส่วนของโพลิเอสเทอร์โพลิเมอร์นั้น 3 0. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งในนั้นมีสารเสริมในปริมาณสูงถึง 10% โดยน้ำหนักเทียบกับสารผสมนั้น 3 1. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งในนั้นมีสารเติมแต่งที่ทำหน้าที่เป็นสารเชื่อมที่เลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยโปรทีน, โมโนกลีเซอไรด์, เอธิลีนอะคริลิค แอซิด โพลิเมอร์และของผสมของสารเหล่านั้น และซึ่งสารเติมแต่งนั้นมีอยู่ในช่วงของ 0.1 ถึง 5% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น 3 2. สารผสมของข้อถือสิทธิ 1 นั้น ซึ่งในนั้นมีสารสีและสารเติมแต่งที่เต็ม ซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วย แฟทที แอซิด, แฟทที แอซิด แอมีด และเอสเทอร์, ไข โพลิเมอร์ที่เติมฟลูออรีน, และโลหะ ออกไซด์, สารหล่อลื่น, สารหน่วงการติดไฟ, สารดัดแปรความหนืด, ซึ่งสารเติมแต่งนั้นมีอยู่ในช่วงของ 0.1 ถึง 5 ส่วนโดยน้ำหนัก เทียบกับ 100 ส่วน ของสารผสมนั้น 3 3. วิธีสำหรับการเตรียมสารผสมโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งประกอบด้วย: การผสมโพลิแซคคาไรด์ ซึ่งมีหน่วยแอลฟา-D-กลูโคไพแรโนซิล ซึ่งมีปริมาณน้ำที่หาได้น้อยกว่าประมาณ 1% โดยน้ำหนัก กับแอลิแฟทิค โพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ที่มีสูตรผสมเมื่อไม่มีน้ำเพื่อเกิดเป็นสารผสมโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นเป็นวัฏภาคที่กระจายในโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ และอยู่ระหว่างประมาณ 25% และ 60% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น และซึ่งสารอินทรีย์เพอออกไซด์ ที่ได้ซึ่งมีโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ในปริมาณเพื่อให้ได้แรงดึงขณะหลอมที่ปรับปรุงแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับสารผสมนั้นที่ไม่มีเพออกไซด์นั้น 3 4. วิธีของข้อถือสิทธิ 33 นั้น ซึ่งแอลิแฟทิค โพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ นั้นคือ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน) 3 5. วิธีของข้อถือสิทธิ 33 นั้น ซึ่งแอลิแฟทิค โพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ นั้นคือ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิคแอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ 3 6. วิธีของข้อถือสิทธิ 33 นั้น ซึ่งสารทำให้นิ่มที่เป็นสารอินทรีย์สำหรับแป้งนั้น และโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ นั้นรวมอยู่ในของผสมนั้น 3 7. วิธีของข้อถือสิทธิ 36 นั้น ซึ่งสารทำให้นิ่มนั้นมีอยู่ในปริมาณประมาณ 5 และ 50% โดยน้ำหนัก 3 8. วิธีของข้อถือสิทธิ 33 นั้น ซึ่งการผสมนั้นที่อุณหภูมิระหว่างประมาณ 130 องศา และ 180 องศาซ 3 9. วิธีของข้อถือสิทธิ 33 นั้น ซึ่งโพลิไฮดริก แฟทที แอซิด เอสเทอร์ ที่ได้ในสารผสมนั้นเป็นสารทำให้ยืด 4 0. วิธีของข้อถือสิทธิ 39 นั้น ซึ่ง โพลิไฮดริก แอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ โพลิกลีเซอรอล แฟทที แอซิด เอสเทอร์ 41. Mixture consisting of a mixture of non-amorphous polysaccharides containing the Alpha D-Glucopyranosil unit. With approximately 1% less water by weight, the softener selected for that polysaccharide, biodegradable anhydrous aliphatic polyester polymers, And select one or more other biodegradable polymers, which may be hydrophobic. Which mixes when there is no water at high temperature The polysaccharide is a phase that is distributed in a continuous cycle of polyester polymers and contains 25 to 60% by weight of the mixture. And which organic substances The resulting peroxides containing polyesters The polymers to obtain improved melting tensile strength compared to that compound without the peroxide 2. Mixture of claim 1, in which the mixture is physically stable in liquid water and steam. When in high humidity 3. The mixture of claim 1 that polysaccharide is starch 4. Mixture of claim 1, which is Lisaccharides are starches selected from a group containing starch derived from rice, corn, potatoes, cassava, wheat, oats and their mixtures. 5. Mixture of claim 4, of which the amount A Milose of starch is about 95% by weight 6. Mixture of claim 4, which starch is derived from corn 7. Mixture of claim 2, in which polysaccharide is starch, is 8. Mixture of claim 2, in which polysaccharide is starch in form. Softened or not softened in an amount of approximately 30 to 45% by weight of the mixture 9. Mixture of claim 5, in which the polosaccharide is starch in the form of a Softened or not softened in an amount of between 30 and 45% by weight of the mixture 1 0. Mixture of claim 1, which is biodegradable, hydrophobic polyester polymers. A Then choose from a group containing polls. (-Caprolactone), polymers, base copolymer Poly (glycolic acid) and poly (L-lactic acid), and the copolymer of these polymers With Maleic Anhydride or Acrylic Acid 1 1. Mixture of claim 1, in which the mixture contains another biodegradable polymer chosen from the group that is Contains cellulose acetate, poly (vinyla-alkohol), dark ester and emylose ester and selectively contain softeners 1 2. Mixture Of claim 10, the biodegradable hydrophobic polyester polymers are Poly (E-caprolactone) 1 3. Mixture of claim 10, where the polymer is Poly (E-caprolactone-co-maleic anhydride) is a copolymer 1 4. Mixture of claim 10, in which the polymer is a mixture of poly (E- The polymer and poly (E-caprolactone-co-maleic anhydride) are copolymer 1 5. Mixture of claim 13 that poly ( E-caprolactone-co-maleic anhydride) is a copolymer born there by the peroxide 1 6. Mixture of claim 13 that poly ( E-caprolactone-co-maleic Anhydride) is a copolymer, which is synthesized by starting from poxides and then incorporating into the mixture.1 7. Mixture of either claim 15 or 16. Which the peroxide used is 2,5-dimethyl-2.5-anhydrous (t-butyl peroxy) hexane in the amount of 0.05 to 1 part of peroxide per hundred parts of that polyester polymers 1 8. Mixture of any of the Claim 15 or 16, which is the amount of Maleik The added anhydride is from approximately 1 to 5 parts per hundred parts of poly (E-caprolactone) by weight 1 9. Mixture of claim 12, 13 or 14, which The amount of poly (E-caprolactone) in that mixture is at least approximately 35% by weight 2 0. Mixture of claim 12, 13 or 14, where the amount of poly (E-CA Prolactone) in that mixture is approximately 35 to 60% by weight 2. 1. Mixture of claim 14 in which the content of poly (E-caprolactone-co-maleic acid Anhydride) is at least approximately 0.05% of the copolymer in that compound by weight 2. 2. Mixture of claim 11, in which the amount of biodegradable polymers added to that mixture 1% by weight of the mixture 2 3. Mixture of claim 1 that the softener, which is selected from the group containing glycerol, sorbitol, glycerol mono. Citate, Glycerol Diacetate, Glycerol Triacetate 2 4. Mixture of claim 23 where the softener is at least approximately 5% by weight of the mixture. 2 5. Mixture of claim 23, in which the softening agent is approximately 5 and 30% by weight of the mixture 2 6. Mixture of claim 1, in which the polyhydric fat acid ester given in the mixture is a stabilizing agent in quantity. Between approximately 0.5 and 5% by weight of the mixture 2 7. Mixture of claim 26, in which the polyhydric fat acid ester is polyglycerol fat. T Acid Ester 2 8. Mixture of claim 27, polyglycerol fat t acid ester is decahglycerol tetraoli. A2 9. Mixture according to claim 1, which peroxide is selected from the group consisting of: 2,5-dimethyl-2,5 (t-butyl peroxy) hexane, benzoyl peroxide, and dicumyl peroxide in the amount of 0.01 to 0.5 parts peroxide per hundred parts of poly. The ester polymers 3 0. The mix of claim 1, in which there is an additional 10% by weight, as opposed to that mixture 3 1. Mixture of claim 1, in which There are additives acting as a selective binding agent from a group consisting of protene, monoglycerides, ethylene-acrylic acid polymers and their mixtures. And which the additive exists in the range of 0.1 to 5% by weight of the mixture 3 2. Mixture of claim 1, in which there is a full color and additive. It was selected from a group containing fat acid, fat acid acid and esters, fluorinated polymer wax, and metal oxides, lubricants, flame retardants, modifiers. Viscosity, in which the additive is in the range of 0.1 to 5 parts wt, compared to 100 parts of the mixture. 3. 3. Methods for the preparation of biodegradable polymer mixtures. Which contains: mixing polysaccharides Which has an alpha-D-glucopiranosyl unit It contains approximately 1% less water content by weight with an anhydrous alkaline polyethylene polymer compound to form a biodegradable polymer compound. The polysaccharides are the phases that are distributed in polyester polymers and are between approximately 25% and 60% by weight of the mixture. And which organic peroxide Obtained with polyester 3 4. Method of claim 33, in which aliphatic polyester polymers are compared to that compound without the poxides, is the polymer in quantity to obtain improved melting tensile strength. Poly (E-caprolactone) 3 5. Method of claim 33, in which the aliphatic polyester polymer is poly (E-caprolactone- Co-Maleic Anhydride) is a copolymer 3 6. Method of claim 33, in which the organic softener for that starch 3 7. Method of claim 36, in which the softening agent is approximately 5 and 50% by weight 3 8. Method of claim. 33, where the mixing is between approximately 130 ° and 180 ° C 3 9. Method of claim 33 is that the polyhydric fat acid ester obtained in the mixture is Elongating agent 4 0. Method of claim 39 is that polyhydric acid ester is polyglycerol fat t acid ester 4. 1. วิธีของข้อถือสิทธิ 40 นั้น ซึ่งโพลกลีเซอรอล แฟทที แอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ เดคากลีเซอรอล เททราโอลิเอท 41. The method of claim 40, where the polglycerol fat t acid ester is decagglycerol tetraoliet 4. 2. สารผสมที่ประกอบด้วยของผสมของโพลิแซคคาไรด์ ซึ่งไม่มีการดัดแปร ที่มีหน่วย แอลฟา-D-กลูโคไพแรโนซิล ที่มีน้ำน้อยกว่าประมาณ 1% โดยน้ำหนัก, สารทำให้นิ่มที่เลือกสำหรับโพลิแซคคาไรด์นั้น, แอลิแฟทิค โพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ที่ไม่ชอบน้ำที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ, และโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพที่เลือกชนิดอื่นหนึ่งชนิดหรือมากกว่าซึ่งอาจเป็นชนิดไม่ชอบน้ำ ซึ่งผสมเมื่อไม่มีน้ำที่อุณหภูมิสูงซึ่งให้สารอินทรีย์ เพอออกไซด์ กับโพลิเอสเทอร์โพลิเมอร์ในปริมาณเพื่อให้ได้แรงตึงขณะหลอม ที่ปรับปรุงแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับสารผสมนั้นที่ไม่มีเพอออกไซด์นั้น ซึ่งโพลิแซคคาไร์ดนั้นเป็นวัฏภาคที่กระจายในโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ เป็นวัฏภาค ต่อเนื่องและมี 25 ถึง 60% โดยน้ำหนักของสารผสม นั้น และซึ่งโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ นั้นคือ โพลิ(E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ 42. Mixture containing a mixture of polysaccharides. Which is not modified with alpha-D-glucopiranosyl units. With approximately 1% less water by weight, the softener selected for that polysaccharide, biodegradable anhydrous aliphatic polyester polymers, And one or more selective biodegradable polymers, which may be hydrophobic. It was mixed when there was no water at high temperature, which gave the organic peroxide and polyester polymers in the amount to achieve the tension during melting. Improved when compared to that compound without peroxide The polysaccharide is a phase that is distributed in a continuous cycle of polyester polymers and contains 25 to 60% by weight of the mixture. That is poly (E-caprolactone-co-maleic anhydride) is a copolymer 4. 3. สารผสมของข้อถือสิทธ 42 นั้น ซึ่งโพลิเมอร์นั้นคือของผสมของ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิค แอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ และ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน) 43. Mixture of Article 42, where the polymer is a mixture of poly (E-caprolactone-co-maleic anhydride), a copolymer and poly (E- Caprolactone) 4 4. วิธีสำหรับการเตรียมสารผสมโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งประกอบด้วย การผสมโพลิแซคคาไร์ ซึ่งมีหน่วยแอลฟา-D-กลูโคไพแรโนซิล ซึ่งมีปริมาณน้ำที่หาได้น้อยกว่าประมาณ 1% โดยน้ำหนัก กับแอลิแฟทิค โพิลเอสเทอร์ โพลิเมอร์ที่มีสูตรผสมเมื่อไม่มีน้ำ ซึ่งสารอินทรีย์เพอออกไซด์ที่ได้ซึ่งมีโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ ในปริมาณเพื่อให้ได้แรงดึงขณะหลอมที่ปรับปรุงแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับสารผสมนั้นที่ไม่มีเพอออกไซด์นั้นเพื่อเกิดเป็นสารผสมโพลิเมอร์ที่สามารถสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งโพลิแซคคาไรด์นั้นเป็นวัฏภาคที่กระจายในโพลิเอสเทอร์ โพลิเมอร์ และอยู่ระหว่างประมาณ 25% และ 60% โดยน้ำหนักของสารผสมนั้น และซึ่งแองลิแฟทิคโพลิเอสเทอร์ นั้นคือ โพลิ (E-แคโพรแลคโทน-โค-มาเลอิคแอนไฮไดรด์) เป็นโคโพลิเมอร์ 44.Method for the preparation of biodegradable polymer mixtures. Which consists of Polysaccharide blends Which has an alpha-D-glucopiranosyl unit Which has approximately 1% less water content by weight with an anhydrous polymer ester polymer that is formulated without water. The resulting organic peroxide containing a large amount of polyester polymers to obtain improved melting tensile strength compared to that compound without peroxide to form a polymer compound that can Biodegradable The polysaccharides are the phases that are distributed in polyester polymers and are between approximately 25% and 60% by weight of the mixture. And where the anaphylactic polyester is poly (E-caprolactone-co-maleic anhydride) is a copolymer 4. 5. วิธีของข้อถือสิทธิ 44 นั้น ซึ่ง โพลิไฮดริก แฟทที แอซิด เอสเทอร์ ที่ได้ในสารผสมนั้นเป็นสารทำให้ยืด 45. Method of claim 44, in which the polyhydric fat acid ester obtained in the mixture is a stretching agent 4. 6. วิธีของข้อถือสิทธิ 45 นั้น ซึ่งโพลิไฮดริก แฟทที แอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ โพลิกลีเซอรอล แฟทที อซิด เอสเทอร์ 46. Method of claim 45, in which polyhydric fat acid ester is polyglycerol fat acid ester 4. 7. วิธีของข้อถือสิทธิ 44 นั้น ซึ่งโพลิกลีเซอรอล แฟททีแอซิด เอสเทอร์ นั้นคือ เดคากลีเซอรอล เททราโอลิเอท7. The method of claim 44 that polyglycerol fat t acid ester is decagglycerol tetraoliet.
TH9501000495A 1995-03-09 A biodegradable, multi-component polymer material with a non-modified starch-like polysaccharide base. TH7698B (en)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH20005A true TH20005A (en) 1996-08-20
TH20005B TH20005B (en) 1996-08-20
TH7698B TH7698B (en) 1998-02-20

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
CA2082051C (en) Biodegradable mould material
CA2113521C (en) Melt processable biodegradable compositions and articles made therefrom
HU229197B1 (en) Biodegradable polymeric compositions comprising starch and a thermoplastic polymer
US5447669A (en) Melt-processed polymer blends
US20120178896A1 (en) Biodegradable polyester
JPH0374446A (en) Polymer-base blend composition containing modified starch
WO1995024447A1 (en) Biodegradabel multi-component polymeric materials based on unmodified starch-like polysaccharides
JP2001123055A (en) Polylactic acid resin composition
JP3008071B2 (en) Esterified vinyl ester grafted starch
GB1446586A (en) Thermoplastic polyurethanes mixed with ehtylene copolymers
US5691403A (en) Biodegradable compositions
JP2005521770A (en) Degradable resin and method for producing the same
TH20005A (en) A biodegradable, multi-component polymer material with a non-modified starch-like polysaccharide base.
TH7698B (en) A biodegradable, multi-component polymer material with a non-modified starch-like polysaccharide base.
CA2226578A1 (en) Meltprocessible starch composition, a process for the preparation thereof and the use of the composition
KR100332163B1 (en) Biodegradable resin composition and a method for preparation thereof
JPH0967468A (en) Polymer composition containing esterified starch
KR0179079B1 (en) Method of making master batch for plastics
JP2978081B2 (en) Biodegradable composition
KR100346644B1 (en) Bio-disintegrable resin composition and preparing method thereof
JPH09137069A (en) Biodegradable composition
JPH09194692A (en) Degradable resin composition
US5308897A (en) Degradable plastics
JPH08311756A (en) Biodegradable short fiber and non-woven fabric
WO2024091912A3 (en) Thermoplastic starch formulations with additives for performance enhancements