Claims (8)
1.สารประกอบสำหรับเคลือบซึ่งประกอบด้วยสารละลายที่เป็นตัวยึด (I) ที่มี เอ ). 30 ถึง 70 % โดยน้ำหนักตัวยึดที่มีค่าของกรด 20 ถึง 150 มก. ของ KOH / กรัม, บี ). 2 ถึง 30 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 5 ถึง 16 % โดยน้ำหนัก, ของฟินอลิค และ / หรืออะมิโน เรซิน อย่างน้อยสุดหนึ่งชนิด และ / หรือตัวสารสำหรับเชื่อมขวางชนิดไอโซโซ แอเนท เป็นตัวสารสำหรับเชื่อมขวาง บี. ซี ). ถ้าให้พอเหมาะกันคือ 1 ถึง 7 % โดยน้ำหนัก, ถ้าให้พอเหมาะกันที่ควรใช้คือ 1 ถึง 5%โดยน้ำหนักของแอมโมเนีย และ/ หรือ แอมีน เป็นตัวสารสำหรับการทำให้เป็นกลาง และ ดี ). 5 ถึง 6% โดยน้ำหนักของตัวทำลายอินทรีย์, น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบเอ ถึง ดี ในแต่ละกรณีเป็น 100% โดยน้ำหนัก เตรียมตัวยึดเอ ได้โดยการทำปฏิกิริยา A)20 ถึง 80 % โดยน้ำหนักของ อีพอกซิ เรซิน ที่มีหมู่อีพอกไซด์โดยเฉลี่ยมากกว่าหนึ่งหมู่ต่อโมเลกุล กับ B)1 ถึง 60 % โดยน้ำหนักของพอลิเอสเทอร์ เรซิน ชนิดที่มีคาร์บอกซิลอยู่ด้วยที่มีจำนวน น้ำหนักโมเลกุลโดยเฉลี่ยเป็น 500 ถึง 5,000 ที่อุณหภูมิ 80 ถึง 200 องศา ที่ควรใช้คือ 120 ถึง 180 องศา และในที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ด้วย, และโดยการพอลิเมอร์ไรส์ C) 10 ถึง 50% โดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะเอธิลีน, 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ที่มีหมู่คาร์บอกซิลอยู่ด้วย ในที่ผลิตภัณฑ์ปฏิกิริยาที่ได้รับในขั้นตอนที่หนึ่งของกรรมวิธี, ที่อุณหภูมิ 60 ถึง 200 องศา ที่ควรใช้คือ 120 ถึง 140 องศา ในที่มีอย่างน้อยที่สุด 2 % โดยน้ำหนัก, ที่ถือเอาน้ำหนักของโมโนเมอร์ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะเอธิลีน C เป็นเกณฑ์, ของตัวเริ่มต้นชนิดเพอร์ออกไซด์, น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ A ถึง C ในแต่กรณี เป็น 100 % โดยน้ำหนัก, ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า 1) อีพอกซิเรซิน A มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยอย่างน้อยที่สุด 850 , 2) พอลิเอสเทอร์ เรซิน B มีค่าของกรดเป็น 2 ถึง (30 มก. ของKOH/ กรัม และ 3) ให้ อีพอกซิเรซิน A ทำปฏิกิริยากับพอลิเอสเทอร์เรซิน B ในแนวทางดังเช่นที่ทำให้ออกซิเรน ริง ที่มีอยู่ตอนเริ่มต้นอย่างน้อยที่สุด 50 % ที่ควรใช้คือ 50 ถึง < 80% เปิดริงได้1.A coating compound consisting of a binder solution (I) containing A ). 30 to 70 % by weight of a binder with an acid value of 20 to 150 mg KOH/g, B ). 2 to 30 % by weight, preferably 5 to 16 % by weight, of at least one phenolic and/or amino resin and/or iso-anate crosslinking agent. B.C. crosslinking agent ). If appropriate it is 1 to 7 % by weight, if appropriate it is 1 to 5% by weight of ammonia and/or amine as a neutralizing agent. and D ). 5 to 6% by weight of organic solvents, the total weight of components A to D in each case 100% by weight. It is obtained by reacting A)20 to 80 % by weight of epoxy resin with an average of more than one epoxide group per molecule with B)1 to 60 % by weight of polyester resin. Carboxyl-containing species with a number of The average molecular weight is 500 to 5000, at 80 to 200 degrees it is preferable to 120 to 180 degrees and in the presence of a catalyst, and by polymerization C) 10 to 50% by weight. of unsaturated monomers with ethylene character, 10 to 50 % by weight of monomers with carboxyl groups. In which the reaction product obtained in the first step of the process, at 60 to 200 °C should be used is 120 to 140 °C in which there is at least 2 % by weight, which is the weight of the monomer type. Unsaturated with ethylene C as the threshold, of the peroxide initiator, the total weight of the components A to C in each case is 100 % by weight, characterized by 1) epoxide. Syresin A has a minimum average molecular weight of 850 , 2) Polyester resin B has an acidic content of 2 to (30 mg KOH/g and 3) epoxy resin A does. The reaction with polyester resin B in such a way that at least 50 % of the initial available oxyren ring should be used is 50 to < 80% to open the ring.
2. สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิที่ 1, มีลักษณะเฉพาะที่ว่าอีพอกซิเรซิน A ได้ถือเอาบิสฟีนอล A เป็นเกณฑ์2. The coating compound as claimed in Claim 1, is characterized by the fact that epoxy resin A takes bisphenol A as a criterion.
3. สารประกอบสำหรับเคลือบตามข้อถือสิทธิในข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2 ,ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า อีพอกซิ เรซิน มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย 1,200 ถึง 3,0003. Compounds for coatings according to Claim 1 or 2, with the characteristics that epoxy resins have an average molecular weight of 1,200 to 3,000.
4. สารประกอบสำหรับเคลือบตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ,ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า พอลิเอสเทอร์ เรซิน B มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย 1,000 ถึง 3,000 และค่าของกรดเป็น 10 ถึง 20 มก. ของ KoH / กรัม4. Compounds for coatings pursuant to one of Claims 1 to 3, characterized by that polyester resin B has an average molecular weight of 1000 to 3,000 and that the acid as 10 to 20 mg of KoH/g
5. สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 4, ซึ่งโมโนเมอร์ ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะ เอธิลีน ประกอบไปด้วย x) โมโนเมอร์ที่มีหมู่คาร์บอกซิล 10 ถึง 50% โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 20 ถึง 40% โดยน้ำหนัก y) นอน-ฟังคชันนาไลน์ โมโนเมอร์ ( non-functionalized monomers 0 ถึง 50 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 20 ถึง 40% โดยน้ำหนัก, และ z ) (เมธ) อะคริลิค แอซิด เอสเทอร์ ที่มีคาร์ฐอน 1 ถึง 20 อะตอมอยู่ในอนุมูลแอลกอฮอล์ 5 ถึง 60 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนักซึ่งถ้าให้เหมาะสมแล้ว,อย่างน้อยที่สุดอนุมูลแอลกอฮอล์นี้ควรอยู่ในส่นของหมู่ฟังค์ชั่น ไฮดรอกซิ, น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ x ถึง z ในแต่ละกรณีต้องเป็น 100 % โดยน้ำหนัก5. The coating compound as requested is held in one of Claims 1 to 4, in which the monomer Unsaturated, ethylene-containing x) monomers with a carboxyl group of 10 to 50% by weight, preferably 20 to 40% by weight; y) non-func. shannaline monomers (non-functionalized monomers 0 to 50 % by weight, preferably 20 to 40% by weight, and z ) (meth) acrylic acid esters at There are 1 to 20 carbon atoms present in alcohol radicals 5 to 60% by weight, preferably 10 to 50% by weight which, if appropriate, should at least be in the listener group. Hydroxython, the total weight of the components x to z in each case must be 100 % by weight.
6. สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 5, ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าสามารถได้รับตัวยึดได้จาก a) อีพอกซิ เรซิน a 20 ถึง 60 % โดยน้ำหนัก b) พอลิเอสเทอร์ เรซิน b 10 ถึง 40 % โดยน้ำหนัก, และ c) โมโนเมอร์ c 15 ถึง 40 % โดยน้ำหนัก,น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ a ถึง c ในแต่ละกรณีเป็น 100 % โดยน้ำหนัก6. The coating compound as requested in one of Claims 1 to 5, is characterized by the ability to obtain a binder from a) epoxy resin a 20 to 60 % by weight. b) polyester resin b 10 to 40 % by weight, and c) monomer c 15 to 40 % by weight, the total mass of components a to c in each case is 100 % by weight.
7. กรรมวิธีสำหรับการผลิตสารประกอบสำหรับเคลือบ ซึ่งประกอบด้วยสารประกอบด้วยสารละลายที่เป็นตัวยึดที่มี เอ)30 ถึง 70 % โดยน้ำหนักของตัวยึดที่มีค่าของกรดเป็น 20 ถึง 150 มก. ของ KOH / กรัม บี ) 2 ถึง 30 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 5 ถึง 16 % โดยน้ำหนัก, ของฟินอลิค และ / หรืออะมิโน เรซิน อย่างน้อยที่สุดหนึ่งชนิด และ /หรือ ตัวสารสำหรับเชื่อมขวางชนิดไอโซไซแอนท บี. ซี)ถ้าให้เหมาะสม 1 ถึง 7% โดยน้ำหนัก, ถ้าให้เหมาะสมควรเป็น 1 ถึง 5 % โดยน้ำหนัก,ของแอมโมเนีย และ หรือ แอมีน เป็นตัวสารสำหรับทำให้เป็นกลาง และ ดี)5 ถึง 60 % โดยน้ำหนักของตัวทำละลายอินทรีย์, น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ เอ. ถึง ดี. ในแต่ละกรณีเป็น 100 % โดยน้ำหนัก, ซึ่ง A)20 ถึง 80 % โดยน้ำหนักของอีพอกซิ เรซินที่มีหมู่พอกไซด์โดยเฉลี่ยมากกว่าหนึ่งหมู่ต่อโมเลกุล กับ B)1 ถึง 60 % โดยน้ำหนักของพอลิเอสเทอร์ เรซิน ที่มีหม่คาร์บอกซิลอยู่ด้วยที่มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย 500 ถึง 5,000 ที่อุณหภูมิ 80 ถึง 200 องศา ที่ควรใช้คือ 120 ถึง 180 องศา และในที่มีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ด้วย C) 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะเอธิลีน, 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนักของโมโนเมอร์ที่มีคาร์บอกซิลอยู่ด้วย ที่อุณหภูมิ 60 ถึง 200 องศา, ที่ควรทำคือที่ 120 ถึง 140 องศา ในที่มีตัวเริ่มชนิดเพอร์ออกไซด์อยู่ด้วยอย่างน้อยที่สุด 2 % โดยน้ำหนัก, ที่ถือเอาน้ำหนักของโมโนเมอร์ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะ เอธิลีน เป็นเกณฑ์,น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ A ถึง c ในแต่ละกรณีเป็น 100 %โดยน้ำหนัก, 3) ถ้าให้เหมาะสม , ทำตัวยึดที่เป็นผลลัพธ์ของข้อ เอ. อย่างน้อยที่สุดเป็นบางส่วนให้เป็นกลางด้วยส่วนประกอบ ซี , 4) ผสมตัวสารสำหรับเชื่อมขวาง บี, ตัวทำละลายอินทรีย์ ดี. และ ถ้าให้เหมาะสม, อาจ เป็นสารเติมแต่งที่ใช้กันเป็นประจำชนิดอื่นๆ ให้เข้าด้วยกัน, และ 5) สารประกอบำหรับเคลือบ, ถ้าให้เหมาะสมคือ, ทำให้กระจายตัวในน้ำ, ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า 1) อีพอกซิ เรซิน A มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ยอย่างน้อยที่สุดคือ 850 2) พอลิเอสเทอร์ เรซิน B มีค่าของกรดเป็น 2 ถึง ( 30 มก. ของ KOH / กรัม, และ 3) ให้อีพอกซิ เรซิน A ทำปฏิกิริยากับ พอลิเอสเทอร์ เรซิน B ตามหนทางดังเช่นที่ทำให้อย่างน้อยที่สุด 50 % ที่ควรใช้คือ 50 ถึง ( 80 % ของออกซิเรนริง ที่มีอยู่ตอนเริ่มต้นเปิดริงออก 8. กรรมวิธีตามที่ขอถือสิทธิในข้อถือสิทธิที่ 7 , ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าให้ตัวยึดที่เป็นผลลัพธ์ เอ. คอนเดนส์ไว้ก่อน ( preocndensed ) ในตอนแรกกับตัวสารสำหรับเชื่อมขวาง บี. แล้วทำให้เป็นกลางอย่างน้อยที่สุดเป็นบางส่วน, ถ้าให้เหมาะสมกัน, ด้วยส่วนประกอบ ซี. ผสมตัวทำละลาย ดี. และ, ถ้าเหมาะสมคือสารเติมแต่งที่ใช้กันเป็นประจำชนิดต่างๆ เข้าด้วยกันต่อไปอีกและถ้าให้เหมาะสมทำสารประกอบสำหรับเคลือบให้กระจายตัวในน้ำ 9. กรรมวิธีตามที่ข้อถือสิทธิในข้อถือสิทธิที่ 7 หรือ 8 ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่ามีโมโนเมอร์ส่วนที่เหลืออยู่น้อยกว่า 0.4% โดยน้ำหนัก, ที่ถือเอาน้ำหนักรวมทั้งหมดของ เอ. ถึง ดี. เป็นเกณฑ์, หลังจากการพอลิเมอร์ไรส์แบบแรดิคัลแล้ว 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 7 ถึง 9 ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าใช้ส่วนประกอบ ดี . เป็นตัวทำละลายของการอีเธอริไฟของส่วนประกอบ ดี. เป็นตัวทำละลายของการอัเธอริไฟของส่วนประกอบ A และ B ที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่หนึ่งของกรรมวิธี 1 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 7 ถึง 10 , ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า อีพอกซิเรซิน A ถือเอาบิสฟินนอล A เป็นเกณฑ์ 1 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 7 ถึง 11, ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าอีพอกซิเรซิน มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย 1,200ถึง 3,000 1 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 7 ถึง 12, ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่า พอลิเอสเทอร์ เรซิน B มีจำนวนน้ำหนักโมเลกุลเฉลี่ย 1,000 ถึง 3,000 และมีค่าของกรดเป็น 10 ถึง 20 มก. ของ KOH/ กรัม 1 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 7 ถึง 13 , ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าโมโนเมอร์ชนิดไม่อิ่มตัวที่มีลักษณะเอธิลีน C ประกอบด้วย x) โมโนเมอร์ที่มีหมู่คาร์บอกซิล 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนักที่ควรใช้คือ 20 ถึง 40 % โดยน้ำหนัก, y) นอน- ฟังค์ชันนาไลส์ โมโนเมอร์ 0 ถึง 50 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 20 ถึง 40 % โดยน้ำหนัก, และ z) (เมธ) อะคริลิค แอซิด เอสเทอร์ ที่มีคาร์บอน 1 ถึง 20 อะตอมอยู่ในอนุมูล แอลกอฮอล์ 5 ถึง 60 % โดยน้ำหนัก, ที่ควรใช้คือ 10 ถึง 50 % โดยน้ำหนัก, ซึ่งเป็นหมู่ฟังค์ชัน ไฮดรอกซิ, ถ้าให้เหมาะสมแล้ว น้ำหนักรวมทั้งหมดของส่วนประกอบ x ถึง z ในแต่ละกรณีเป็น 100 % โดยน้ำหนัก 1 5. การใช้สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 6 สำหรับการเคลือบภาชนะบรรจุภัณฑ์ 1 6. การใช้สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 6 สำหรับการเคลือบภายนอกกระป๋อง 1 7.การใช้สารประกอบสำหรับเคลือบตามที่ขอถือสิทธิในข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 6 สำหรับการเคลือบกระป๋องที่ชุบดีบุก 17. Process for the production of coating compounds Consisting of a binder solution containing A)30 to 70 % by weight of binder with an acid value of 20 to 150 mg of KOH/g b) 2 to 30 % by weight, should be used. is 5 to 16 % by weight, of at least one phenolic and/or amino resin and/or isocyanate B.C crosslinking agent), if appropriate, 1 to 7. % by weight, if appropriate it should be 1 to 5 % by weight, of ammonia and or amines as neutralizing agents and D) 5 to 60 % by weight of organic solvents, total weight of component A. . to D. in each case is 100 % by weight, where A)20 to 80 % by weight of epoxy A resin with an average of more than one poxide group per molecule with B)1 to 60% by weight of a carboxylate-containing polyester resin with an average molecular weight of 500. to 5,000 at 80 to 200 degrees, preferably 120 to 180 degrees and in the presence of a catalyst. C) 10 to 50 % by weight of ethylene-based unsaturated monomers, 10 Up to 50 % by weight of the monomer with carboxylic at temperatures of 60 to 200 degrees, preferably 120 to 140 degrees with at least a peroxide initiator. 2 % by weight, based on the weight of ethylene-based unsaturated monomers, the total weight of components A to c in each case 100 %by weight, 3) if appropriate, Neutralize the resulting fasteners of A. at least partially with components C, 4) Mix the crosslinking agent B, organic solvent D. and, if appropriate, possibly an additive. other types of regular and 5) a coating compound, where appropriate, a water-dispersible, characterized by 1) epoxy resin A with a minimum average molecular weight of 850. 2) Polyester resin B has an acidity of 2 to (30 mg of KOH/g, and 3) epoxy resin A reacts with polyester resin B accordingly. An approach such that at least 50 % should be used is 50 to (80 % of the oxyren ring. 8. The method as requested in Claim 7 , which is characterized by the preocndensed placeholder resulting in A. condenses in the first place. with the crosslinking agent B. and then neutralize at least partially, if appropriate, with the component C. Mix the solvent D. and, if appropriate, various commonly used additives. The coating compound is further dispersed in water. 9. The process according to claim 7 or 8 is characterized by the presence of residual monomers. less than 0.4% by weight, based on the total weight of A. to D., after radial polymerization Claims 7 to 9 are characterized by the use of components D. as the etherified solvent of component D. As the solvent of the etherification of components A and B performed. According to step one of Method 1 1. The method pursuant to one of Claims 7 to 10, which is characterized by epoxy resin A, assumes bisphenol A. is criterion 1 2. The method according to one of the claims 7 to 11, which is characterized by epoxy resin Polyester resin B has an average molecular weight number of 1,200 to 3,000. 1000 to 3,000 and has an acidic value of 10 to 20 mg of KOH/g1 4. Treatment pursuant to one of Claims 7 to 13 , characterized by monomers Unsaturated polyethylene with ethylene character C consists of x) monomer with 10 to 50 % carboxylic group, 20 to 40 % by weight, y) non-funk. Channalized monomer 0 to 50 % by weight, preferably 20 to 40 % by weight, and z) (meth) acrylic acid esters containing 1 to carbon. 20 atoms are in the radical 5 to 60 % alcohol by weight, preferably 10 to 50 % by weight, which is a hydroxyl functional group, if appropriate. The total weight of the components x to z in each case is 100% by weight 1. 5. Use of coating compounds as claimed in one of Claims 1 to 6 for packaging container coatings 1 6 . Use of glaze compound as requested in one of Claims 1 to 6 for exterior glazing of cans 1 7. Use of glaze compound as requested in any one of the claims. Rights 1 to 6 for coating of tin plated cans 1
8. การใช้ตามข้อถือสิทธิที่ 16 หรือ 17ที่มีลักษณะเฉพาะที่ว่าดึงยืดกระป๋องและรีดกระป๋องเครื่องดื่มชนิดสองส่วน หรือดึงยืดและรีดหรอืทำกระป๋อง โภชนาหารแบบแบบดึงขึ้นรูปชนิดอื่นๆ8. Use according to claims 16 or 17, which is characterized by stretching and rolling of beverage cans in two parts. Or stretch and iron or make cans. Other extruded nutrition