Claims (9)
1. กรรมวิธีสำหรับการผลิตกรดอะมิโน มีเธนฟอสฟอนิค ซึ่งประกอบด้วย a ) การทำปฏิกิริยาของสารประกอบของสูตร R-CH2-NH-CO-NH-CH2-R\' ซึ่ง R และ R\' หมายถึงไฮดรอกซิ หรือ C1-4 แอลคอกซิ ด้วยฟอสฟอเนติงเอเจนต์ ซึ่งคือ ( i ) ฟอสฟอรัสไทนคลอไรด์, ( ii ) ไดแอลคิล ฟอสไฟท์ ( iii ) สารประกอบของสูตร ( VI ) : (CL)nP(OR1)3-1 (VI) หรือของผสมของสารประกอบเหล่านี้ ซึ่ง n คือ 1 หรือ 2 และ R1 ออพชันนัลลี ซับสทิทิวเทด แอลคิล หรือออพชันนัลลี ซับสทิทิวเทด แอริล หรือ ( iv ) ฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์ในสารผสม กับแอลกอฮอล์ของสูตร R1OH ซึ่ง R1 เป็นตามที่นิยามไว้ในที่นี้ และต่อจากนั้น b ) ทำการไฮโดรไลช์ผลิตภัณฑ์ของขั้นตอน (a) ให้เกิดเป็นกรดอะมิโนมีเธนฟอสฟอนิค1.Processes for producing amino acids Methenophosphonic Which consists of a) the reaction of the compound formula R-CH2-NH-CO-NH-CH2-R \ 'where R and R \' refer to hydroxyl or C1-4 alkoxy with phosphonating agent, which is (i ) Phosphorus tynachloride, (ii) dialkylphosphite (iii) compound of formula (VI): (CL) nP (OR1) 3-1 (VI) or a mixture of these compounds. Where n is 1 or 2 and R1 the optional substrate alkyl or the optional substrate ted aeryl or (iv) phosphorus trichloride in Mixture With the alcohol of the formula R1OH, where R1 is as defined here And then b) hydrolyzate the products of the step (a) to form the amino acid methenophosphonic.
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งฟอสฟอเนติงเอเจนต์ คือสารประกอบของสูตร (VI) : (C1)nP(OR1)3-n (VI) หรือของผสมของสารประกอบเหล่านี้ ซึ่ง n คือ 1 หรือ 2 และ R1 ออพชันนัลลี ซับสทิทิวเทด แอลคิล หรือออพชันนัลลี ซับสทิทิวเทด แอริล หรือฟอสฟอเนติงเอเจนต์ คือฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์ ในสารผสมกับแอลกอฮอล์ของสูตร R1OH ซึ่ง R1 เป็นตามที่นิยามไว้ในที่นี้2. Process according to claim 1, in which the phosphonating agent Is a compound of the formula (VI): (C1) nP (OR1) 3-n (VI) or a mixture of these compounds, where n is 1 or 2 and R1, the optional substrate L. Kyl or optional substrate aryl or phosphonating agent is phosphorus trichloride in an alcohol mixture of R1OH formula, where R1 is defined. Herein
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งฟอสฟอเนติงเอเจนต์คือสารประกอบของสูตร (VI) ซึ่ง n คือ 1 และ R1 คือ C1-7 แอลคิล3. Process according to claim 2, in which phosphonating agents are compounds of formula (VI), where n is 1 and R1 is C1-7 alkyl.
4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่งฟอสฟอเนติงเอเจนต์คือของผสมของฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์และแอลกอฮอล์ของสูตร R1OH ซึ่ง R1 คือ C1-7 แอลคิล และใช้ แอลกอฮอล์ R1OH จาก 1.8 ถึง 2.2 โมล ต่อโมลของฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์4. Process according to claim 2, in which phosphonating agent is a mixture of phosphorus. Trichloride and alcohol of the formula R1OH, where R1 is C1-7 alkyl, and R1OH alcohol is used from 1.8 to 2.2 mol per mole of phosphorus trichloride.
5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อหนึ่งข้อใดซึ่งปฏิกิริยา (a) เกิดขึ้นที่อุณหภูมิ จาก 0 ํ ซ ถึง 50 ํ ซ5. One of the preceding claims processes in which reaction (a) takes place at temperatures from 0 ํ to 50 ํ.
6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อหนึ่งข้อใดซึ่งปฏิกิริยาไฮดรอลิซิส (b) เกิดขึ้น ที่อุณหภูมิจาก 100 ํ ซ ถึง 200 ํ ซ ปรับความดันตามนั้น6. A process according to one of the previous claims in which the hydrolysis (b) takes place at a temperature from 100 ํ to 200 ํ adjust the pressure accordingly.
7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อหนึ่งข้อใด ซึ่งปฏิกิริยา (a) เกิดขึ้นโดยมีตัว ทำละลายอยู่ด้วยคือ ดีโทน, คลอริเนเทด ไฮโดรคาร์บอน ตัวทำละลายแอโรแมติคไนทริลหรือแอน ไฮดรัส คาร์บอกซิลิค แอซิดหรือเอสเทอร์7. Process according to any of the previous claims Where reaction (a) takes place with the Solvents are also deonate, chlorinated hydrocarbons, aerobic, nitryl or anhydrous carboxylic acid or esters.
8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง ข้อ 6 ข้อหนึ่งข้อใด ซึ่งปฏิกิริยา (a) เกิดขึ้นโดย ที่มีตัวทำละลายที่รวมตัวกับน้ำได้อยู่ด้วย ซึ่งแยกออกก่อนการเสด็จสมบูรณ์ของขั้นตอนไฮดรอลิซิส (b) และถูกแทนที่โดยตัวทำละลายที่ไม่รวมตัวกับน้ำ8. Process according to Clause 1 to Clause 6, any one Where the reaction (a) takes place in the presence of a water-converting solvent. Which was separated before the completion of the hydrolysis phase (b) and replaced by a solvent that did not combine with water.
9. กรรมวิธีสำหรับการผลิตกรดอะมิโน มีเธนฟอสฟอนิค ซึ่งประกอบด้วย 1) การทำปฏิกิริยาของสารประกอบของสูตร R-CH2-NH-CO-NH-CH2-R\' ซึ่ง R และ R\' หมายถึง ไฮดรอกซิ หรือ C1-4 แอลคอกซิ กับฟอสฟอเนติง เอเจนต์ ซึ่งคือฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์ หรือไดแอลคิล คลอโรฟอสฟอเนทของสูตร C1P(OR1)2 ซึ่ง R1 คือ C1-7 แอลคิลหรือกับฟอส ฟอเนติง เอเจนต์ซึ่งคือสารผสมของฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์และแอลกอฮอล์ของ สูตร R1OH โดยที่มีตัวทำละลายที่รวมตัวกับน้ำได้ให้เกิดสารประกอบของสูตร (II) เมื่อฟอสฟอเนติง เอเจนต์คือฟอสฟอรัสไทรคลอไรด์ และสารประกอบของ สูตร (II) เมื่อฟอสฟอเนติง เอเจนต์คือไดแอลคิล คลอโรฟอสฟิเนท หรือคือ ของ ผสมของฟอสฟอรัส ไทรคลอไรด์ และแอลกอฮอล์ R1OH (สูตรเคมี) (II) (สูตรเคมี) (II\') 2) การไฮโดรไลซ์สารประกอบของสูตร (II) หรือ (II\') ด้วยน้ำภายใต้ภาวะ ที่ไม่รุนแรงให้เกิดสารประกอบของสูตร (IV) (สูตรเคมี) (IV) 3) การแยกตัวทำละลายที่รวมกับน้ำได้ออกโดยการกลั่น และแทนที่โดยตัวทำละลาย ที่ไม่รวมกับน้ำ 4) การเติมน้ำและการสกัดสารประกอบของสูตร (IV) เข้าไปในชั้นน้ำที่เกิดขึ้นและ 5) การไฮโดรไลช์ชั้นน้ำจากชั้น (4) ที่อุณหภูมิจาก 100 ํซ ถึง 200 ํซ ปรับความ ดันตามนั้น จึงเกิดเป็นกรดอะมิโน มีเธนฟอสฟอนิค 19.Processes for producing amino acids Methenophosphonic Which consists of 1) the reaction of the compound formula R-CH2-NH-CO-NH-CH2-R \ 'where R and R \' refer to hydroxyl or C1-4 Alkoxin with a phosphonating agent, which is tri-phosphorus. Chloride or dialkyl chlorophosphonate of formula C1P (OR1) 2, where R1 is C1-7 alkyl or with a phosphonating agent, which is Mix of phosphorus Trichloride and alcohol of the R1OH formula, with a solvent combining with water, form a compound of formula (II). The agent is phosphorus trichloride. And the compound of formula (II) when phosphonating The agent is dialkyl. Chlorophosphinate, or is a mixture of phosphorus, trichloride and alcohol, R1OH (chemical formula) (II) (chemical formula) (II \ ') 2) compound hydrolysis of formula (II) or ( II \ ') with water under A non-aggressive formulation (IV) (chemical formula) (IV) 3) was formed. And replaced by solvent 4) adding water and extraction of formula (IV) compounds into the resulting layer of water and 5) hydrolysis of water layers from layer (4) at temperatures from 100 ํ to 200 ํ. H adjusts the pressure accordingly, thus forming amino acids. Methenophosphonic 1
0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อหนึ่งข้อใด ซึ่งผลิตภัณฑ์กรดอะมิโน มีเธนฟอส ฟอนิค ทำปฏิกิริยาต่อไปโดยปราศจากการแยก เพื่อ เกิดเป็น N-ฟอสฟอนอเมธิลไกลซีน0. Process according to any of the previous claims The amino acid product, methenphosphonic acid, continued to react without separation to form N-phosphon-amethyl glycine.