TH73437B - ตัวเข้ารหัสและตัวถอดรหัสเสียงที่มีความดังของโปรแกรมและข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักตรงขอบเขต - Google Patents

Abstract

อุปกรณ์และวิธีการสำหรับสร้างกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ที่รวมถึงการมีส่วนที่เป็นข้อมูล เมตาของความดังของโปรแกรมและข้อมูลเสียงในกระแสบิต และยังอาจเลือกให้ใข้อมูลเมตาตรงขอบเขต ของโปรแกรมในเซกเมนต์อย่างน้อยหนึ่งเซกเมนต์ (เช่น กรอบ) ของกระแสบิตด้วย แง่มุมอื่นๆ จะเป็น อุปกรณ์และวิธีการสำหรับถอดรหัสกระแสบิตประเภทนี้ เช่น ที่รวมถึงการดำเนินการประมวลผลความดัง แบบปรับตัวของข้อมูลเสียงของโปรแกรมเสียงที่ถูกบ่งชี้โดยกระแสบิต หรือการพิสูจน์ตัวจริงและ/หรือ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเมตาและ/หรือข้อมูลเสียงของโปรแกรมเสียงดังกล่าว อีกแง่มุมหนึ่ง จะเป็นหน่วยประมวลเสียง (เช่น ตัวเข้ารหัส, ตัวถอดรหัส หรือตัวประมวลผลในภายหลัง) ที่ถูกจัดโครง แบบ (เช่น จัดโปรแกรมไว้) ให้ดำเนินการรูปลักษณะใดๆ ก็ตามของวิธีการหรือซึ่งมีส่วนที่เป็นหน่วย ความจำบัฟเฟอร์ที่จัดเก็บกรอบอย่างน้อยหนึ่งกรอบของกระแสบิตของเสียงที่ถูกสร้างตามรูปลักษณะใดๆ ของวิธีการนี้

Claims (7)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 05/09/2561 หน้า 1 ของจำนวน 3 หน้า ข้อถือสิทธิ 1. ชุดเครื่องสำหรับประมวลสัญญาณเสียง โดยที่ชุดเครื่องประกอบรวมด้วย: บัฟเฟอร์นำเข้าสำหรับจัดเก็บกรอบอย่างน้อยหนึ่งกรอบของกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ โดย ที่กระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้จะมีส่วนที่เป็นข้อมูลเสียงและเซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลัก (metadata) และเซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักจะมีส่วนที่เป็นส่วนหัว, ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูล หลักที่ถูกขนส่งหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น และการป้องกันข้อมูล; ตัวถอดรหัสเสียงที่ถูกต่อกับบัฟเฟอร์นำเข้าสำหรับถอดรหัสข้อมูลเสียงเพื่อสร้างข้อมูลเสียงที่ถูก ถอดรหัส; ตัวแยกวิเคราะห์ที่ถูกต่อหรือรวมเป็นหน่วยเดียวกับตัวถอดรหัสเสียง โดยที่ตัวแยกวิเคราะห์จะถูก จัดโครงแบบให้แยกวิเคราะห์กระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้; และ บัฟเฟอร์ส่งออกสำหรับจัดเก็บข้อมูลเสียงที่ถูกถอดรหัส โดยที่ส่วนหัวของเซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักจะมีซิงค์เวิร์ดที่ระบุจุดเริ่มต้นของ เซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลัก, ข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักที่ถูกขนส่งหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นจะ มีส่วนที่เป็นข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักที่บ่งชี้ถึงขอบเขตอย่างน้อยหนึ่งขอบเขตระหว่างโปรแกรมเสียง ที่เรียงลำดับกัน, การปัองกันข้อมูลจะอยู่หลังจากข้อมูลที่ใช้อธิบายข้อมูลหลักที่ถูกขนส่งหนึ่งตัวหรือ มากกว่านั้น และการป้องกันข้อมูลสามารถที่จะถูกใช้เพื่อตรวจสอบบูรณภาพของเซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้ อธิบายข้อมูลหลักและตัวข้อมูลที่ถูกขนส่งหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นภายในเซกเมนต์ข้อมูลที่ใช้ในการ อธิบายข้อมูลหลักได้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. หน่วยประมวลเสียงซึ่งประกอบรวมด้วย: หน่วยความจำบัฟเฟอร์สำหรับเก็บกรอบอย่างน้อยหนึ่งกรอบของกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัส ไว้ โดยที่กระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้จจะมีส่วนที่เป็นข้อมูลเสียงและตัวเก็บข้อมูลเมตา โดยที่ตัวเก็บ ข้อมูลเมตาจะมีส่วนที่เป็นส่วนหัว, ตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น และข้อมูลการปก ป้อง; ตัวถอดรหัสเสียงที่ถูกต่อกับหน่วยความจำบัฟเฟอร์สำหรับถอดรหัสข้อมูลเสียง; และ ตัวแยกวิเคราะห์ที่ถูกต่อหรือรวมเป็นหน่วยเดียวกับตัวถอดรหัสเสียงสำหรับแยกวิเคราะห์กระแส บิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้, โดยที่ส่วนหัวจะมีส่วนที่เป็นคำประสานเวลาที่ระบุจุดเริ่มต้นของตัวเก็บข้อมูลเมตา, ตัวข้อมูลจริง ในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นจะบรรยายโปรแกรมเสียงที่เชื่อมโยงกับข้อมูลเสียง, ข้อมูลการปก ป้องจะอยู่หลังจากตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น และข้อมูลการปกป้องสามารถที่จะ ถูกใช้เพื่อตรวจสอบบูรณภาพของตัวเก็บข้อมูลเมตาและตัวข้อมูลจริงหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นภายในตัว เก็บข้อมูลเมตาได้ 2. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1 โดยที่ตัวเก็บข้อมูลเมตาจะถูกจัดเก็บในพื้นที่ข้อมูล ที่สำรองไว้ AC-3 หรือ E-AC-3 ซึ่งถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเขตข้อมูลแบบกระโดดข้าม, เขตข้อมูล auxdata, เขตข้อมูล addbsi และการผสมผสานของมัน 3. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่ตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัว หรือมากกว่านั้นจะมีส่วนที่เป็นข้อมูลเมตาที่บ่งชี้ถึงขอบเขตอย่างน้อยหนึ่งขอบเขตระหว่างโปรแกรม เสียงที่เรียงลำดับกัน 4. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1 หรือ 2 โดยที่ตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัว หรือมากกว่านั้นจะมีส่วนที่เป็นตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมซึ่งจะมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความดังที่ ถูกวัดของโปรแกรมเสียง 5. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่าช่องเสียงมีบทพูดสนทนาหรือไม่ 6. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้วิธีการวัดความดังที่ได้ถูกใช้ในการสร้างข้อมูลความดังที่อยุ่ในตัวข้อมูลจริง ของความดังของโปรแกรม 7. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังของโปรแกรมเสียงได้ถูกแก้ไขโดยใช้ควบคุมทางผ่านบท สนทนาหรือไม่ 8. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังของโปรแกรมเสียงได้ถูกแก้ไขโดยใช้กระบวนการแก้ไขความดัง แบบมองไปข้างหน้าแบบไม่สิ้นสุดหรืออิงแฟ้มข้อมูลหรือไม่ 9. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังที่ถูกรวมเป็นหน่วยเดียวกันของโปรแกรมเสียงโดยไม่มีการปรับ อัตราขยายใดๆ โดยมีสาเหตุมาจากการบีบอัดช่วงพลวัต 1 0. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมี ส่วนที่เป็นเขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังที่ถูกรวมเป็นหน่วยเดียวกันของโปรแกรมเสียงโดยไม่มีการปรับ อัตราขยายใดๆ โดยมีสาเหตุมาจากการปรับค่าส่วนบทสนทนาให้เข้าช่วง 1 1. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4 โดยที่หน่วยประมวลเสียงจะถูกจัดโครงแบบให้ ดำเนินการประมวลผลความดังแบบปรับตัวโดยใช้ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรม 1 2. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1-11 ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่กระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ จะเป็นกระแสบิต AC-3 หรือกระแสบิต E-AC-3 1 3. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 4-11 ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่หน่วยประมวลผลเสียงจะถูกจัด โครงแบบให้ดึงดูดข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจากกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้และพิสูจน์ตัว จริงหรือตรวจสอบความถูกต้องของตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรม 1 4. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1-13 ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่ตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่ง ตัวหรือมากกว่านั้นแต่ละตัวจะมีส่วนที่เป็นตัวระบุตัวข้อมูลจริงที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ และตัวระบุตัว ข้อมูลจริงที่มีลักณะพิเศษเฉพาะจะอยุ่ที่จุดเริ่มต้นของตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตา 1 5. หน่วยประมวลเสียงดังระบุในข้อถือสิทธิ 1-13 ข้อใดข้อหนึ่ง โดยที่คำประสานเวลาจะเป็นคำ ประสานเวลาขนาด 16 บิตซึ่งมีค่าที่เท่ากับ 0x5838 1 6. วิธีการถอดรหัสกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ ซึ่งวิธีการประกอบรวมด้วย: การรับกระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ โดยที่กระแสบิตของเสียงที่เข้ารหัสไว้ถูกจัดเซกเมนต์ให้ เป็นกรอบหนึ่งกรอบหรือมากกว่านั้น; การดึงข้อมูลเสียงและตัวเก็บข้อมูลเมตาจากกระแสบิตของเสียงที่ข้ารหัสไว้ โดยที่ตัวเก็บข้อมูล เมตามีส่วนที่เป็นส่วนตัวซึ่งตามด้วยตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นที่ตามด้วยข้อมูล การปกป้อง; และ การตรวจสอบบูรณาภาพของตวเก็บและตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นโดย การใช้ข้อมูลการป้องกัน, โดยที่ตัวข้อมูลจริงในข้อมูลเมตาหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้นจะมีส่วนที่เป็นตัวข้อมูลจริงของความ ดังโปรแกรมซึ่งมีข้อมูลที่บ่งชี้ความดงที่ถูกวัดของโปรแกรมเสียงที่เชื่อมโยงกับข้อมูลเสียง 1 7. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่กระแสบิตที่เข้ารหัสไว้จะเป็นกระแสบิต AC-3 หรือ กระแสบิต E-AC-3 1 8. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 ซึ่งยังประกอบรวมด้วย: การดำเนินการประมวลผลความดังแบบปรับตัวกับข้อมูลเสียงที่ถูกดึงจากกระแสบิตของเสียงที่ เข้ารหัสไว้โดยใช้ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรม 1 9. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวเก็บจะอยู่ในและดึงจากพื้นที่ข้อมูลที่สำรองไว้ AC-3 หรือ E-AC-3 วึ่งถูกเลือกจากกลุ่มที่ประกอบด้วยเขตข้อมูลแบบกระโดดข้าม, เขตข้อมูล auxdata, เขต ข้อมูล addbsi และการผสมผสานของมัน 2 0. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่าช่องเสียงมีบทสนทนาหรือไม่ 2

1. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้วิธีการวัดความดังที่ได้ถูกใช้ในการสร้างข้อมูลความดังที่อยู่ในตัวข้อมูลจริงของความดัง ของโปรแกรม 2

2. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตวข้อมุลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่าความดังของโปรแกรมเสียงได้ถูกแก้ไขโดยใช้โดยใช้การควบคุมทางผ่านบทสนทนาหรือไม่ 2

3. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตวข้อมุลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ว่าความดังของโปรแกรมเสียงได้ถูกแก้ไขโดยใช้กระบวนการแก้ไขความดังแบบมองไป ข้างหน้าแบบไม่สิ้นสุดหรืออิงแฟ้มข้อมูลหรือไม่ 2

4. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตวข้อมุลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังที่ถูกรวมเป็นหน่วยเดียวกันของโปรแกรมเสียงโดยไม่มีการปรับอัตราขยายใดๆ เนื่องจากการบีบอัดช่วงพลวัต 2

5. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวข้อมูลจริงของความดังของโปรแกรมจะมีส่วนที่เป็น เขตข้อมูลซึ่งบ่งชี้ความดังที่ถูกรวมเป็นหน่วยเดียวกันของโปรแกรมเสียงโดยไม่มีการปรับอัตราขยายใดๆ โดยมีสาเหตุมาจากการปรับค่าส่วนบทสนทนาให้เข้าช่วง 2

6. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวเก็บข้อมูลเมตาจะมีส่วนที่เป้นข้อมูลเมตาที่บ่งชี้ถึง ขอบเขตอย่างน้อยหนึ่งขอบเขตระหว่างโปรแกรมเสียงที่เรียงลำดับกัน 2

7. วิธีการดังระบุในข้อถือสิทธิ 16 โดยที่ตัวเก็บข้อมูลเมตาจะถูกจัดเก็บในเขตข้อมูลแบบ กระโดดข้ามหรือเซกเมนต์ของบิตเสียของกรอบหนึ่งส่วนหรือมากกว่านั้น