Claims (4)
1. กรรมวิธีสำหรับทำน้ำทิ้ง (wastewater) ที่มีสารอินทรีย์และสารที่มีสีซึ่งก่อ ให้เกิดมลภาวะให้บริสุทธิ์ประกอบด้วยขั้นตอน (a) ให้มีบริเวณบำบัดที่ใช้อากาศขั้นต้นที่รวมถึงบริเวณเติม อากาศและบริเวณสงบสำหรับบำบัดน้ำทิ้ง (b) ส่งน้ำทิ้งเข้าไปในบริเวณเติมอากาศดังกล่าว (c) เติมอากาศให้กับน้ำทิ้งในบริเวณเติมอากาศดังกล่าวด้วย แก๊สที่มีออกซิเจนโดยมีผงสารดูดซับของแข็งและของแข็ง มีฤทธิ์ทางชีววิทยาประเภท ต้องใช้อากาศรวมอยู่ด้วยในปริมาณเพียงพอเพื่อลดสารอินทรีย์และสารที่มีสีที่เป็น บ่อเกิดของมลภาวะลงถึงระดับที่ต้องการ เคลื่อนย้ายน้ำทิ้งที่ได้รับการบำบัดและของ แข็งดังกล่าวจากบริเวณเติมอากาศดังกล่าวไปยังบริเวณสงบดังกล่าว (d) ให้น้ำทิ้งที่บำบัดแล้วนั้นและของแข็งดังกล่าวคงอยู่ในบริเวณ สงบเป็นเวลาเพียงพอให้ของแข็งในนั้นตกตะกอนด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกและทำ ให้เกิดเฟสของแข็งที่ตกตะกอน เฟสแรกและเฟสแอคเควียสแรกที่ค่อนข้างปราศจากของแข็ง (e) เคลื่อนย้ายเฟสเฟสแอคเควียสแรกดังกล่าวจากบริเวณบำบัดขั้นต้น ดังกล่าวไปยังบริเวณสัมผัสกับสารเติมออกซิเจน (f) ให้เฟสแอคเควียสเฟสแรกดังกล่าวสัมผัสกับออกซิไดเซอร์ทางเคมีใน บริเวณสัมผัสกับ ออกซิไดเซอร์ เป็นเวลานานพอที่จะขจัดส่วนที่เพิ่มเติมของสารอินทรีย์และสารมีสี ที่ก่อให้เกิดมลภาวะดังกล่าวออก (g) เคลื่อนย้ายเฟสแอคเควียสที่ได้รับการบำบัดแล้ว ดังกล่าวจาก บริเวณสัมผัสกับ ออกซิไดเซอร์ ไปยังบริเวณสัมผัสกับสารดูดซับ (h) กวนเฟสแอคเควียสที่ได้รับการบำบัดแล้วนั้นดังกล่าวในบริเวณสัมผัส กับสารดูดซับโดยมีผงสารดูดซับของแข็งอยู่ด้วยเป็นช่วงเวลากวนนานพอที่จะลด สารอินทรีย์และสารมีสีที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อไปถึงระดับที่ต้องการ (i) หยุดกวนและปล่อยให้สารดูดซับของแข็งไปเฟสแอคเวียสที่ได้รับ การบำบัด้วยสารดูดซับดังกล่าว ตกตะกอนโดยแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นระยะเวลา ในการตกตะกอนนานพอที่จะได้เฟสแอคเควียสที่สองที่ใส ค่อนข้างปราศจากของแข็ง และเฟสของแข็งที่สอง และ (j) แยกเฟสแอคเควียสที่สองดังกล่าว จากเฟสของแข็งที่สองดังกล่าว และระบาย เฟสของเหลวที่สองดังกล่าวออกสู่สิ่งแวดล้อมหรือ เพื่อใช้ต่อไป 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิที่ 1 ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าว ปฏิบัติการใน ภาวะที่มีการไหลอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง การเติมอากาศกับน้ำทิ้งในขั้นตอน (c) ดังกล่าวและ การ ตกตะกอนของของแข็งในบริเวณสงบในขั้นตอน (d) ดังกล่าว เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน; การออกซิไดซิงต่อน้ำทิ้งของขั้นตอน(f)ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการกวนน้ำทิ้งกับสารดูดซับในขั้นตอน(h)การตกตะกอนในขั้นตอน(i) และการแยกในขั้นตอน (j) ดังกล่าว เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและในขณะเดียวกัน 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าว ปฏิบัติการใน ภาวะการไหลเป็นแบทซ์ ซึ่ง การเติมอากาศให้แก่น้ำทิ้งในขั้นตอน (c) ดังกล่าว และการตก ตะกอนของของแข็งในบริเวณสงบในขั้นตอน (d) ดังกล่าว เกิดขึ้นตามลำดับภายใน ที่ว่างอันเดียวกัน การเติมออกซิเจน ให้แก่น้ำทิ้งในขั้นตอน(f)ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจังหวะๆ และการกวนน้ำทิ้งและสารดูดซับในขั้นตอน(h)การตกตะกอนในขั้น ตอน (i) และการแยกในขั้นตอน (j) ดังกล่าวเกิดขึ้นตามลำดับภายในที่ว่างอัน เดียวกัน 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งปริมาณทั้งหมดของสารดูดซับที่ เป็นของแข็ง และของแข็ง ที่มีฤทธิ์ทางชีววิทยาโดยต้องใช้ อากาศที่อยู่ในบริเวณ เติมอากาศดังกล่าว เท่ากับ 50 ถึง 50,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 4 ซึ่งปริมาณของสารดูดซับที่เป็นของ แข็งที่มีอยู่ในบริเวณเติมอากาศดังกล่าว เท่ากับ 25 ถึง 20,000 ส่วนในล้านส่วน ของน้ำทิ้ง 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งปริมาณของสารดูดซับที่เป็น ของแข็งที่มีอยู่ในบริเวณสัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าว เท่ากับ 50 ถึง 50,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งสารดูดซับดังกล่าวคือ ถ่านกัมมันต์ ( activated carbon) 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งทำให้เกิดการกวนในบริเวณสัมผัส กับสารดูดซับดังกล่าว โดยการส่งแก๊สที่มีออกซิเจนภายใต้ความดันเข้าไปในบริเวณสัมผัสดังกล่าว 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งทำการกวนดังกล่าวในบริเวณ สัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวโดยการกวนด้วยเครื่องมือกลในบริเวณสัมผัสดังกล่าว 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งเลือกออกซิไดเซอร์ดังกล่าว จากกลุ่มที่ประกอบด้วย Cl2, NaOCl, KMnO4, H2O2 หรือ O3. 1 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 10 ซึ่งปริมาณของคลอรีน ออกซิไดเซอร์ที่ใช้เท่ากับ 50 ถึง 15,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 1 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปในการเติมสารช่วย ให้เกิดการรวมตัวกัน (flocculation aid)ลงในน้ำทิ้งที่บำบัดแล้วนั้นดังกล่าวในขั้นตอน(c) เพื่อช่วยส่งเสริมการตกตะกอนของของแข็งในบริเวณสงบของขั้นตอน (d) ดังกล่าว 1 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 12 ซึ่งสารช่วยให้มีการรวมตัวกัน ดังกล่าวคือพอลิเมอร์ แคทไอออน 1 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปใน การเติมสารช่วยให้มีการรวมตัวเพื่อช่วยการตกตะกอนของผงสารดูดซับของแข็งลงไปใน เฟสแอคเควียส ที่ได้รับการบำบัดแล้วนั้นในขั้นตอน (h) ดังกล่าว ในบริเวณสัมผัส ของขั้นตอน (i) ดังกล่าว 1 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 14 ที่สารช่วยให้มีการรวมตัวกัน ดังกล่าวคือพอลิเมอร์ แคทไอออน 1 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปใน การเคลื่อนย้ายอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของเฟสของแข็งที่สองดังกล่าวจากบริเวณ สัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวไปยังบริเวณบำบัดเติมอากาศที่ต้องใช้อากาศอยู่ด้วยขั้นต้นดัง กล่าว 1 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 1 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปใน การนำผงสารดูดซับที่เป็นของแข็งและของแข็งที่มีฤทธิ์ทางชีววิทยาประเภทต้องใช้อากาศส่วน หนึ่งออกจากบริเวณบำบัดที่ต้องใช้อากาศขั้นต้นดังกล่าวเพื่อรักษาปริมาณของสารดูดซับและของแข็ง ทางชีววิทยาดังกล่าวที่มีอยู่ในบริเวณเติมอากาศดังกล่าวให้คงอยู่ในระดับที่กำหนด ไว้ล่วงหน้า 1 8. กรรมวิธีสำหรับทำน้ำทิ้งที่มีสารอินทรีย์และสารมีสีที่ก่อให้ เกิดมลภาวะให้บริสุทธิ์ประกอบด้วยขั้นตอน (a) มีบริเวณบำบัดปราศจากอากาศขั้นต้นที่มีบริเวณผสมและ บริเวณสงบเพื่อบำบัดน้ำทิ้ง (b) ส่งน้ำทิ้งเข้าไปในบริเวณผสมปราศจากอากาศดังกล่าว (c) ผสมน้ำทิ้งในบริเวณผสมดังกล่าวโดยใช้วิธีการผสมโดยมี ผงสารดูดซับที่เป็นของแข็งและของแข็งที่มีฤทธิ์ทางชีววิทยา โดยปราศจากอากาศ ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อลดสารอินทรีย์และสารที่มีสีที่ก่อให้เกิดมลภาวะลงไปถึง ระดับที่ต้องการ เคลื่อนย้ายน้ำทิ้งที่บำบัดแล้วนั้น ดังกล่าวและของแข็งจากบริเวณ ผสมดังกล่าวไปยังบริเวณสงบปราศจากอากาศดังกล่าว (d) ให้น้ำทิ้งที่ได้รับการบำบัดแล้วนั้น และของแข็งดังกล่าวคงอยู่ภายใน บริเวณสงบเป็นเวลาเพียงพอสำหรับให้ของแข็งในนั้นตกตะกอนด้วยแรงโน้มถ่วงโลก และ ทำให้เกิดเฟสของแข็งที่ตกตะกอนเฟสแรก และเฟสแอคเควียสเฟสแรกที่ค่อนข้างปราศจาก ของแข็ง (e) เคลื่อนย้ายเฟสแอคเควียสเฟสแรกดังกล่าว จากบริเวณบำบัดที่ ปราศจากอากาศขั้นต้นไปยังบริเวณสัมผัสกับออกซิไดเซอร์ (f) ให้เฟสแอคเควียสเฟสแรกดังกล่าว สัมผัสกับออกซิไดเซอร์ทางเคมี ในบริเวณสัมผัสกับ ออกซิไดเซอร์ เป็นเวลานานพอที่จะขจัดสารอินทรีย์และสาร มีสีที่ก่อให้เกิดมลภาวะดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง (g) เคลื่อนย้าย เฟสแอคเวียสที่บำบัดแล้วนั้นดังกล่าว จากบริเวณ สัมผัสกับ ออกซิไดซ์ ไปยังบริเวณสัมผัสกับสารดูดซับ (h) กวนเฟสน้ำที่บำบัดแล้วนั้นดังกล่าวในบริเวณสัมผัสกับสาร ดูดซับที่มีผงสารดูดซับที่เป็นของแข็งอยู่ด้วยเป็นช่วงเวลาการกวนที่นานพอเพื่อลด สารอินทรีย์และสารมีสีที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อไปถึงระดับที่ต้องการ (i) หยุดการกวนและปล่อยสารดูดซับที่เป็นของแข็งในเฟสแอค- เควียสที่บำบัดด้วยสารดูดซับดังกล่าวเพื่อให้ตกตะกอนโดยแรงโน้มถ่วงของโลกเป็น ระยะเวลานานพอที่จะทำให้เกิดเฟสแอคเควียสที่สองที่ใสที่ค่อนข้างปราศจากของแข็งและ เฟสของแข็งที่สอง และ (j) แยกเฟสแอคเควียสที่สองดังกล่าว ออกจากเฟสของแข็งที่สองดัง กล่าวและระบาย เฟสของเหลวที่สองดังกล่าวออกสู่สิ่งแวดล้อมหรือเพื่อใช้ต่อไป 1 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าว ปฏิบัติการ แบบการไหลอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง การผสมของน้ำทิ้งในขั้นตอน (c) ดังกล่าว และของแข็งที่ตก ตะกอนในบริเวณสงบของขั้นตอน (d) ดังกล่าว เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและในขณะ เดียวกัน การ ออกซิไดซิงของน้ำทิ้งในขั้นตอน(f)ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการกวนน้ำทิ้งและสารดูดซับในขั้นตอน(h)ขั้นตอนการตกตะ กอน (i) และขั้นตอนการแยก (j) ดังกล่าว เกิดขี้นอย่างต่อเนื่องและในขณะ เดียวกัน 2 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าว ปฏิบัติ การ ภาวะการไหลเป็นแบทซ์ ซึ่ง การผสมของน้ำทิ้งในขั้นตอน (c) ดังกล่าวและการตกตะกอน ของของแข็งในบริเวณสงบในขั้นตอน (d) ดังกล่าว เกิดขึ้นตามลำดับภายในที่ว่าง เดียวกัน การออกซิไดซิงของน้ำทิ้ง ในขั้นตอน (f) ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็น จังหวะๆ และ การกวนน้ำทิ้งและสารดูดซับในขั้นตอน (h) การตกตะกอนใน ขั้นตอน (i) และการแยกจากกันในขั้นตอน (j) ดังกล่าวเกิดขี้นตามลำดับภายใน ที่ว่างเดียวกัน 2 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งปริมาณทั้งหมดของสารดูดซับที่เป็น ของแข็งและของแข็งที่มีฤทธิ์ทางชีววิทยาโดยปราศจากอากาศในบริเวณผสม ดังกล่าวเท่ากับ 50 ถึง 50,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 2 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 21 ซึ่งปริมาณของสารดูดซับที่เป็น ของแข็งในบริเวณดังกล่าว เท่ากับ 25 ถึง 20,000 ส่วนในล้านส่วน ของน้ำทิ้ง 2 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งปริมาณของสารดูดซับที่เป็น ของแข็งที่มีอยู่ในบริเวณสัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวเท่ากับ 50 ถึง 50,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 2 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งสารดูดซับดังกล่าว คือ ถ่าน กัมมันต์ 2 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งทำการกวนดังกล่าวในบริเวณ สัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวโดยการส่งแก๊สที่มีออกซิเจนอยู่ด้วยภายใต้ความดันเข้าไป ในบริเวณสัมผัสดังกล่าว 2 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งทำการกวนดังกล่าวในบริเวณ สัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวโดยการกวนด้วยเครื่องมือกลในบริเวณสัมผัสดังกล่าว 2 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ที่เลือก ออกซิไดเซอร์ ดัง กล่าวจากกลุ่มที่ประกอบด้วย Cl2, NaOCl, KMnO4, H2O2 หรือ O3. 2 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 27 ซึ่งปริมาณของคลอรีน ออกซิไดเซอร์ที่ใช้เท่ากับ 50 ถึง 15,000 ส่วนในล้านส่วนของน้ำทิ้ง 2 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไป ของการเติมสารช่วยให้เกิดการรวมตัวกันลงไปในน้ำทิ้งที่บำบัดแล้วนั้นในขั้นตอน (c) ดังกล่าวเพื่อช่วยส่งเสริมให้ของแข็งตกตะกอนในบริเวณสงบในขั้นตอน (d) 3 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 29 ที่สารช่วยให้เกิดการรวมตัว กันดังกล่าวคือพอลิเมอร์แคทไอออน 31. A process for wastewater containing organic and colored substances that are formed Purification of pollution consists of a procedure (a) providing a primary air treatment area including a refill area. Air and calm area for effluent treatment (b) send effluent into the aeration area (c) aerate the wastewater in the aeration area. Oxygen-containing gases in the presence of powders, absorbents, solids and solids Biological activity Sufficient air must be used to reduce organic and pigmented substances. The source of pollution down to the desired level Move treated effluent and (D) The treated effluent and the said solid remain in the area. Calm for enough time for the solids in it to precipitate by the Earth's gravity and do This creates a precipitated solid phase. The first phase and the relatively free first phase of the precursor phase (e) moved the aforementioned primary acacia phase from the primary treatment area. The first phase of the active phase is exposed to chemical oxidizers in the oxygen source (f). The areas exposed to the oxidizer are long enough to remove additional portions of organic matter and colored substances. (G) Move the treated phase of the Aqueous phase from the oxidizer contact area to the sorbent exposure area (h). The treated aquias are said to be in the contact area. With the sorbent with the solid absorbent powder for the stirring period long enough to reduce Organic and colored substances that continue to pollute the desired level (i) stop stirring and let the solid adsorbent go to the obtained aquifer phase. Treatment with such absorbents Precipitated by Earth's gravity for a period of time. In the precipitation long enough to obtain a second transparent phase of the activity, Relatively free from solids And the second solid phase, and (j) separates the aforementioned second actuase phase. From the a second solid phase and drain that second liquid phase into the environment or 2. Process according to claim 1, in which the process operates in a continuous flow condition, where the aeration and effluent at the aforementioned stage (c) and the sedimentation of the solids in the calm area. In such a continuous process (d) occurs And meanwhile; The oxidation of the said step (f) effluent is continued. And the effluent stirring with the sorbent in the process (h), the precipitation in the step (i) and the separation in the step (j) continued and at the same time. 1 The aforementioned process is performed in a batch flow where the aeration of the effluent in the aforementioned stage (c) and the sedimentation of the quiescent solid in the said step (d) follow. Internal order Same space Oxygenation To the effluent in such steps (f) occur intermittently. And the stirring of effluent and sorbent in steps (h), precipitation in steps (i) and separation in such steps (j), respectively, within the same space. 4. Process according to the claim. 1 where the total amount of solid absorbent and biologically active solid is required Air in the area Such aeration is equal to 50 to 50,000 parts per million of the effluent. 5. Process according to claim 4, in which the amount of adsorbent belonging to The hardening contained in the aeration area is 25 to 20,000 ppm of the effluent. 6. Process according to claim 1, in which the amount of adsorbent that is The solid present in the area of contact with the sorbent is equal to 50 to 50,000 parts per million of effluent. 7. Process according to claim 1, in which the sorbent is activated carbon. 8. Process according to claim 1, which causes stirring in the contact area. With the said absorbent By delivering gas containing oxygen under pressure into the contact area 9. Process according to claim 1, which stirs the said area. Contact with the adsorbent by stirring with a machine tool in the said contact area. 1 0. Process according to claim 1, which selects such oxidizer. From groups containing Cl2, NaOCl, KMnO4, H2O2 or O3. 1 1. Process according to claim 10, which the amount of chlorine The oxidizer used is equal to 50 to 15,000 parts per million of wastewater 1 2. The process of claim 1 consists of the next step in the additive additive. To bring together (flocculation aid) into the treated effluent as mentioned in step (c) to promote the sedimentation of solids in the calm area of the aforementioned procedure (d). Assembly This is the polymer cation 1 4. The process of claim 1 also includes the following steps in The addition of agglomeration facilitates the precipitation of the solid sorbent powder into the treated acacia phase at such a step (h) in the contact area of the procedure. (i) as mentioned 1 5. Clause 14 process in which the substance contributes to the compounding. The above mentioned polymers cation 1 6. The process of claim 1 consists of the next steps in The displacement at least part of the second solid phase from the area Initially, 1 7. The process of claim 1 also consists of the following steps in the process of contact with the adsorbent. The introduction of powder, solid absorbent and biologically active solids requires air. One leaves the treatment area that requires such primary air to maintain the amount of sorbent and solids. The biologics contained in the aeration zone are maintained at a predetermined level. 1 8. Procedures for wastewater containing organic and colored substances that cause The pollution purification consists of (a): There is a primary zero aeration treatment area with a mixing area and (B) The effluent is delivered into the airtight mixing area (c) The effluent is mixed in the effluent area by means of a blending method. Solid absorbent powder and biologically active solid Without air In sufficient quantity To reduce organic and colored substances that cause pollution down to Desired level Move the treated effluent Such and solid from the area (D) The treated effluent is then blended to such an airtight area. And that solid remains within The calm region is sufficient time for the solids in it to precipitate by gravity and cause the first precipitated solid phase. And the relatively free first phase of the accumulator phase (e) moves the said first phase of the activity. From the treatment area that Without gross air to the area of contact with the oxidizer (f), this first actuation phase provides Contact with chemical oxidizer In the area exposed to the oxidizer for a long time to remove organic matter and There is another part of the said pollution paint (g) transported the treated aspiration phase from the oxidizing area to the sorbent exposure area (h) stirring phase. The treated water is said to be in contact with the substance. The adsorbent containing solid absorbent powder is a long enough stirring period to reduce Organic and colored substances that continue to cause pollution to the desired level (i) stop stirring and release the solid sorbents in the actuase phase treated with such sorbents to provide Precipitated by Earth's gravity as Long enough to produce a second, relatively transparent phase free of solids and The second solid phase and (j) separate the aforementioned second actuase phase. Out of the second solid phase as Said and vented The second liquid phase is released into the environment or for further use 1 9. Process according to claim 18 in which the process operates as a continuous flow in which the mixing of effluent in the said phase (c) and solid Falling The sediment in the quiescent region of the procedure (d) was continuous and at the same time the oxidizing of the effluent at this step (f) was continuous. And the stirring of effluent and sorbent in the process (h), the precipitation (i) and separation (j) steps were continuous and at the same time 2 0. Clause 18 in which the process performs batch flow conditions in which the mixing of effluent in the aforementioned (c) steps and precipitation The solids in the quiescent region in such steps (d) occur sequentially within the same space. The oxidizing of the effluent at this step (f) occurs intermittently and the effluent and the substance are intermittently stirred. The adsorption in the step (h), the precipitation in the step (i) and the separation in the step (j) are respectively internal. The same space 2 1. Process according to claim 18 in which the total amount of the absorbent is Biologically active solids and solids without air in the mixing area. The said amount is equal to 50 to 50,000 parts per million of the effluent. 2. 2. Process according to claim 21 where the amount of absorbent that is The solids in the area are equal to 25 to 20,000 parts per million of the effluent. The solid present in the area of contact with the sorbent is equal to 50 to 50,000 parts per million of effluent 2 4. Process according to claim 18 where the sorbent is activated carbon. Clause 18, which stirs it up in the area It comes into contact with the adsorbent by means of a gas that contains oxygen under pressure. 2 6. Process according to claim 18, which stirs the said area in the area. Contact with the sorbent by means of mechanical stirring in the area of such contact.2 7. Procedures according to claim 18 selected such oxidizer from groups containing Cl2, NaOCl, KMnO4, H2O2 or O3. 8. Process according to claim 27, which the amount of chlorine The oxidizer used is equal to 50 to 15,000 parts per million of the effluent. 2. 9. The process of claim 18 also includes the following steps. In the process of (c), the solids precipitate in the quiescent area in step (d) 3 0. Rights 29 that substances contribute to the integration Such is the polymer cat ion 3.
1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไป ของการเติมสารช่วยให้เกิดการรวมตัวเพื่อช่วยส่งเสริมการตกตะกอนของผงสาร ดูดซับที่เป็นของแข็ง ลงไปในเฟสแอคเครียสที่บำบัดแล้วนั้นในขั้นตอน(h)ดังกล่าว ใน บริเวณสัมผัสของขั้นตอน (i) ดังกล่าว 31. The process according to claim 18 also includes the following steps. Of the addition of agglomerates to promote the coagulation of the powder Solid absorbent Into the treated accretion phase in the aforementioned (h) phase in the contact area of the aforementioned (i) phase 3.
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 31 ที่สารช่วยให้เกิดการรวมตัว กันดังกล่าวคือพอลิเมอร์ แคทไอออน 32. Process according to claim 31 in which the substance contributes to the incorporation. The same is the polymer cation 3.
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไป ของการเคลื่อนย้ายอย่างน้อยที่สุดส่วนหนึ่งของเฟสของแข็งที่สองดังกล่าวจากบริเวณ สัมผัสกับสารดูดซับดังกล่าวไปยังบริเวณผสมเพื่อบำบัดโดยปราศจากอากาศขั้นต้น ดังกล่าว 33. The process according to claim 18 also includes the next steps. Of the displacement of at least part of the second solid phase from the region Contact with the adsorbent to the mixing area for treatment without the aforementioned primary 3.
4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิ 18 ยังประกอบด้วยขั้นตอนต่อไป ของการแยกผงสารดูดซับที่เป็นของแข็ง และของแข็งที่มีฤทธิ์ทางชีววิทยาโดยปราศ จากอากาศ ส่วนหนึ่งออกจากบริเวณบำบัดโดยปราศจากอากาศขั้นต้นดังกล่าวเพื่อ รักษาปริมาณของสารดูดซับและของแข็งทางชีววิทยาดังกล่าวที่มีอยู่ในบริเวณผสม ดังกล่าวให้คงอยู่ในระดับที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า4. The process according to claim 18 also includes the following steps. Of separation of solid sorbent powder And biologically active solids, leaving part of the air free from the treatment area, to Maintain the amount of such adsorbents and biological solids present in the mixing area. To remain at the predetermined level