TH151889A - วิธีการเพื่อการต่อชิ้นส่วนโลหะ - Google Patents

Abstract

หน้า 1 ของจำนวน 1 หน้า บทสรุปการประดิษฐ์ วิธีการเพื่อการต่อชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง (11) กับชิ้นส่วนโลหะที่สอง (12), ซึ่งชิ้นส่วนโลหะ (11, 12) มีอุณหภูมิโซลิดัสสูงกว่า 1100 QC วิธีการประกอบรวมด้วย การใช้สารผสมสารลดจุด หลอมเหลว (14) ลงบนพื้นผิว (15)ของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง (11),ซึ่งสารผสมสารลดจุดหลอมเหลว (14) ประกอบรวมด้วยส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลวที่ประกอบรวมด้วยโบรอน และซิลิคอน อย่างน้อยที่สุด 25% โดยน้ำหนักเพื่อลดอุณหภูมิหลอมเหลวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง (11) ลง; การ ทำให้ (202) ชิ้นส่วนโลหะที่สอง (12) เข้าสัมผัสกับสารผสมสารลดจุดหลอมเหลว (14) ณ จุดสัมผัส (16) บนพื้นผิว (15) ดังกล่าว; การทำให้ชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งและที่สอง (11, 12) ร้อนสู่อุณหภูมิ สูงกว่า 1100 QC และการยอมให้ชิ้นโลหะที่หลอมเหลว (210) ของส่วนประกอบโลหะที่หนึ่ง (11) แข็งตัว, ในลักษณะที่มีการทำไห้ได้มาซึ่งส่วนต่อ (25) ณ จุดสัมผัส (16) ได้บรรยายถึงสารผสมสารลด จุดหลอมเหลว และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องไว้อีกด้วย

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :หน้า 1 ของจำนวน 4 หน้า ข้อถือสิทธิ 1. วิธีการเพื่อการต่อชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งกับชิ้นส่วนโลหะที่สอง ซึ่งชิ้นส่วนโลหะมีอุณหภูมิ โซลิดัสสูงกว่า 1100 องศาเซลเซียส ซึ่งวิธีการรวมถึง - การใช้สารผสมสารลดจุดหลอมเหลวลงบนพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง ซึ่งสารผสม สารลดจุดหลอมเหลวรวมถึง ส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลวที่รวมถึงโบรอน และซิลิคอนอย่างน้อยที่สุด 25% โดยน้ำหนัก เพื่อลดอุณหภูมิหลอมเหลวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งลง และ อย่างอาจเลือกได้ ส่วนประกอบสารยึดเพื่อทำให้การใช้ของสารผสมสารลดจุด หลอมเหลวลงบนพื้นผิวสะดวก - การนำชิ้นส่วนโลหะที่สองเข้าสัมผัสกับสารผสมสารลดจุดหลอมเหลวณ จุดสัมผัสบน พื้นผิวดังกล่าว ของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง - การทำให้ชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งและที่สองร้อนสู่อุณหภูมิสูงกว่า 1100 องศาเซลเซียสซึ่ง ดังนั้นพื้นผิวดังกล่าวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งจะหลอมเหลวในลักษณะที่ชั้นพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะ ที่หนึ่งหลอมเหลว และโดยร่วมกันกับส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว จะก่อรูปชั้นโลหะที่ หลอมเหลวที่สัมผัสกับชิ้นส่วนโลหะที่สองณ จุดสัมผัส และ - การยอมให้ชั้นโลหะที่หลอมเหลวแข็งตัว ในลักษณะที่มีการทำไห้ได้มาซึ่งส่วนต่อ ณ จุดสัมผัส 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งโบรอนมีต้นกำเนิดมาจากสารใดๆของโบรอนเชิงธาตุ และโบรอนของสารประกอบโบรอนที่ได้รับการเลือกมาจากอย่างน้อยที่สุดสารใดๆ ของสารประกอบ ที่ตามมานี คือ โบรอนคาร์ไบด์, ซิลิคอนโบไรด์, นิกเกิลโบไรด์ และเหล็กโบไรด์ 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ที่ซึ่งซิลิคอนมีต้นกำเนิดมาจากสารใดๆ ของซิลิคอน เชิงธาตุและซิลิคอนของสารประกอบซิลิคอนที่ได้รับการเลือกมาจากอย่างน้อยที่สุดสารใดๆ ของ สารประกอบที่ตามมานี้คือ ซิลิคอนคาร์ไบด์, ซิลิคอนโบไรด์ และเฟอร์โรซิลิคอน 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงโบรอนและซิลิคอน อย่างน้อยที่สุด 40% โดยน้ำหนัก 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 4 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงโบรอน และซิลิคอน อย่างน้อยที่สุด 85% โดยน้ำหนัก หน้า 2 ของจำนวน 4 หน้า 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 5 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งโบรอนประกอบขึ้นเป็นอย่างน้อยที่สุด 10% โดยน้ำหนักของปริมาณโบรอนและซิลิคอนของส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว 7. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 6 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งซิลิคอนประกอบขึ้นเป็นอย่างน้อยที่สุด 55% โดยน้ำหนักของปริมาณโบรอนและซิลิคอนของส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 7 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงธาตุโลหะน้อยกว่า 50% โดยน้ำหนัก 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 8 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงธาตุโลหะน้อยกว่า 10 %โดยนํ้าหนัก 1 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 9 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึงความหนา 0.3 ถึง 0.6 มิลลิเมตร และการใช้ของสารผสมสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงการใช้ 0.02 ถึง 0.12 มิลลิกรัม โบรอนและซิลิคอนต่อมิลลิเมตร2 โดยเฉลี่ย บนพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง 1 1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 9 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึงความหนา 0.6 ถึง 1.0 มิลลิเมตร และการใช้ของสารผสมสารลดจุดหลอมเหลว รวมถึงการใช้ 0.02 ถึง 1.0 มิลลิกรัมโบรอนและซิลิคอนต่อมิลลิเมตร2 โดยเฉลี่ย บนพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง 1 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 11 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งมีพื้นที่ (A1) ที่ใหญ่กว่าพื้นที่ (A2) ที่ได้รับการกำหนดขอบเขตโดยจุดสัมผัสบนพื้นผิวดังกล่าว ในลักษณะที่ โลหะในชั้นโลหะที่หลอมเหลวไหลไปสู่จุดสัมผัสเมื่อยอมให้มีการก่อรูปส่วนต่อ 1 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 12 ที่ซึ่งพื้นที่ (A1) ของพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งใหญ่กว่า พื้นที่ที่ได้รับการกำหนดขอบเขตโดยจุดสัมผัสอย่างน้อยที่สุด 10 เท่า 1 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 12 หรือ 13 ที่ซึ่งพื้นที่ (A1) ของพื้นผิวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง ใหญ่กว่าพื้นที่ภาคตัดขวาง (A3) ของส่วนต่ออย่างน้อยที่สุด 3 เท่า 1 5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 14 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งส่วนต่อรวมถึงโลหะอย่างน้อยที่สุด 50 %โดยน้ำหนัก ซึ่งก่อนการทำให้ร้อนเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนโลหะใดๆ ของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง และชิ้นส่วนโลหะที่สอง 1 6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 15 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนใดๆ ของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง และชิ้นส่วนโลหะที่สองรวมถึงส่วนยื่นจำนวนหนึ่งที่ยื่นไปสู่ชิ้นส่วนโลหะอื่น ในลักษณะที่ เมื่อนำ ชิ้นส่วนโลหะที่สองเข้าสัมผัสกับพื้นผิว ดังกล่าวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง จุดสัมผัสจำนวนหนึ่งได้รับ การก่อรูปขึ้นบนพื้นผิวดังกล่าวของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่ง หน้า 3 ของจำนวน 4 หน้า 1 7. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe> 50% โดยนํ้าหนัก, Cr< 13%โดยนํ้าหนัก, Mo <1%โดยน้ำหนัก, Ni <1%โดยน้ำหนักและ Mn<3% โดยนํ้าหนัก 1 8. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe > 90% โดยน้ำหนัก 1 9. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe > 65% โดยนํ้าหนัก และ Cr> 13 %โดยน้ำหนัก 2 0. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe > 50% โดยน้ำหนัก, Cr > 15.5% โดยน้ำหนัก และ Ni > 6% โดยน้ำหนัก 2

1. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe > 50% โดยนํ้าหนัก, Cr > 15.5% โดยน้ำหนัก, Mo 1 ถึง 10% โดยนํ้าหนัก และ Ni> 8% โดยน้ำหนัก 2

2. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Ni > 97% โดยน้ำหนัก 2

3. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Cr> 10% โดยนํ้าหนัก และ Ni > 60% โดยนํ้าหนัก 2

4. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Cr> 15% โดยน้ำหนัก, Mo > 10% โดยนํ้าหนัก และ Ni > 50% โดยน้ำหนัก 2

5. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Co > 70% โดยน้ำหนัก 2

6. วิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 16 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งรวมถึง Fe > 10% โดยนํ้าหนัก, Mo 0.1 ถึง 30% โดยน้ำหนัก, Ni 0.1 ถึง 30% โดยน้ำหนัก และ Co > 50% โดยน้ำหนัก 2

7. ผลิตภัณฑ์ที่รวมถึงชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งที่ได้รับการต่อกับชิ้นส่วนโลหะที่สองโดยส่วนต่อหนึ่ง ซึ่งชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งและที่สองมีอุณหภูมิโซลิดัสสูงกว่า 1100องศาเซลเซียส ที่ซึ่งส่วนต่อนั้นรวมถึง ธาตุโลหะอย่างน้อยที่สุด 50% โดยน้ำหนัก ที่ได้รับการดึงมาจากพื้นที่ (A1) ที่ล้อมรอบส่วนต่อ และเป็น ส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนโลหะใดๆ ของชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งและชิ้นส่วนโลหะที่สอง 2

8. ผลิตภัณฑ์ที่รวมถึงชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งที่ได้รับการต่อกับชิ้นส่วนโลหะที่สองตามวิธีการของ ข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 26 ข้อใดข้อหนึ่ง หน้า 4 ของจำนวน 4 หน้า 2

9. สารผสมสารลดจุดหลอมเหลวเพื่อการต่อชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งกับชิ้นส่วนโลหะที่สอง ตามวิธีการของข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 26 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งสารผสมสารลดจุดหลอมเหลวรวมถึง i) ส่วนประกอบสารลดจุดหลอมเหลวที่รวมถึงโบรอนและซิลิคอนอย่างน้อยที่สุด 25% โดยน้ำหนัก เพื่อ การลดอุณหภูมิหลอมเหลวลง และ ii) อย่างอาจเลือกได้ ส่วนประกอบสารยึดเพื่อทำให้การใช้ของ สารผสมสารลดจุดหลอมเหลวบนชิ้นส่วนโลหะที่หนึ่งสะดวก