Claims (1)
ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 19/02/2563 ไม่มีข้อถือสิทธิ ------------------------------ 1. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดสำหรับ, เมื่องอชิ้นงานรูปเพลทซึ่งมีส่วนฐานและส่วนเสียรูป ซึ่งรวมด้วยส่วนซึ่งจะติดกับส่วนฐานและจะต้องถูกทำไปเป็นส่วนผนังแนวดิ่งอย่างน้อยที่สุดบน ส่วนขอบเขตระหว่างส่วนฐานและส่วนผนังแนวดิ่ง, การขึ้นรูปด้วยการกดชิ้นงานรูปเพลทไปเป็น ส่วนประกอบขึ้นรูปด้วยการกดที่ถูกก่อรูปด้วยส่วนผนังแนวดิ่งซึ่งมีส่วนโค้งซึ่งจะโค้งนูนออกเข้าหา ด้านส่วนฐานโดยที่ การก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: การรั้งส่วนบนด้านขอบเขตของส่วนฐานที่มีส่วนเสียรูปและส่วนภายนอกของส่วนเสียรูป แยกกัน, การทำให้ส่วนที่จะถูกทำไปเป็นส่วนผนังแนวดิ่งของส่วนเสียรูปในระนาบเพลทเสียรูปด้วย แรงเฉือน, และทำให้การไหลของวัสดุซึ่งหันทิศทางจากส่วนโค้งเข้าหาส่วนห่างจากส่วนโค้งเพื่อ สร้างขึ้นบนส่วนขอบภายนอกของส่วนที่จะถูกทำไปเป็นส่วนผนังแนวดิ่ง 2. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 โดยที่ การก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: เมื่อมองดูจากทิศทางความหนาเพลทของชิ้นงานรูปเพลท, การเคลื่อนที่ส่วนขีดจำกัดที่สองเมื่อเปรียบเทียบแล้วในทิศทางที่ระยะแยกระหว่างส่วน ขีดจำกัดที่หนึ่งและส่วนขีดจำกัดที่สองจะกลายเป็นเล็ก, ขณะที่ส่วนขอบเขตถูกงอจากสภาพที่ส่วน ขีดจำกัดที่สองซึ่งรั้งส่วนภายนอกของส่วนเสียรูปได้ถูกแยกออกสัมพันธ์กับส่วนขีดจำกัดที่หนึ่งซึ่ง รั้งส่วนบนด้านขอบเขต 3. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อถือสิทธิข้อที่ 2 โดยที่ การเปลี่ยนรูปจากแรงเฉือนจะประกอบรวมด้วย: การเคลื่อนที่ส่วนภายนอกที่ถูกรั้ง ในลักษณะที่ส่วนที่จะถูกทำไปเป็นส่วนผนังแนวดิ่งจะหมุนโดยมีศูนย์กลางบนจุดงอของส่วนโค้ง บนเส้นขอบเขตระหว่างส่วนฐานและส่วนเสียรูป 4. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อถือสิทธิข้อที่ 2 โดยที่ การเปลี่ยนรูปจากแรงเฉือนจะประกอบรวมด้วย: การเคลื่อนที่ส่วนภายนอกที่ถูกรั้งเป็น เส้นตรงในลักษณะที่มุมสัมพันธ์กับระนาบเพลทของชิ้นงานจะกลายเป็นอย่างน้อยที่สุด 30 ํ และ ไม่มากกว่า 60 ํ 5. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 4 โดยที่ การก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: การขึ้นรูปด้วยการดึงหลังจากขั้นตอน การเสียรูปแบบเฉือนได้ถูกกระทำ 6. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 4 โดยที่ การก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: การเปลี่ยนรูปจากแรงเฉือนหลังจาก ขั้นตอนขึ้นรูปด้วยการดึงได้ถูกกระทำ 7. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 4 โดยที่ ส่วนประกอบขึ้นรูปด้วยการกดไม่มีส่วนปีกบนด้านนอกของส่วนผนังแนวดิ่ง, และการ ก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: การขึ้นรูปด้วยแบบหลังจากขั้นตอนการเสียรูปแบบ เฉือนได้ถูกกระทำ 8. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 7 ซึ่งประกอบ รวมด้วย: หลังจากขั้นตอนการเสียรูปแบบเฉือน, การทำให้รอยย่นที่ถูกสร้างขึ้นบนส่วนผนังแนวดิ่ง เรียบโดยการหนีบและยึดส่วนผนังแนวดิ่งโดยแม่แบบ 9. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8 โดยที่ ความไม่สม่ำเสมอสำหรับการได้ความยาวของแนวของส่วนผนังแนวดิ่งจะถูกก่อรูป บนพื้นผิวกดของแม่แบบซึ่งจะจรดกันบนพื้นผิวของส่วนผนังแนวดิ่ง 1 0. วิธีการขึ้นรูปด้วยการกดตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 9 โดยที่ การเปลี่ยนรูปจากแรงเฉือนจะได้รับการดำเนินการบนชิ้นเปล่าซึ่งได้ถูกให้ความร้อน ถึงอย่างน้อยที่สุด 300 ํC และไม่มากกว่า 1000 ํC 1Disclaimer (all) which will not appear on the advertisement page: edit 19/02/2020 No disclaimer ------------------------------ 1. Press forming method for, when bending plate-shaped workpieces which have Base and deformation This includes the part which will be attached to the base and must be made to be the vertical wall part, at least on the The boundary between the base section and the vertical wall part, forming by pressing the plate-shaped workpiece to The press-formed component is formed by a vertical wall section with an arc that is convex inward. The base part where The vertical wall formations include: the upper brace on the perimeter of the base section with the deformed section and the external part of the deformed section separately, the making the part to be made into the vertical wall part of the The plate is deformed by shear, and causes the flow of material directed from the arc towards the distance from the arc to It is built on the outer edge of the section to be made into the vertical wall section. 2. The press forming method according to claim 1, where the vertical wall formations are made up of: when viewed Based on the plate thickness direction of the plate shape part, the second limit displacement was compared in the direction at the separation distance between the parts. The first limit and the second limit section become small, while the boundary is bent from the state at The second limit, restraining the external part of the deformed part, is separated relative to the first limit segment, which The upper brace on the boundary 3. The compression molding method according to claim 2, where the shear deformation is included: the extrinsic displacement of the restrained part. In such a way that the part to be made into the vertical wall part is rotated centered on the bend of the arc. On the boundary line between the base and the deformation. 4. The compression molding method according to claim 2, where the shear deformation is included: the extrinsic displacement is Straight line in such a way that the angle relative to the workpiece's plate plane becomes a minimum of 30 ํ and not more than 60 ํ 5. Press forming method according to one of the claims 1 to 4 by At the formation of the vertical wall part, it is included: Shear deformation has been performed. 6. Press forming method according to any of Clause 1 to 4, where the vertical wall part formation is composed of: shear deformation. after A pulling forming step was performed. 7. Press forming method according to one of Clause 1 to 4, where the press forming component has no wing on the outside of the wall section. Plummet, and vertical wall formations include: pattern forming after deformation process. Shear is performed 8. Press forming method according to one of Claims 1 through 7, which includes: After the shear deformation process, the crease is created on the part. Vertical wall Flat by clamping and fixing the vertical wall part by template 9. Press forming method according to claim 8, where the unevenness for the length of the vertical wall part is formed. On the pressing surface of the template, which will be aligned with each other on the surface of the vertical wall part 1 0. Press forming method according to one of the claims 1 to 9, where force deformation Shear will be performed on the bare pieces which have been heated. Up to at least 300 ํ C and not more than 1000 ํ C 1
1. วิธีการสำหรับการผลิตส่วนประกอบขึ้นรูปด้วยการกดสำหรับ, เมื่องอชิ้นงานรูปเพลท ซึ่งมีส่วนฐานและส่วนเสียรูปซึ่งรวมด้วยส่วนซึ่งจะติดกับส่วนฐานและจะต้องถูกทำไปเป็นส่วนผนัง แนวดิ่งอย่างน้อยที่สุดบนส่วนขอบเขตระหว่างส่วนฐานและส่วนผนังแนวดิ่ง, การขึ้นรูปด้วยการ กดชิ้นงานรูปเพลทไปเป็นส่วนประกอบขึ้นรูปด้วยการกดที่ถูกก่อรูปด้วยส่วนผนังแนวดิ่งซึ่ง มีส่วนโค้งซึ่งจะโค้งนูนออกเข้าหาด้านส่วนฐานโดยที่ การก่อรูปส่วนผนังแนวดิ่งจะประกอบรวมด้วย: การรั้งส่วนบนด้านขอบเขตของส่วนฐาน ที่มีส่วนเสียรูปและส่วนภายนอกของส่วนเสียรูปแยกกัน, การทำให้ส่วนที่จะถูกทำไปเป็นส่วนผนัง แนวดิ่งของส่วนเสียรูปในระนาบเพลทเสียรูปด้วยแรงเฉือน, และทำให้การไหลของวัสดุซึ่งหัน ทิศทางจากส่วนโค้งเข้าหาส่วนห่างจากส่วนโค้งเพื่อสร้างขึ้นบนส่วนขอบภายนอกของส่วนที่จะถูก ทำไปเป็นส่วนผนังแนวดิ่ง1. A method for manufacturing press-forming components, when bending a plate-shaped workpiece. It has a base and a deformed section, which includes the part that will be attached to the base and must be made into the wall. Verticals, at least on the boundary between the base and the vertical wall sections, forming with The plate-shaped workpiece is pressed into the forming component with a press that is formed with a vertical wall section. There is an arc that is convex to the base side where The vertical wall formations include: the upper brace on the perimeter of the base section. With the deformed part and the external deformed part separately, making the part to be made into the wall part The verticality of the deformed part in the plane plate is deformed by shear force, and thus the flow of the material facing The direction from the arc towards the distance from the arc to form on the outer edge of the section to be Made into the vertical wall part