TH10689B - โพลิยูรีเธนเรซินและการใช้ประโยชน์ - Google Patents

Abstract

การประดิษฐ์นี้เกี่ยวข้องกับโพลิยูรีเธนเรซิน, โฟมที่เตรียมขึ้นจากเรซินนั้น กรรมวิธีการเตรียมโฟม องค์ประกอบโฟมโพลิตูรีเธนที่เหมาะสมกับวัสดุพื้นผิวในอุตสาหกรรม การผลิตโฟมโพลิยูรีเธนชนิดแข็ง, โพลิออกซิแอลคิลีน โพลิออลชนิดใหม่ที่เตรียมขึ้นตามการ ประดิษฐ์นี้มีสภาพกระจ่ายร่วมดีเลิศเมื่อผสมโพลิออลกับไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอนซึ่งสามารถ ลดการอกทำลายจากสิ่งแวดล้อมได้มากที่สุดและมีประสิทธิภาพการทำงานดี, นอกจากนั้น โพลิยูรีเธนที่เตรียมขึ้นโดยการทำปฎิกิริยาโพลิออกซิแอลดิลีน โพลิออล กับโพลิไอโซไซแอเนท อินทรีย์ โดยมีตัวเร่งปฎิกิริยาอยู่ด้วย ถ้าจำเป็นซึ่งโพลิยูรีเธนนั้นมีความต้านทานต่อการละลาย ในไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอนที่ดีและดังนั้นสามารถจะได้รับประสิทธิภาพที่ต้องการอย่างสูงสุด ดังตัวอย่างเช่น โพลิยูรีโฟมที่เตรียมขึ้นจากโพลิแอลคิลีน โพลิออลชนิดใหม่นั้นมีสมบัติกายภาพดี เลิศ ได้แก่ สมบัติการเป็นฉนวนความร้อน ความแข็งแรง มีความเสถียรภาพเกี่ยวกับขนาด ที่อุณหภูมิต่ำและมีความต้านทานต่อเปลวเพลิง นอกจากนั้นโพลิยูรีเธนโฟมมีประโยชน์มากต่อการ ประยุกต์ใช้เป็นชนิดต่าง ๆ ได้แก่ เป็นแผ่นฉนวนความร้อนในตู้เย็น และเครื่องทำความเย็น ชนิดต่าง ๆ และวัสดุโครงสร้างแอเดียแบติกชนิดอื่น

Claims (3)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา : 1. โพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งที่ได้จากการทำปฎิกิริยาของโพลิไอโซไชแอนทอินทรีย์โดยมี สารทำให้เกิดโฟม ตัวเร่งปฎิกิริยา และสารควบคุมเซลล์ พร้อมทั้งประกอบด้วยโพลิออกซิแอลคิลีน โพลิออลที่เลือกจาก : โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออล (a) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 145 ถึง 350 มก.KOH/กรัม และ เตรียมขึ้นโดยการเติมแอลทีคิลีนออกไซด์จาก 1.0 ถึง 4.5 โมล ลงในหนึ่งโมลของไฮดรอกซิลของ ฟีนอลเรซินที่มีค่าน้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ยจาก 650 ถึง 1400 และมีหมู่ฟังก์ชั่นโดยเฉลี่ยจาก 3 ถึง 8 และแทนได้ด้วยสูตร(I) : (สูตร) (1) ซึ่ง R1 คือ ไฮโดรเจนอะตอม หมู่แอลคิลที่มีคาร์บอน 1 ถึง 9อะตอม เฮโลเจนอะตอมที่เลือก จากคลอรีน, โบรมีน และฟลูออรีน,ไฮดดรอกซิล, เมธอกซี, เอธอกซี หรือ บิวทอกซี; m คือเลข จำนวนเต็มจาก 1 ถึง 3 ; n คือ เลขจำนวนเต็มจาก 1 ถึง 6; x คือหมู่าไดเวแลนท์ ที่เลือกจากหมู่ที่ ประกอบด้วย -CR1R2-,ไซลิลีน, ออกซิ, ไธโอ, ไดไธโอ และซัลโฟนิล; และ Y คือหมู่เชื้อมหนึ่ง หมู่หรือมากกว่าที่เลือกจากหมู่ไดเวเลนท์ข้างต้น และซึ่ง R1 และ R2 คือไฮโดรเจนอะตอม, แอลคิลที่ มีคาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอม, หมู่แอลลิไซคลิคไฮโดรคาร์บอน หรือหมู่แอโรเมทิคไฮโดรคาร์บอน โพลิออกซีแอลคิลีนโพลีออล (b) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 240 ถึง 800 มก. KOH/กรัม และได้ จากการเติมแอลคิลีนออกไซด์จาก 0.5 ถึง 3.0 โมล ลงในหนึ่งอะตอมของไฮโดรเจนที่ว่องไวของ แอลคานอแลมีน ซึ่งเป็นสารประกอบเดี่ยวหรือของผสมของสารประกอบสองชนิดหรือมากกว่าที่ เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยสารประกอบซึ่งแทนได้ด้วยสูตร (II): NR\'1R\'1R\'2 (II) ซึ่ง R\'1 และ R\'2 คืออะตอม หรือหมู่ที่เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนอะตอม, หมู่ -CH2-CH2-OH และหมู่ -CH2CH(CH3)OH ซึ่งไม่รวมถึงกรณีซึ่ง R\'1 และ R\'2 ทั้งสองหมู่คือ ไฮโดรเจนอะตอม และ โพลิออกซิคิลีนโพลิออล (c) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 130 ถึง750 มก.KOH/กรัม และได้ จากการเติมแอลคิลีนออกไซด์จาก 0.8ถึง 6.5 โมล ลงในหนึ่งอะตอมของไฮดรอกซิลของสารประกอบ แอลิแฟติคโพลิไฮดรอกซิ ซึ่งเป็นสารปะกอบเดี่ยวหรือของผสมของสารประกอบสองชนิดหรือ มากกว่าซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยไกลคอล, โพลิไฮดรอกแอลกอฮอล์ และโพลิแซกคาไรด์ที่มี หมู่ฟังก์ชั่น จาก 2 ถึง 8 ซึ่งการรวมเข้าด้วยกันของโพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออลเป็นการรวมกันของ (a) และ (b) ที่มี อัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(b) จาก 0.25 ถึง 4.0 และค่าไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700 มก.KOH/กรัม หรือการรวมกันของ (a) และ (c) ที่มีอัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(c) จาก 0.1 ถึง 4.0 และค่า ไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700มก.KOH/กรัม และสารทำให้เกิดโฟม คือไฮโดรคลอโรฟลูออโร คาร์บอน หรือของผสมของสารทำให้เกิดโฟมที่มีสารนี้อยู่ 2. โพลิยูริเธนโฟมชนิดแข็งของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งฟีนอลเรซิน คือ โนโวแลคเรซินซึ่งแทน ได้ด้วยสูตร (I) ซึ่ง R1 คือไฮโดรเจนอะตอม m คือ 1 และทั้ง x และ y คือหมู่ -CH-2 3. โพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งของข้อถือสิทธิ 2 ที่ซึ่งโนโวแลคเรซินมีน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย จาก 650 ถึง 900 หมู่ฟังก์ชันโดยเฉลี่ยจาก 3 ถึง 8 และจุดอ่อนตัวจาก 75 ถึง 115 ํ ซ 4. โพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งของข้อถือสิทธิ 1 ที่วึ่งไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน คือ 2,2- ไดคลอโร-1,1,1-ไทรฟลูออโรอีเธน หรือ 1,1-ไดคอลโร-1-ฟลูออโรอีเธน 5. โพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งโพลิไอโซแอเนทอินทรีย์คือพรี- โพลิเมอร์ที่สิ้นสุดด้วยไฮโซไซแอเนท (isocyanate terrninated prepolymer) ที่ได้โดยการทำปฎิกิริยา ก่อนหน้านี้ของปริมาณทั้งหมดหรือส่วนของโพลิไอโซไซแอเนทอินทรีย์ดังกล่าวกับสาร ประกอบที่มีไฮโดรเจนที่ว่องไวในอัตราส่วนโดยสมบูลน์ของ NCO/ไฮโดรเจนที่ว่องไว ซึ่งอยู่ในช่วง จาก 2.0 ถึง 5.0 6. โพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งของข้อถือสิทธิ 1 ที่ซึ่งอัตราส่วนโดยสมมูลย์ของหมู่ไอโซ- ไซแอนเนทในโพลิไอโซไซแอเนทอินทรีย์ ต่อไฮโดรเจนอะตอมที่ว่องไวในส่วนผสมที่ทำให้เกิดโฟม อยู่ในช่วงจาก 0.8 ถึง 5.0 7. กรรมวิธีสำหรับเตรียมโพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข้งโดยการทำปฎิกิริยาของโพลิไอโซไซ- แอเนทอินทรีย์โดยมีสารทำให้เกิดโฟม ตัวเร่งปฎิกิริยาและสารควบคุมเซล พร้อมทั้งประกอบด้วย โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออกที่เลือกจาก : โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออล (a) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 145 ถึง 350 มก.KOH/กรัม และ เตรียมขึ้นโดยการเติมแอลคิลลีนออกไซด์จาก 1.0 ถึง 4.5 โมลลงในหนึ่งโมลของไฮดรอกซิลของ ฟีนอลเรซินที่มีค่าน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยจาก 650 ถึง 1400 และมีหมู่ฟังก์ชันโดยเฉลี่ยจาก 3 ถึง 8 และแทนได้ด้วยสูตร(I): (สูตร) (I) ซึ่ง R1 คือไฮโดรเจนอะตอม หมู่แอลคิลที่มีคาร์บอน 1 ถึง 9 อะตอม เฮโลเจนอะตอมที่ เลือกจากคลอรีน, โบรมีน และฟลูออรีน,ไฮดรอกซิล, เมธอกซี, เอธอกซี หรือบิวทอกซี; m คือเลข จำนวนเต็มจาก 1 ถึง 3 ; n คือเลขจำนวนเต็มจาก 1 ถึง 6 ; X คือหมู่ไดเวแลนท์ที่เลือกจากกลุ่มที่ ประกอบด้วน -CR1R2,- ไซลิลีน, ออกซิ, ไธโอ, ไดไธโอ และซัลโฟนิล; และ Y คือ หมู่เชื่อมหนึ่ง หมู่หรือมากกว่าที่เลือกจากหมู่ไดเวเลนท์ข้างต้น และซึ่ง R1 และ R2 คือไฮโดรเจนอะตอม, แอลคิล ที่มีคาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอม หมู่แอลิซคอลกไฮโดรคาร์บอน หรือหมู่แอโรแมทิคไฮโดรคาร์บอน โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออล (b) ที่มีค่าไฮโดรอกซิลจาก 240 ถึง 800 มก.KOH/กรัม และ ได้จากการเติมแอลคิลีนออกไวด์จาก 0.5 ถึง 3.0 โมล ลงในหนึ่งอะตอมของไอโดนเจนที่ว่องไวของ แอลคานอแลมีนซึ่งเป็นสารประกอบเดี่ยวหรือของผสมของสารประกอบสองชนิดหรือมากกว่าที่ เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยสารประกอบซึ่งแทนได้ด้วยสูตร (II): NR1R1R2 (II) ซึ่ง R1\' และ R2\' คืออะตอมหรือหมู่ที่เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนอะตอม, หมู่ -CH2-CH2-OH และหมู่ -CH2CH(CH3)OH ซึ่งไม่รวมถึงกรณีซึ่ง R1\' และ R2\' ทั้งสองหมู่คือ ไฮโดรเจนอะตอม และ โพลิออกซิคิลีนโพลิออล (c) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 130 ถึง 750 มก.KOH/กรัม และ ได้จากการเติมแอลคิลีนออกไซด์จาก 0.8 ถึง 6.5 โมล ลงในหนึ่งอะตอมของไฮดรอกซิลของสาร ประกอบแอลิแฟติคโพลิไฮดรอกซิ ซึ่งเป็นสารปะกอบเดี่ยวหรือของผสมของสารประกอบสองชนิด หรือมากกว่าซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยไกลคอล, โพลิไฮดริค แอลกอฮอล์ และโพลิ- แซกคาไรด์ที่มีหมู่ฟังก์ชั่น จาก 2 ถึง 8 ซึ่งการรวมเข้าด้วยกันของโพลิออกซิแอลคิลีน โพลิออลเป็นการรวมกันของ (a) และ (b) ที่มี อัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(b)จาก 0.25 ถึง 4.0 และค่าไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700 มก.KOH/กรัม หรือการรวมกันของ (a) และ (c) ที่มีอัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(c) จาก 0.1 ถึง 4.0 และค่า ไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700 มก.KOH/กรัม และสารทำให้เกิดโฟม คือ ไฮโดรคลอโรฟลูออโร คาร์บอน หรือของผสมของสารทำให้เกิดโฟมที่มีสารนี้อยู่ 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 7 ที่ซึ่งฟียนอลเรซินคือโนโวแลดเรซินที่แทนได้ด้วยสูตร (I) ที่ซึ่ง R1 คือ ไฮโดรเจนอะตอม, m คือ 1 และทั้ง x และ y คือหมู่ -CH2- 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 8 ที่ซึ่งโนโวแลคเรซินมีน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยจาก 650 ถึง 900 หมู่ฟังก์ชันโดยเลี่ยจาก 3 ถึง 8 และจุดอ่อนตัวจาก 75ํ ถึง 115ํ ซ 1 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 7 ที่ซึ่งไฮโดรคลอดรฟลูออโรคาร์บอนคือ 2,2-ไดคอลโร-1,1,1- ไตรฟลูออโรอีเธน หรือ 1,1-ไดคอลโร-1-ฟลูออโรอีเธน 1 1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 7 ที่ซึ่งโพลิไอโซไซแอนเนทอินทรีย์คือพรีโพลิเมอร์ที่สิ้นสุดด้วย ไฮโซไซแอเนทที่ได้โดยการทำปฎิกิรยาก่อนหน้านี้ของปริมาณทั้งหมดหรือส่วนของโพลิไอโซ- ไซแอเนทอินทรีย์ดังกล่าวกับสารประกอบที่มีไฮโดรเจนที่ว่องไวในอัตราส่วนโดยสมมูลย์ของ NCO/ ไฮโดรเจนทมี่ว่องไวซึ่งอยู่ในช่วงจาก 2.0 ถึง 5.0 1 2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 7 ที่ซึ่งอัตราส่วนโดยสมมูลย์ของหมู่ไฮโซไซแอเนทในโพลิ- ไอโซไซแอเนทอินทรีย์ ต่อ ไฮโดรเจนอะตอมที่ว่องไวในส่วนผสมที่ทำให้เกิดโฟมอยู่ในช่วงจาก 0.8 ถึง 5.0 1 3. กรรมวิธีสำหรับเตรียมองค์ประกอบโพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งโดยการพ่นของผสมของ วัตถุดิบไปบนซับสเตรทหรือเทสิ่งดังกล่าวลงในช่องว่างที่ถูกล้อมรอบด้วยวัสดุพื้นผิวจำนวนหนึ่งและ ตามด้วยการทำปฏิกิรยาโพลิไอโซไซแอเนทอินทรีย์ โดยมีสารทำให้เกิดโฟม ตัวเร่งปฎิกิรยา และสาร ควบคุมเซลพร้อมทั้งประกอบด้วยโพลิออกซิแอลดิลีนโพลิออล ที่เลือกจาก: โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออล (a) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 145 ถึง 350 มก.KOH/กรัม และ เตรียมขึ้นโดยการเติม แอลคิลีนออกไซด์จาก 1.0 ถึง 4.5 โมล ลงในหนึ่งดมลของไฮดรอกซิลของ ฟีนอลเรซินที่มีค่าน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย จาก 650 ถึง 1400และมีหมู่ฟังก์ชันโดยเลี่ยจาก 3 ถึง 8 แลชะแทนได้ด้วยสูตร(I): (สูตร) (1) ซึ่ง R1 คือไฮโดรเจนอะตอม, หมู่แอลคิลที่มีคาร์บอน 1 ถึง 9 อะตอม เฮโลเจนอะตอมที่ เลือกจากคลอรีน, โบนมีน และฟลูออรีน, ไฮดรอกซิล, เมธอกซี, เอธอกซี หรือบิวทอกซี ; m คือเลข จำนวนเต็มจาก 1 ถึง 3; n คือเลขจำนวนเต็มจาก 1 ถึง 6 ; x คือหมู่ไดเวเลนท์ที่เลือกจากหมู่ที่ประกอบ ด้วย -CR1R2-, ไซลิดีน, ออกซิ, ไธโอ, ไดไธโอ และซัลโฟนิล; และ Y คือหมู่เชื่อมหนึ่งหมู่หรือ มากกว่าที่เลือกจากหมู่ไดเวเลนท์ข้างต้น และซึ่ง R1 และ R2 คือไฮโดรเจนอะตอม, แอลคิลที่มี คาร์บอน 1 ถึง 6 อะตอม, หมู่แอลิไซคลิคไฮโดรคาร์บอน หรือหมู่แอโรแมทิคไฮโดรคาร์บอน โพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออล (b) ที่มีค่าไฮดรอกซิลจาก 240 ถึง 800 มก.KOH/กรัม และ ได้จากการเติมแอลคิลีนออกไซด์จาก 0.5 ถึง 3.0 โมล ลงในหนึ่งอะตอมของไฮโดรเจนที่ว่องไว ของแอลคานอลแลมีนซึ่งเป็นสารประกอบเดี่ยว หรือของผสมของสารประกอบสองชนิดหรือมากกว่าที่ เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยสารประกอบซึ่งแทนได้ด้วยสูตร (II); NR1\'R1\'R2\' (II) ซึ่ง R1\' และ R2\' คืออะตอมหรือหมู่ที่เลือกจากหมู่ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนอะตอม, หมู่ -CH2CH2OH และหมู่ -CH2CH2(CH3)OH ซึ่งไม่รวมถึงกรณีซึ่ง R1\' และ R2\' ทั้งสองหมู่คือ ไฮโดรเจนอะตอม และ โพลิออกซิคิลีนโพลิออล ( c ) ที่มีค่าไฮดรอกซิล จาก 130 ถึง 750 มก.KOH/กรัม และ ได้จากการเติมแอลคิลีนออกไซด์จาก 0.8 ถึง 6.5 โมลลงในหนึ่งอะตอมของไฮดรอกซิลของสาร ประกอบแอลิแฟติคโพลิไฮดรอกซิ ซึ่งเป็นสารปะกอบเดี่ยวหรือของผสมของสารประกอบสอง ชนิดหรือมากกว่าซึ่งเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยไกลคอล, โพลิไฮดรอกแอลกอฮอล์ และโพลิ- แซกคาไรด์ที่มีหมู่ฟังก์ชั่น จาก 2 ถึง 8 ซึ่งการรวมเข้าด้วยกันของโพลิออกซิแอลคิลีนโพลิออลเป็นการรวมกันของ (a) และ (b) ที่มี อัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(b)จาก 0.25 ถึง 4.0 และค่าไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700 มก.KOH/กรัม หรือการรวมกันของ (a) และ (c) ที่มีอัตราส่วนโดยน้ำหนัก (a)/(c) จาก 0.1 ถึง 4.0 และค่า ไฮดรอกซิลจาก 180 ถึง 700มก.KOH/กรัม และสารทำให้เกิดโฟม หรือไฮโดรคลอโรฟลูออโร คาร์บอน หรือของผสมของสารทำให้เกิดโฟมที่มีสารนี้อยู่ 1 4. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งวัสดุพื้นผิวจำนวนหนึ่ง คือ วัสดุพื้นผิวคู่หนึ่งาที่วางอยู่ โดยมีช่องว่าง 1 5. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งวัสดุพื้นผิวจำนวนหนึ่ง คือวัสดุพื้นผิวด้านบนด้านหนึ่ง ด้านล่างด้านหนึ่ง และด้านข้างจำนวนหนึ่ง 1 6. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่ง วัสดุพื้นผิวจำนวนหนึ่งคือ วัสดุพื้นผิวด้านล่างด้าน หนึ่ง และด้านข้างจำนวนหนึ่ง 1 7. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งวิธีการก่อรูปโพลิยูรีเธนโฟมชนิดแข็งในช่องว่างที่ถูก ล้อมรอบด้วยวัสดุพื้นผิวจำนวนหนึ่ง คือ การป้าย (spreading), เท หรือพ่น(spraying) 1 8. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งวิธีการก่อรูปโพลิยูรีเธนโฟมชนิดของแข็งบนซับสเตรทคือ การพ่น 1 9. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งฟีนอลเรซิน คือ โนโวแลคเรซิน ที่แทนได้ด้วยสูตร (I) ซึ่ง R1 คือไฮโดรเจนอะตอม, m คือ 1 และทั้ง x และ y คือ หมู่ -CH2- 2 0. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 19 ที่ซึ่งโนโวแลคเรซินมีน้ำหนักโมลเกุลเฉลี่ยจาก 650 ถึง 900 หมู่ฟังก์ชันโดยเฉลี่ยจาก 3 ถึง 8 และจุดอ่อนตัวจาก 75ํ ถึง 115ํ ซ 2

1. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน คือ 2,2-ไดคอลโร- 1,1,1-ไทรฟลูออโรอีเธน หรือ 1,1-ไดคอลโร-1-ฟลูออโรอีเธน 2

2. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งโพลิไอโซไซแอเนทอินทรีย์ คือ พรีโพลิเมอร์ที่สิ้นสุด ด้วยไอโซไซแอเนทที่ได้โดยการทำปฎิกิริยาก่อนหน้านี้ของปริมารทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งของโพลิ- ไอโซไซแอเนทอินทรีย์ดังกล่าว กับสารประกอบที่มีไฮโดรเจนที่ว่องไวในอัตราส่วนโดยสมมูลย์ของ NCO/ไฮโดรเจนที่ว่องไวซึ่งอยู่ในช่วงจาก 2.0 ถึง 5.0 2

3. กรรมวิธีของข้อถือสิทธิ 13 ที่ซึ่งอัตราส่วนโดยมูลย์ของหมู่ไอโซไซแอนเนทในโพลิ- ไอโซไซแอเนทอินทรีย์ต่อไฮโดรเจนอะตอมที่ว่องไวในส่วนผสมาที่ทำให้เกิดโฟม อยู่ในช่วงจาก 0.8 ถึง 5.0