TH7304A - สายสร้อยเครื่องเพชรพลอยแบบเส้นเชือก - Google Patents

Abstract

การประดิษฐ์สายสร้อยเพชรพลอยแบบเส้นเชือกในลักษณะที่แปลกใหม่นี้ ทำให้มีรูปร่างของสายสร้อยหลายๆ แบบโดยใช้วงแหวน ที่มีช่องเปิดแบบมาตรฐานในการประดิษฐ์ ทั้งยังสามารถประ หยัดเวลาการประดิษฐ์ด้วยมืออีกด้วย การจัดทิศทางและการพับ ของวงแหวนในแบบที่แปลกใหม่และสามารถเปลี่ยนแปลงได้นี้ ยัง ผลให้สามารถประดิษฐ์สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่มีชุดประกอบของ วงแหวนเป็นได้ทั้งจำนวนคู่และจำนวนคี่ สัดส่วนของเส้นผ่า ศูนย์กลางภายในของวงแหวนต่อภาคตัดของตัวมันเอง X, อาจเป็น จำนวนคู่หรือคี่ก็ได้ แต่ต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 3 การประดิษฐ์สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับการประดิษฐ์ นี้ โดยใช้ชุดประกอบวง แหวนอย่างน้อยที่สุดหนึ่งกลุ่มของวงแหวน 2 วงหรือมากกว่า ที่พันอยู่เคียงกันและหันช่องว่างทั้งหมดไปในทางเดียวกัน สามารถกระทำได้โดยเชื่อมวงแหวนเหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่ง กลุ่มของวงแหวนเหล่านี้จึงอาจได้รับการพิจารณานำไปใช้คล้าย กับว่าเป็นวงแหวนวงเดียวที่มีช่องทางหนึ่งช่อง

Claims (1)

1. สายสร้อยแบบเส้นเชือกทำจากโลหะราคาแพง มีวงแหวนที่พันกันอย่างแน่นหนาโดยวงแหวนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภาคตัดตาม กำหนดวงแหวนแต่ละวงมีช่องว่างเล็กๆ ที่ใหญ่กว่าเส้นผ่า ศูนย์กลางภาคตัดเล็กน้อยทั้งนี้ เพื่อให้สอดวงแหวนผ่านทาง ช่องว่างนี้เข้าไปในวงที่สองได้ วงแหวนแต่ละวงที่ได้กล่าว ถึงมีเส้นผ่าศูนย์กลางภายในที่ยาวก่า X เท่าของเส้นผ่า ศูนย์กลางภาคตัดวงแหวนเพียงเล็กน้อย ซึ่ง X เป็นจำนวนเต็ม มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 3 สายสร้อยแบบเส้นเชือกตามที่ได้ กล่าวถึงนี้สามารถประดิษฐ์ได้จากการใช้ชุดประกอบของวงแหวน ที่กล่าวถึงหลายๆ ชุด ชุดประกอบวงแหวนแต่ละชุดมีวงแหวน จำนวน X+1 วง วงแหวนแต่ละวงของชุดประกอบนี้ได้รับการพัน โดยจัดมุมให้เข้ากับวงแหวนข้างเคียง ชุดประกอบของวงแหวนแต่ ละชุดที่กล่าวถึงนี้ประกอบด้วยวงแหวนหนึ่งวงเป็นอย่างน้อย ที่สุดที่หันช่องว่างในทิศทาง 180 ซ. ต่างไปจากช่องว่างของ วงแหวนอีกวงหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่สุดภายในชุดประกอบเดียว กัน คุณลักษณะของชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดก็คืออย่างน้อย ที่สุดประกอบด้วยกลุ่มของวงแหวนสองวงหรือมากกว่าซึ่งวาง เคียงกันในลักษณะที่หันช่องว่างในทิศทางเดียวกัน วงแหวน อย่างน้อยที่สุดสองวงหรือมากกว่าที่วางอยู่เคียงกันนั้น ต้องได้รับการเชื่อมติดกัน และกลุ่มของวงแหวนสองวงหรือมาก กว่าที่วางเคียงกันอย่างน้อยที่สุดหนึ่งกลุ่มจะต้องได้รับ การเชื่อมเข้ากับวงแหวนอีกวงหนึ่งซึ่งหันช่องว่างไป 180 ซ. แตกต่างจากช่องว่างของวงแหวนในกลุ่มวงแหวนสองวงหรือมาก กว่าที่ได้กล่าวถึง และวงแหวนทางปลายสุดของแต่ละชุดประกอบ ในอนุกรมนั้นให้การหุ้มล้อมวงแหวนอื่นๆ ของชุดประกอบดัง กล่าว 2. สายสร้อยแบบเส้นเชือกตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งภายในนั้น มีกลุ่มของวงแหวนสองวงวางเคียงกันเป็นอย่างน้อยที่สุดโดย หันช่องว่างไปในทิศทางเดียวกัน ได้รับการเชื่อมติดโดยการ บัดกรี 3. สายสร้อยแบบเส้นเชือกตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง X=3 และ ชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดจะมีวงแหวนสองถึงสามวงวางเคียง กันโดยหันช่องว่างในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น 4. สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งใช้ X=4 และชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดจะมีวงแหวนสอง ถึงสี่วงวางเคียงกันโดยหันช่องว่างในทิศทางเดียวกันทั้ง สิ้น 5. สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งใช้ X=5และชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดจะมีวงแหวนสองถึง หกวงวางเคียงกันโดยหันช่องว่างในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น 6. สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งใช้ X=5 และชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดประกอบด้วยกลุ่ม ของวงแหวนสองวงวางเคียงกันเป็นจำนวนสองกลุ่มโดยหันช่องว่าง ไปในทิศทางเดียวกัน 7. สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งใช้ X=6 และชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดประกอบด้วยกลุ่ม ของวงแหวนแต่ละชุดประกอบด้วยกลุ่มของวงแหวนตั้งแต่สองถึงหก วงวางเคียงกันเป็นจำนวนหนึ่งกลุ่มโดยหันช่องว่างไปในทิศทาง เดียวกัน 8. สายสร้อยแบบเส้นเชือกที่สอดคล้องกับข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งใช้ X=7 และชุดประกอบของวงแหวนแต่ละชุดประกอบด้วยกลุ่ม ของวงแหวนแต่ละชุดประกอบด้วยกลุ่มของวงแหวนตั้งแต่สองถึง เจ็ดวงวางเคียงกันเป็นจำนวนหนึ่งกลุ่มโดยหันช่องว่างไปใน ทิศทางเดียวกัน 9. สายสร้อยแบบเส้นเชือกตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีวงแหวน ต่างๆ ที่ทำด้วยโลหะราคาแพง ที่เลือกจากทองคำ, แพลทินัม และเงินหรือโลหะเจือของโลหะเหล่านี้ 1 0. สายสร้อยตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีวงแหวนต่างๆ มีแกน กลวง 1

1. สายสร้อยตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่มีอัตราส่วนของเส้นผ่า ศูนย์กลางภายในของวงแหวนต่อเส้นผ่าศูนย์กลางภาคตัดขวางของ วงแหวนมีพิสัยจาก X.1 ถึง X.7 โดยที่ X เท่ากับตัวเลขใดๆ ตั้งแต่ 3 ขึ้นไป