TH15494A - Film - Google Patents

Film

Info

Publication number
TH15494A
TH15494A TH9301000132A TH9301000132A TH15494A TH 15494 A TH15494 A TH 15494A TH 9301000132 A TH9301000132 A TH 9301000132A TH 9301000132 A TH9301000132 A TH 9301000132A TH 15494 A TH15494 A TH 15494A
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
cross
ribs
crossed
film
films
Prior art date
Application number
TH9301000132A
Other languages
Thai (th)
Other versions
TH9382B (en
Inventor
โอเล-เบนด์ท ราชมุสเซน นาย
Original Assignee
นายดำเนิน การเด่น
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นาย วิรัชศรีเอนกราธา
นาย ต่อพงศ์โทณะวณิก
นาย ดำเนินการเด่น
Filing date
Publication date
Application filed by นายดำเนิน การเด่น, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นาย วิรัชศรีเอนกราธา, นาย ต่อพงศ์โทณะวณิก, นาย ดำเนินการเด่น filed Critical นายดำเนิน การเด่น
Publication of TH15494A publication Critical patent/TH15494A/en
Publication of TH9382B publication Critical patent/TH9382B/en

Links

Abstract

แผ่นซ้อน-ไขว้ของฟิล์มที่มีการจัดวางตัวยืดออก 2 ฟิล์มหรือมากกว่า ซึ่งทิศทางของจัดการ วางตัวของแต่ละฟิล์มเป็นความสัมพันธ์แบบขวางไขว้, มีรูปแบบของโครงที่ยาวขึ้นแบบขนาดโดยทั่ว ไปซึ่งเพิ่มขนาดตามยาวของแผ่นซ้อน โครงถูกกำหนดอยู่ระหว่างพื้นผิวที่โค้งออกและพื้นผิวที่โค้ง เข้าข้างในซึ่งโค้งเข้าหากันโดยบังเอิญตามแนวขวางบนผิวหน้าด้านตรงข้ามของแผ่นซ้อน พื้นผิวที่ โค้งเข้าข้างในจะมีรัศมีของเส้นโค้งมากกว่าพื้นผิวที่โค้งออกซึ่งทำให้โครงมีความหนามากกว่าความ หนาเฉลี่ยของแผ่นซ้อน วัสดุแผ่นซ้อนที่อยู่ติดกับแนวแบ่งเขตด้านข้าง (lateral boundaries) ของโครง จะอยู่ในสถานะไร้แรงตึง ซึ่งมีรูปโค้งแบบผันกลับเทียบกับรูปโค้งของโครงที่ทำวัสดุระหว่างคู่ของ โครงที่อยู่ติดกันซึ่งโดยทั่วไปจะเรียบแบบ รูปแบบของโครงควรสอดคล้องกับช่องเว้นระยะตามแนว ขวางเฉลี่ยที่ควรใช้ระหว่างโครงที่อยู่ติดกัน, ซึ่งวัดพีคต่อพีค เท่ากับประมาณ 1-10 มิลลิเมตร พื้นผิวที่ โค้งออกของโครงต่าง ๆ สามารถอยู่บนด้านเดียวกันทั้งหมดของแผ่นซ้อนหรือสามารถอยู่สลับกัน เป็นอนุกรมระหว่างด้านตรงข้าม รูปแบบของโครงที่ยาวขึ้นสามารถถูกคั่นที่ตำแหน่งที่เป็นช่องเว้น ระยะตามแนวยาวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของแผ่นซ้อนและแผ่นซ้อนดังกล่าวสามารถมีรูปโค้งแบบ คลื่น (undulating eurvature) เมื่อมองจากด้านข้าง นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยขบวนการและเครื่องมือ สำหรบทำแผ่นซ้อน-ไขว้ที่เป็นโครงโดยวิธีทอผ่านเข้าระหว่างลูกกลิ้งที่เป็นร่อง Film overlays - two or more film stretches laid out. Which direction of the deal Each film is placed in a transverse relationship, having the form of a longer frame in general size. To which increase the lengthwise size of the overlap The scaffold is located between the rounded surface and the curved surface. Inward curved surfaces accidentally crossed across on the opposite face of the stacked sheet. Inward curved surfaces have a greater radius than the curved outward surface, which makes the frame thicker than the contoured surface. Average thickness of the stacked sheets The overlap material adjacent to the lateral boundaries of the frame is in a stress-free state. Which has a reversed arc compared to the arch of a frame made of material between the pairs of Adjacent scaffolds, typically smooth The frame layout should be aligned with the space spaced along the The average crosswise should be used between adjacent frames, which measures peak per peak. Equal to approximately 1-10 mm. The curved out surfaces of the scaffolds can be on all sides of the stack, or they can be alternate. In series between opposite sides Longer frame layouts can be separated at spaces. To increase the flexibility of the overlap, and such overlays can be undulating eurvature when viewed from the side. In addition, the process and tools were revealed. For making a truss-crossed sheet by weaving through the grooved rollers.

Claims (3)

1. แผ่นซ้อนไขว้ลักษณะยาวชนิดหนึ่ง ของฟิล์มอย่างน้อยสองฟิล์มที่ถูกสร้างขึ้นจาก วัสดุพอลิเมอร์ชนิดเธอร์โมพลาสติค ที่จัดทิศทางได้, ซึ่งแต่ละฟิล์มถูกจัดทิศทางแบบแกนเดี่ยว หรือ ถูกจัดทิศทางแบบแกนคู่ ในลักษณะที่ไม่สมดุลย์เพื่อทำให้เกิดหนึ่งทิศทางหลักของการจัดทิศทาง, และทิศทางการจัดทิศทางต่าง ๆ ของแต่ละฟิล์มต่าง ๆ นั้นตัดไขว้ซึ่งกันและกันกับทิศทางหลักของ การจัดทิศทางของอย่างน้อยหนึ่งในบรรดาฟิล์มต่าง ๆ ดังกล่าว ที่ยื่นเป็นมุมกับทิศทางความยาวของ แผ่นซ้อนไขว้นั้น, และแผ่นซ้อนไขว้นั้นแสดงแบบแพทเทิร์นของการเป็นแถบลายที่ยื่นตามยาวแบบ ขนานโดยทั่วไปต่าง ๆ ที่ถูกประกอบไว้โดยการแปรเปลี่ยนความหนาต่าง ๆ ในที่นั้น อันเป็นผลจาก การยืดที่อัตราส่วนการยืดที่กำหนดของแผ่นซ้อนไขว้นั้น ตามขวางกับทิศทางความยาว ซึ่งแบบแพท เทิร์นของการเป็นแถบลายต่าง ๆ จะประกอบด้วยซี่โครงลักษณะยาวต่าง ๆ ที่ยื่นไปในทิศทางความ ยาวดังกล่าว ซึ่งแต่ละซี่โครงนั้นถูกกำหนดโดยส่วนหลักไว้ระหว่าง ผิวหน้าที่โดยทั่วไปเป็นลักษณะ เว้า และที่โดยทั่วไปเป็นลักษณะนูนต่าง ๆ ซึ่งสัมพันธ์แบบทับกันตามขวางของทิศทางตามยาวดัง กล่าวบนหน้าตรงข้ามต่าง ๆ ของแผ่นซ้อนไขว้ดังกล่าว, รัศมีความโค้งของผิวหน้าเว้าดังกล่าวโดย ทั่วไปจะมากกว่าเมื่อเทียบกับรัศมีความโค้งของผิวหน้านูน ซึ่งซี่โครงต่าง ๆ มีความหนาสูงสุดที่มาก กว่าความหนาเฉลี่ยของแผ่นซ้อนนั้น, และแต่ละซี่โครงนั้นโดยรวม มีด้านตัดขวางตามขวางโดยทั่ว ไปเป็นรูป-U ที่ตื้น, และวัสดุแผ่นซ้อนนั้น ในหรือประชิดกับขอบเขตด้านข้างต่าง ๆ ของซี่โครง ต่าง ๆ ในสภาวะที่ปราศจากแรงดึงของวัสดุนั้น จะมีลักษณะโค้งกลับด้านโดยทั่วไป เมื่อเทียบกับ ความโค้งซี่โครงนั้น เพื่อทำให้วัสดุที่อยู่ระหว่างคู่ต่าง ๆ ที่ประชิดกันของซี่โครงต่าง ๆ มีสภาวะที่ถูก ทำให้แบนราบโดยทั่วไป 2. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งแบบแพทเทิร์นของแถบลายดังกล่าวประกอบขึ้น โดยซี่โครงที่มีลักษณะยาวดังกล่าว จะเป็นแบบแพทเทิร์นที่สม่ำเสมอโดยทั่วไป เหนือบริเวณทั้งหมด โดยส่วนหลักของแผ่นซ้อนไขว้ดังกล่าว 3. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งผิวหน้านูนต่าง ๆ ของซี่โครงต่าง ๆ สลับกันเป็น ชุดจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของแผ่นซ้อนไขว้นั้น 4. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งด้านนูนต่าง ๆ ของซี่โครงต่าง ๆ นั้น อยู่บนด้าน เดียวกันของแผ่นซ้อนไขว้นั้น 5. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งการแยกโดยเฉลี่ยระหว่างซี่โครงต่าง ๆ ของคู่ที่อยู่ ประชิดกันต่าง ๆ ของซี่โครงต่าง ๆ เป็นระหว่าง 1 และ 10 มม., เมื่อวัดจากยอดถึงยอด และใช้เป็นค่า เฉลี่ย 6. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งความหนาเฉลี่ยของวัสดุที่ถูกทำให้แบนราบโดย ทั่วไประหว่างขอบเขตซี่โครงด้านข้างต่าง ๆ, ซึ่งขอบเขตถูกกำหนดเป็นโลตัส (locus) ซึ่งความหนา ของซี่โครงนั้นจะเท่ากับความหนาเฉลี่ย เหนือบริเวณเฉพาะที่บริเวณหนึ่ง รวมถึงซี่โครงที่อยู่ข้างเคียง ต่าง ๆ หลายซี่โครง และวัสดุที่ถูกทำให้แบนราบโดยทั่วไปที่อยู่ระหว่างนั้น, เป็นอย่างน้อย 15% และ ที่เหมาะสมแล้วอย่างน้อย 30% น้อยกว่าความหนาสูงสุดของซี่โครงนั้น 7. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งด้านตัดขวางรูป-U ของแต่ละซี่โครงดังกล่าว มี ฐานเป็นลักษณะโค้งแบบที่ผ่านเข้าใหม่ (reentrantly) โดยทั่วไป ระหว่างด้านข้างที่ถูกเว้นระยะห่าง จากกัน และระนาบต่าง ๆ ที่ถูกเขียนไว้แบบเส้นสัมผัสวงกับ ส่วนตัด้านข้างดังกล่าว เพื่อกำหนดโดย ทั่วไปไว้ระหว่างมุมรวมประมาณ 10 ถึง 90 องศา 8. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งซี่โครงรูป -U ที่ยื่นตามยาวต่าง ๆ ถูกขัดจังหวะ เฉพาะที่โดยแบบแพทเทิร์นหนึ่งของเส้นแยกตามขวางที่ถูกแยกตามยาวต่าง ๆ ซึ่งความหนาที่เพิ่มขึ้น และรูปด้านรูป-U ของซี่โครงต่าง ๆ ถูกแยกออกโดยส่วนหลัก เพื่อเสริมความสามารถงอได้ของแผ่น ซ้อนไขว้นั้นรอบเส้นขวางต่างๆ 9. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งแต่ละฟิล์มอย่างน้อยสองฟิล์มดังกล่าว มีสามชั้นที่ ประกอบด้วย หนึ่งชั้นหลักเพื่อความแข็งแรงอยู่ตรงกลางและชั้นรอง (minor) ต่าง ๆ ที่อยู่ที่ผิวหน้า ตรงข้ามต่าง ๆ ของมันเพื่ออำนวยให้มีการเชื่อมระหว่างฟิล์มต่าง ๆ และให้คุณสมบัติผนึกความร้อน ต่าง ๆ แก่ที่นั้น และชั้นหลักของฟิล์มต่าง ๆ ดังกล่าวประกอบด้วย 10-30% พอลิเอธิลีน ความหนา แน่นต่ำซึ่งโดยส่วนหลักแล้วเป็น พอลิเอธิลีน ความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น, และส่วนที่เหลือเป็น พอลิเอธิลีนน้ำหนักโมเลกุลสูง, พอลิพรอพิลีนน้ำหนักโมเลกุลสูงหรือการรวมเข้าด้วยกันของทั้งสอง ชนิด 1 0. แผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งยังมีความโค้งที่เป็นคลื่น หรือสลับฟันปลาโดย รวมเมื่อถูกมองในด้านตัดตามขวาง 1 1. ในกระบวนการหนึ่งของการผลิต ผืนใยที่มีลักษณะยาวที่ต่อเนื่องของแผ่นซ้อนไขว้ ที่ถูกสร้างแบบแพทเทิร์นเป็นซี่โครง จากอย่างน้อยหนึ่งผืนใยประกบไขว้, แต่ละผืนใยประกบไขว้ เช่นนั้นถูกสร้างขึ้นจากอย่างน้อยสองฟิล์มของ วัสดุพอลิเมอร์ชนิดเธอร์โมพลาสติคที่สามารถจัดทิศ ทางได้ ซึ่งฟิล์มต่าง ๆ แต่ละฟิล์ม ถูกจัดทิศทางแบบแกนเดี่ยว หรือสองแกนแบบไม่สมดุลย์ เพื่อให้แก่ สิ่งนั้นด้วยทิศทางหลักทิศทางหนึ่งของการจัดทิศทาง และอย่างน้อยหนึ่งในบรรดาฟิล์มเหล่านั้นแสดง มุมหนึ่งระหว่างทิศทางตามยาวของมัน และทิศทางหลักของมันของการจัดทิศทาง, และอย่างน้อยสอง ฟิล์มดังกล่าวถูกประกบไว้ด้วยกันในการจัดเรียงแบบสลับฟันปลาของทิศทางหลักต่าง ๆ ที่สัมพันธ์ กันของการจัดทิศทาง, ซึ่งผืนใยประกบไขว้ดังกล่าวถูกยืดในทิศทางที่ขวางกับความยาวของมัน โดย การผ่านตามยาวแบบเดียวกันระหว่างลูกกลิ้งที่เป็นร่องและอย่างน้อยสองฟิล์มดังกล่าวถูกซ้อนแผ่น เข้าด้วยกัน, การพัฒนาซึ่งการยืดตามขวางถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการสร้างผืนใยประกบไขว้ดังกล่าว ขณะที่อยู่ที่อุณหภูมิหนึ่งที่ต่ำกว่าจุดหลอมเหลวของวัสดุเธอร์โมพลาสติคนั้น เข้าสู่รูปร่างด้านตัดขวาง ที่เป็นคลื่น; ระหว่างหรือหลังจากกระบวนการสร้างรูปที่เป็นคลื่นดังกล่าว, การทำให้เสถียรในส่วน ปลายที่มีรูปร่างโค้งของมันของคลื่นต่าง ๆ นั้น บนอย่างน้อยหนึ่งด้านของผืนใยประกบไขว้นั้น ; และ การยืดตามขวางของผืนใยประกบไขว้ที่ถูกทำให้เสถียรนั้นในบริเวณต่าง ๆ ระหว่างส่วนปลายที่ถูกทำ ให้เสถียรนั้น โดยการใช้ลูกกลิ้งที่เป็นร่อง, การยืดครั้งหลักนี้ถูกดัดแปลงเพื่อให้คงอยู่ในส่วนที่ถูกทำ ให้เสถียรคงตัวต่าง ๆ นั้นด้วยทั้งรูปร่างที่เป็นคลื่นดังกล่าว และอย่างน้อยหนึ่งความจำ ของรูปร่างที่ เป็นคลื่นดังกล่าว ; และหากส่วนที่ถูกทำให้เสถียรคงตัวต่าง ๆ ดังกล่าวคงไว้เฉพาะเพียงความจำหนึ่ง ของรูปร่างที่เป็นคลื่นดังกล่าว, ทำการบำบัดด้วยความร้อนต่อจากนั้นแก่ผืนใยประกบไขว้นั้น เพื่อให้ วัสดุในบริเวณเฉพาะที่ต่าง ๆ ระหว่างส่วนปลายที่ถูกทำให้เสถียรคงตัวนั้น หดตัวตามระนาบที่เป็น สมมติฐานระนาบหนึ่งที่วางอยู่กึ่งกลางโดยส่วนหลักระหว่างผิวหน้าต่าง ๆ ของผืนใยประกบไขว้นั้น ในทิศทางที่ตั้งฉากกับทิศทางของการเคลื่อนที่ของผืนใยนั้น, เพื่อให้ส่วนปลายที่ถูกทำให้เสถียรคงตัว นั้น ซึ่งคงไว้เฉพาะความจำดังกล่าวของรูปร่างที่เป็นคลื่นนั้น ถูกสร้างรูปร่างใหม่ อย่างน้อยในบาง ส่วน, ดังนั้นเป็นการสร้างผืนใยซ้อนไขว้ที่ถูกสร้างแบบแพทเทิร์นเป็นซี่โครงที่มีแบบแพทเทิร์นหนึ่ง ของซี่โครงที่ยืดออกตามยาว ที่มีด้านตัดขวางตามขวางที่ถูกสร้างรูปร่าง-U แบบตื้นโดยทั่วไป, ซี่โครง ต่าง ๆ ดังกล่าวมีความหนามากที่สุด ที่มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับความหนาเฉลี่ยของแผ่น ซ้อนไขว้นั้นโดยรวม 1 2. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งการบำบัดความร้อนนั้นถูกกระทำขณะที่ให้ผืนใย นั้นได้รับแรงตึงตามขวางอย่างอ่อน 1 3. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งการบำบัดความร้อนนั้นถูกกระทำโดยการสร้าง ผืนใยประกบไขว้นั้นให้เป็นจีบ ที่มีขนาดตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และสัมผัสผืนใยที่เป็นจีบนั้นกับ ลูกกลิ้งเรียบที่ร้อน, เพื่อรีดจับต่าง ๆ ดังกล่าวออกโดยส่วนหลัก ขณะที่คงสิ่งประกบไขว้นั้นไว้ภายใต้ แรงตึงตามขวางที่ต่ำอย่างพอเพียงสำหรับส่วนปลายที่ถูกทำให้เสถียรคงตัวต่าง ๆ ได้รับการสร้างรูป ร่างใหม่ดังกล่าว 1 4. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งผืนใยประกบไขว้นั้น ถูกยึดตามยาวก่อนหรือตาม หลังโดยทันทีจากการสร้างรูปดังกล่าวของผืนใยนั้น ให้มีด้านตัดขวางที่เป็นคลื่นดังกล่าว และการทำ ให้เสถียรคงตัวของส่วนปลายต่าง ๆ ของผืนใยที่เป็นคลื่นนั้น 1 5. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งการทำให้เสถียรคงตัวของส่วนปลายต่าง ๆ นั้น ถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการดำเนินการสร้างรูปของผืนใยแผ่นซ้อนไขว้นั้น ให้มีด้านตัดขวางที่เป็นคลื่น ดังกล่าวขณะที่แผ่นซ้อนไขว้นั้นอยู่ที่อุณหภูมิที่ใกล้กับจุดหลอมเหลวของวัสดุพอลิเมอร์ชนิดเธอร์ โมพลาสติคดังกล่าว 1 6. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งวัสดุพอลิเมอร์ชนิดเธอร์โมพลาสติคดังกล่าว ถูก ดัดแปลงเพื่อให้เกิดการครอสส์ลิงค์ ภายใต้การแผ่รังสี และการทำให้เสถียรคงตัวของส่วนปลายต่าง ๆ ถูกดำเนินให้เกิดขึ้นโดยการครอสส์ลิงค์วัสดุพอลิเมอร์ของผืนใยดังกล่าวภายใต้การแผ่รังสี 1 7. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งการสร้างผืนใยประกบไขว้ดังกล่าว ให้มีด้านตัด ขวางที่เป็นคลื่น และการทำให้เสถียรของส่วนปลายต่าง ๆ ของมัน ถูกดำเนินให้เกิดขึ้นในเวลาเดียว กัน โดยการผ่านสิ่งประกบไขว้นั้น ผ่านลูกกลิ้งที่เป็นร่องที่ทำงานโดยที่มีแรงกดอัด 1 8. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งผืนใยประกบไขว้ดังกล่าวจำนวนมาก, ซึ่งแต่ละ ผืนใยมีสองฟิล์มพอลิเมอร์ถูกจัดเรียงไว้กับทิศทางการจัดทิศทางของมันในความสัมพันธ์แบบสลับ ฟันปลา, ถูกซ้อนชั้นเข้าด้วยกันและถูกดำเนินกระบวนการในเวลาเดียวกัน และหลังจากการดำเนิน กระบวนการผืนใยประกบไขว้จำนวนมากนั้น ถูกแยกจากกันจากชั้นซ้อนนั้น 1 9. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 11 ซึ่งเพื่อเป็นมาตรการหนึ่งเพื่อคงความจำในส่วนที่ถูก ทำให้เสถียรคงตัว, การยืดระหว่างลูกกลิ้งที่เป็นร่องต่าง ๆ ของผืนใยประกบไขว้นั้น จะถูกดำเนินการ ให้เกิดขึ้น โดยที่วัสดุในส่วนที่ถูกทำให้เสถียรคงตัวนั้น อยู่ใกล้กับอุณหภูมิห้อง, ที่เหมาะสมแล้ว ระหว่าง 15 ํ ถึง 40 ํซ. 2 0. กระบวนการตามข้อถือสิทธิ 13 ซึ่งระหว่างการบำบัดด้วยความร้อนดังกล่าว ผืนใย ประกบไขว้นั้นถูกปล่อยให้เกิดทั้งการหดตัวตามขวางโดยรวม และการหดตัวตามยาวโดยรวม 21. a long type of criss-crossed sheets Of the film, at least two films that have been made up of Thermoplastic polymer material Directionable, in which each film is either single-axis oriented or dual-axis orientated In an asymmetrical manner to produce one of the main orientations, and the different orientations of each film cross each other with the main orientation of the film. Orientation of at least one of the aforementioned films overhang at an angle to the length of the The crossover sheets, and the crossover sheets, show the pattern of the longitudinal protrusion pattern. The general parallel are composed by various thickness variations therein as a result of the elongation at the given elongation ratio of the crossed plates. Transverse to length direction, which the patterning pattern consists of various long ribs extending in that length direction, each rib is defined by the main part between The surface of the face is generally concave and generally convex, which are related to the transverse overlap of the longitudinal direction. On the opposite pages of such crossed sheets, the radius of the curvature of the concave face by It is more common when compared with the radius of curvature of the convex surface. Which ribs have a very maximum thickness Than the average thickness of the overlays, and each rib overall It has a typical shallow-U-shaped cross-section, and the overlap material is In or adjacent to the lateral boundaries of the different ribs, in the free-tension state of the material Will have a typical inverted curve Compared to That rib curvature To make the material between adjacent pairs of different ribs in the correct state Generally flatten 2. The sheets are crossed according to claim 1, in which the pattern of the said stripes is made up. By the long ribs Will be a pattern that is generally consistent Over the whole area The main part of the sheet is crossed. 3. The overlap according to claim 2, in which the various convex faces of the different ribs alternate in series from one side to the other side of the sheet. Cross according to claim 2, in which the convex sides of the ribs are on the same side of the crossed sheet 5. The overlap according to claim 2, which the average separation between the ribs of the address pair The adjacent sides of the ribs are between 1 and 10 mm, when measured from the top to the top. And used as the average 6. cross-stacked sheets according to claim 2, in which the average thickness of the flattened material by Commonly between the lateral rib region, where the region is defined as the lotus (locus), the thickness of the rib is equal to the average thickness. Over a specific area in a particular area This includes several adjacent ribs and the generally flattened material between them, at least 15% and suitable at least 30% less than the maximum thickness of that rib. Cross according to claim 1, where the-U-shaped cross-section. Each of these ribs has a new, curved base. (reentrantly) In general, between the sides that are spaced from each other and the planes that are written as tangent lines with Section on the side. To define by 8, in which the various longitudinal-U-shaped ribs are interrupted locally by a pattern of splits transverse lengthwise. Which thickness increases And figure-U side Of the different ribs are separated by the main To enhance the ability to bend the sheet 9. The cross-overlap according to claim 1, each of which has at least two films of three layers consisting of one primary for medial strength and the sub-minor layers. Its opposite surfaces are to facilitate the bonding between the films and give them various heat sealing properties, and the main layer of such films is composed of 10-30% polyethylene. Low-density polyethylene, primarily linear low-density polyethylene, and the remainder High molecular weight polyethylene, high molecular weight polypropylene, or a combination of the two 1 0. The crossover plate according to claim 1, which also has a wavy curve. Or switch zigzag by Total when viewed in the cross-section 1 1. In one process of production Long continuous fibers of the crossed sheets That was created in a pattern in a rib From at least one of the fibers, each of them is For example, it was made up of at least two films of Oriented thermoplastic polymer material in which the different films are individually oriented. Or two asymmetrical axes to give to that with one major direction of alignment And at least one of those films was shown. Angle between its longitudinal directions And its main direction of alignment, and at least two The films are sandwiched together in a zigzag arrangement of the respective primary directions of the alignment, where such cross-sections are stretched in a direction transverse to their length by passing along the The same length between the grooved rollers and at least two such films were stacked together, a development in which the transverse stretch was made by creating such a cross-sectional web. While at a temperature lower than the melting point of the thermoplastic material Into shape cross-section That is a wave; During or after such a waveforming process, the stabilization of the Its curved ends of the waves on at least one side of the crossed web; And the transverse stretch of the stabilized cross-web in the regions between the ends being made. To stabilize it By using a grooved roller, this major stretch was modified to remain in the treated section. To stabilize the various things with both the aforementioned wavy shapes And at least one memory Of the shape Is such a wave; And if such stabilized parts retain only one memory Of such a wavy shape, then heat treatment is applied to the interwoven fabric to stabilize the material in local regions between the stabilized ends. Contraction along the plane that is The assumption is a plane centered by the main part between the windows of the cross web. In the direction perpendicular to the direction of the web's motion, so that the stabilized end remains that only that memory of that wavy shape is preserved. Was reconstructed At least in part, so it is a crisscross fabric that has been formed as a rib pattern with a pattern. Of longitudinal ribs With a U-shaped cross-section In general, the ribs are the thickest. That's significantly more Compared with the average thickness of the sheet Overall, 1 2. Process according to claim 11 in which heat treatment is performed while the fiber It is subjected to mild transverse tension. 1 3. Process according to claim 11, in which heat treatment is performed by construction. The fiber that is crossed into pleats With a predefined size And touch the pleated web with Hot smooth rollers, to roll them out by the main part. While keeping that cross under Sufficiently low transverse tension for various stabilized ends are formed. The new body 1 4. Process according to claim 11, in which the fabric is crossed Was taken longitudinal first or followed Immediately after creating such images of that web There shall be such wavy cross-sections and the stabilization of the ends of the wavy web.1 5. Process according to claim 11, in which the stabilization of the distances is stabilized. Made by the operation of creating a form of fiber overlaid To have a wavy cross-section Such, while the cross-stack is at a temperature close to the melting point of the thermoplastic material. The said moplastic 1 6. Process according to claim 11 in which the thermoplastic polymer material is modified to create crosslinking. Under radiation And the distal stabilization was performed by crosslinking the polymer material of the fibers under radiation 1 7. Process according to claim 11, where the fabrication of the web Join the cross section to have a wavy cross-section. And the stabilization of its various ends is carried out at the same time by passing through that cross. Through the grooved rollers operating under compressive pressure 1 8. Process according to claim 11 in which many such cross-linked fibers, each fiber have two polymer films, are aligned with the direction. Their alignment, in a zigzag relationship, is layered together and processed at the same time. And after operation That many processes 1 9. Process according to claim 11, which is a measure to maintain the memory of the correct part. Stabilization, stretching between the grooved rollers of the crossed web Is carried out where the stabilized material is It is close to room temperature, then optimum between 15 ํ to 40 ํ 2 0. Process according to claim 13, during which heat treatment the cross-web is left to produce both transverse shrinkage. Overall And overall longitudinal contraction 2 1. ในกระบวนการสำหรับยืดตามขวางของฟิล์มพอลิเมอร์หนึ่งฟิล์ม หรือฟิล์มพอลิเมอร์ หลายฟิล์ม ที่ถูกจัดเรียงไว้ในความสัมพันธ์แบบประกบ โดยการผ่านสิ่งนั้นไประหว่างลูกกลิ้งที่เป็น ร่องที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งแต่ละลูกกลิ้งมีแบบแพทเทิร์นของร่องเกลียวเฮลิกซ์วงกลม อยู่บริเวณรอบ นอกและยอดแหลมที่สลับขวางต่าง ๆ โดยยอดแหลมต่าง ๆ ของลูกกลิ้งหนึ่งจะสัมพันธ์แบบประสาน อยู่กับร่องต่าง ๆ ของลูกกลิ้งที่อยู่ตรงข้าม, และซึ่งฟิล์มหรือสิ่งประกบของฟิล์ม จะสัมผัสกับเฉพาะ หลายของยอดแหลมต่าง ๆ ของลูกกลิ้งที่เป็นร่องต่าง ๆ นั้น, ซึ่งเป็นการพัฒนาในการนำการไหลของ ตัวกลางทำความเย็นที่เป็นของไหล ผ่านหนีบของลูกกลิ้งที่เป็นร่อง บนอย่างน้อยหนึ่งด้านของฟิล์ม หรือสิ่งประกบฟิล์มนั้น ขณะที่สิ่งเดียวกันนั้นจะผ่านไประหว่างลูกกลิ้งที่เป็นร่องที่อยู่ตรงข้ามดัง กล่าว เพื่อที่จะขจัดความร้อนจากการยืด และคงฟิล์มนั้นไว้ที่อุณหภูมิที่ต้องการ ระหว่างการยืด 21. In the process for transverse stretching of one polymer film. Or several polymer films that are arranged in a splice relationship. By passing it between the rollers that are Furrows that are opposite each other Each roller has a circular helix pattern pattern. Around The outer and interspersed spiers by different spiers of one roller are interlocking. With the grooves of the opposite rollers, and where the film or film's articulation To be exposed to specific Many of the spiers of the grooved rollers are, which is an improvement in the conductivity of the Fluid cooling medium Through the clamping of the grooved roller On at least one side of the film Or that film cover As the same goes through between the opposite groove rollers to remove heat from the stretch. And maintain that film at the desired temperature During stretching 2 2. ถุงชนิดหนึ่งที่ทำขึ้นจากแผ่นซ้อนไขว้ตามข้อถือสิทธิ 1 22. A type of bag made up of sheets crossed according to claim 1 2. 3. ถุงที่ทำขึ้นตามกระบวนการของข้อถือสิทธิ II3. Bags made in accordance with the Process of Claim II.
TH9301000132A 1993-01-28 Film TH9382B (en)

Publications (2)

Publication Number Publication Date
TH15494A true TH15494A (en) 1995-02-24
TH9382B TH9382B (en) 2000-01-27

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
TW302332B (en)
TWI331563B (en) Laminates of films having improved resistance to bending in all directions and methods and apparatus for their manufacture
RU2457945C2 (en) Method and device for making cross-oriented film of thermoplastic material and products thus made
RU2006128984A (en) LAMINATE, METHOD AND DEVICE FOR PRODUCING A LAMINATE, AND ALSO A SUBSTITUTE FOR A GEOFABRIC
DK171395B1 (en) Method and device for compressed transverse stretching of polymer materials
CA3032051C (en) Enthalpy exchanger element, enthalpy exchanger comprising such elements and method for their production
GB1593012A (en) Molecularly oriented plastic strapping and methods and apparatus for manufacturing said strapping
NO152611B (en) PLASTIC NETWORK CONSTRUCTION, PROCEDURE FOR ITS MANUFACTURING AND USE OF THE CONSTRUCTION
US4075379A (en) Melt-embossed polymer film
JPH0470137B2 (en)
TWM635801U (en) Elastic composite non-woven fabric and the manufacturing equipment of the same
TH15494A (en) Film
TH9382B (en) Film
US5753337A (en) Plastic net structures and the plastic net structures formed thereby
JP2703504B2 (en) Filler for permeation filter for fluid treatment and method for producing the same
JPS6228226B2 (en)
JPH10273868A (en) Moisture-permeable, stretchable sheet member of improved strength
FI72286B (en) SAETTING OVER ANORDING FOR ATTEMPT AND LAMINATE AV MINST TVAO FLEXIBLE FOLIEBANOR AV ORIENTERBART POLYMERMATERIAL