TH9410A3 - อิฐบล็อกคอนกรีตก่อประสานที่ได้รับการปรับปรุง - Google Patents

Abstract

DC60 (14/10/57) อิฐบล็อกคอนกรีตก่อประสานที่ได้รับการปรับปรุง เป็นระบบต่อประอบ (interlocking block) โดยมีลักษณะพิเศษคือ บริเวณพื้นผิวขอบด้านข้างทั้งสองข้างของ ผนังด้านหน้า (10) และ ผนัง ด้านหลัง (20) ตลอดแนวความสูงจากผนังด้านบน (30) ไปยัง ผนังด้านล่าง (40) มีลักษณะหักทำมุม ในมากกว่า 90 องศา (11) เพื่อให้เกิดเป็นร่องรับปูนฉาบรูปทรงตัววี (12) ทำหน้าที่เป็นร่องรับปูน ฉาบเพื่อปิดประสานรอยต่อด้านข้างระหว่างอิฐบล็อกคอนกรีต ที่ต่อประกอบชนชิดกัน โดยบริเวณ พื้นผิวผนังด้านบน (30) และ บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) และ บริเวณพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) ส่วนหนึ่งจะมีลอนคลื่นที่สอง (34) ทำหน้าที่ยึดจับปูนฉาบ โดยมีวิถีทางที่ว่า ลอนคลื่นที่สอง (34) ที่ บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) และ ลอนคลื่นที่สอง (34) ที่บริเวณพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) จะอยู่ใน แนวขนานกัน อิฐบล็อกคอนกรีตก่อประสานที่ได้รับการปรับปรุง เป็นระบบต่อประอบ (interlocking block) โดยมีลักษณะพิเศษคือ บริเวณพื้นผิวขอบด้านข้างทั้งสองข้างของผนังด้านหน้า (10) และผนัง ด้านหลัง (60) ตลอดแนวความสูงจากผนังด้านบน (30) ไปยังผนังด้านล่าง (40) จะมีลักษณะหักทำมุม ในมากกว่า 90 องศา (11) เพื่อให้เกิดเป็นร่องรับปูนฉาบรูปทรงตัววี (12) ทำหน้าที่เป็นร่องรับปูน ฉากเพื่อปิดประสานรอยต่อด้านข้างระหว่างอิฐบล็อกคอนกรีต ที่ต่อประกอบชนชิดกัน โดยบริเวณ พื้นผิวผนังด้านบน (30) และ บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) และบริเวณพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) ส่วนหน่งจะมีลอนคลื่นที่สอง (34) ทำหน้าที่ยึดจับปูนฉาบ โดยมีวิธีทางที่ว่า ลอนคลื่นที่สอง (34) ที่ บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) และ ลอนคลื่นที่สอง (34) ที่บริเวณพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) จะอยู่ใน แนวขนานกัน

Claims (1)

1. อิฐบล็อกคอนกรีตก่อประสานที่ได้รับการปรับปรุง ตามการประดิษฐ์นี้ ประกอบด้วย ผนัง ด้านหน้า (10) ผนังด้านหลัง (20) ผนังด้านบน (30) ผนังด้านล่าง (40) ผนังด้านขวา (50) และผนัง ด้านซ้าย (60) บริเวณพื้นผิวของผนังด้านบน (30) จะมีเดือยที่หนึ่ง (31) วางลำดับตำแหน่งจากผนังด้านขวา (50) ไปยังผนังด้านซ้าย (60) ที่มีลักษณะลำดับเป็นสันส่วนวงกลมที่สูงขึ้นจากพื้นผิวระนาบของผนัง ด้านบน (30) ทำหน้าที่ต่อประสานเข้ากับบ่ารับเดือนที่หนึ่ง (41) ที่อยู่บริเวณผนังด้านล่าง (40) ของ อิฐพล็อกคอนกรีตก้นที่สอง ให้สูงขึ้นไป ที่ส่วนศูนย์กลางของเดือยที่หนึ่ง (31) เป็นช่องทะลุ (7) ไปถึงผนังด้านล่าง (40) บริเวณพื้นผิวของผนังด้านล่าง (40) จะมีเบ้ารับเดือยที่หนึ่ง (41) วางลำดับตำแหน่งจากผนัง ด้านขวา (50) ไปยัง ผนังด้านซ้าย (60) ที่มีลักษณะเบ้ารับส่วนวงกลมต่ำกว่าพื้นผิวระนาบของผนัง ด้านล่าง (40) ทำหน้าที่ต่อประกอบเข้ากับเดือยที่หนึ่ง (31) ที่อยู่บริเวณผนังด้านบน (30) ของอิฐพล็อก คอนกรีตก้อนที่สอง ให้สูงขึ้นไป ที่ส่วนศูนย์กลางของเบ้ารับเดือยที่หนึ่ง (41) เป็นช่องทะลุ (70) ไป ถังผนังด้านบน (30) บริเวณพื้นผิวของผนังด้านขวา (50) จะมีเดือยที่สอง (51) ที่มีลักษณะลำตัวเป็นสันที่สูงขึ้นจาก พื้นผิวระนางของผนังด้านขวา (50) ตลอดแนวความสูงจากผนังด้านบน (30) ไปยังผนังด้านล่าง (40) ที่เดือยที่สอง (51) จะมีเขี้ยว (52) จำนวนสองเขี้ยวที่ระหว่างกลางของเขี้ยวทั้งสองเขี้ยวจะมีพื้นที่บรรจุ ปูน (71)จะมีเขี้ยว(52) จำนวนสองเขี้ยวที่ระหว่างกลางของเขี้ยวทั้งสองเขี้ยวจะมีพื้นที่บรรจุ ปูน (71) ที่ไม่ชนติดเข้ากับพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) ของเบ้ารับเดือยที่สอง (61) เพื่อใหเป็นพื้นที่บรรจุ ปูน (71) ในตำแหน่งนี้ โดยเดือยที่สอง (51) ทำหน้าที่ต่อประกอบเข้ากับเข้ารับเดือยที่สอง (61) ที่อยู่ บริเวณผนังด้านซ้าย (60) ของอิฐบล็อคคอนกรีตที่สอง เพื่อต่อประกอบกันให้ยาวออกไปทาง ด้านข้างซ้ายและด้านข้างขวา บริเวณพื้นผิวของผนังด้านซ้าย (60) จะมีเบ้ารับเดือยที่สอง (61) ที่มีลักษณะเบ้ารับต่ำกว่า พื้นผิวระนาบของผนังด้านซ้าย (60) ทำหน้าที่ต่อประกอบเข้ากับเดือยที่สอง (51) ที่อยู่บริเวณผนัง ด้านขวา (50) ของอิฐพล็อกคอนกรีตก้นอที่อสงเพื่อต่อประกอบกันให้ยาวออกไปทางด้านข้างซ้าย และด้านข้างขวา โดยมีลักษณะพิเศษคือ บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) ส่วนหนึ่งจะมีลอนคลื่นที่สอง (34) ที่มีลักษณะพื้นผิวที่ไม่ เรียบและเป็นลอน จำนวนหนึ่งยาวตลอดแนวความสูงจากผนังด้านบน (30) ไปยัง ผนังด้านล่าง (40) ทำหน้าที่ยึดจับปูนฉาบ โดย ลอนคลื่นที่สอง (34) ที่บริเวณพื้นผิวผนังด้านข้าง (50) และ ลอนคลื่นที่ สอง (34) ที่บริเวณพื้นผิวด้านซ้าย (60)จะอยู่ในแนวขนานกัน บริเวณพื้นผิวผนังด้นซ้าย (60) ส่วนหนึ่งจะมีลอนคลื่นที่สอง (34) ที่มีลักษณะพื้นผิวที่ไม่ เรียบและเป็นลอน จำนวนหนึ่งยาวตลอดแนวความสูงจากผนังด้านบน (30) ไปยัง ผนังด้านล่าง (40) ทำหน้าที่ยึดจับปูนฉาบโดย ลอนคลื่นที่สอง 34) ที่บริเวณพื้นผิวผนังด้านซ้าย (60) และลอนคลื่นที่ สอง (34) ที่บริเวณพื้นผิวผนังด้านขวา (50) จะอยู่ในแนวขนานกัน บริเวณพื้นผิวของผนังด้านบน (30) สวนหนึ่งจะมีลอนคลื่น (33) ที่มีลักษณะพื้นผิวที่ไม่เรียบและ เป็นลอน ทำหน้าที่ยึดจับปูนฉาบ