TH69581B - ตัวลงรหัสที่ใช้การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า - Google Patents

ตัวลงรหัสที่ใช้การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า

Info

Publication number
TH69581B
TH69581B TH1301000098A TH1301000098A TH69581B TH 69581 B TH69581 B TH 69581B TH 1301000098 A TH1301000098 A TH 1301000098A TH 1301000098 A TH1301000098 A TH 1301000098A TH 69581 B TH69581 B TH 69581B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
frame
type
aliasing
current
current frame
Prior art date
Application number
TH1301000098A
Other languages
English (en)
Other versions
TH127596A (th
TH127596B (th
Inventor
เจเรมี่
เลอกองต์
แพทริค
ไบเออร์
วาร์มบอลด์
สเตฟาน
Original Assignee
นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์ นายบุญมา เตชะวณิช
นายบุญมา เตชะวณิช
Filing date
Publication date
Application filed by นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์ นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์ นายบุญมา เตชะวณิช, นายบุญมา เตชะวณิช filed Critical นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์
Publication of TH127596A publication Critical patent/TH127596A/th
Publication of TH127596B publication Critical patent/TH127596B/th
Publication of TH69581B publication Critical patent/TH69581B/th

Links

Abstract

DC60 (20/04/59) โคเดกที่รองรับการสวิตช์ระหว่างโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมน เวลาและโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลาได้รับการทำให้มีแนวโน้มที่น้อยลงที่จะสูญหายของเฟรม โดยการเพิ่มส่วนวากยสัมพันธ์ต่อไปอีกให้กับเฟรม โดยขึ้นอยู่กับว่า ตัวแจงส่วนตัวไหนของตัว ถอดรหัสอาจเลือกระหว่างการกระทำที่หนึ่งของการคาดหวังเฟรมปัจจุบันเพื่อประกอบรวมด้วย และ ดังนั้นจะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน และการกระทำที่สอง ของการไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน เพื่อให้ประกอบรวมด้วย และดังนั้นจะไม่ได้เป็นการอ่านข้อมูลการ ยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน ในอีกนัยหนึ่ง ในขณะที่บิตหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ การลงรหัสจะสูญหายไป เนื่องจากการจัดให้ได้มาซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ โดยเพียงแค่ส่วน วากยสัมพันธ์ใหม่เท่านั้น ที่จัดให้มีไว้สำหรับสามารถใช้โคเดก ในกรณีที่ช่องสัญญาณการสื่อสารด้วย เฟรมสูญหายไป โดยปราศจากส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ ตัวถอดรหัสจะไม่สามารถถอดรหัสส่วน กระแสข้อมูลใดๆได้ หลังการสูญหายไป และจะล้มเหลวในการพยายามคืนสภาพเดิมการแจงส่วน ดังนั้น ในสภาพแวดล้อมที่มีแนวโน้มที่จะผิดพลาด ประสิทธิภาพการลงรหัสจะได้รับการป้องกัน ไม่ให้สูญสิ้นไปโดยการนำเสนอส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ แก้ไขบทสรุปการประดิษฐ์ 20/04/2559 โคเดกที่รองรับการสวิตช์ระหว่างโหมดการลงรหัสของการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดโมน เวลาและโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลาได้รับการทำให้มีแนวโน้มที่น้อยลงที่จะสูญหายของเฟรม โดยการเพิ่มส่วนวากยสัมพันธ์ต่อไปอีกให้กับเฟรม โดยขึ้นอยู่กับว่า ตัวแจงส่วนตัวไหนของตัว ถอดรหัสอาจเลือกระหว่างการกระทำที่หนึ่งของการคาดหวังเฟรมปัจจุบันเพื่อประกอบรวมด้วย และ ดังนั้น จะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน และการกระทำที่สอง ของการไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน เพื่อให้ประกอบรวมด้วย และดังนั้งจะไม่ได้เป็นการอ่านข้อมูลการ ยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน ในอีกนัยหนึ่ง ในขณะที่บิตหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ การลงรหัสจะสูญหายไป เนื่องจากการจัดให้ได้มาซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ โดยเพียงแค่ส่วน วากยสัมพันธ์ใหม่เท่านั้น ที่จัดให้มีไว้สำหรับสมารถใช้โคเดก ในกรณีที่ช่องสัญญาณการสื่อสารด้วย เฟรมสูญหายไป โดยปราศจากส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ ตัวถอดรหัสจะไม่สามารถถอดรหัสส่วน กระแสข้อมูลใด ๆ หลังการสูญหายไป และจะล้มเหลวในการพยายามคืนสภาพเดิมการแจงส่วน ดังนั้น ในสภาวพแวดล้อมที่มีแนวโน้มที่จะผิดพลาด ประสิทธิภาพการลงรหัสจะได้รับการป้องกัน ไม่ให้สูญสิ้นไปโดยการนำเสนอส่วยวากกสัมพันธ์ใหม่ -------------------------------------------------------- โคเดกที่รองรับการสวิตช์ระหว่างโหมดการลงรหัสของการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดโมน เวลาและโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลาได้รับการทำให้มีแนวโน้มที่น้อยลงที่จะสูญหายของเฟรม โดยการเพิ่มส่วนวากยสัมพันธ์ต่อไปอีกให้กับเฟรม โดยขึ้นอยู่กับว่า ตัวแจงส่วนตัวไหนของตัว ถอดรหัสอาจเลือกระหว่างการกระทำที่หนึ่งของการคาดหวังเฟรมปัจจุบันเพื่อประกอบรวมด้วย และ ดังนั้น จะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน และการกระทำที่สอง ของการไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน เพื่อให้ประกอบรวมด้วย และดังนั้งจะไม่ได้เป็นการอ่านข้อมูลการ ยกเลือกการสมนามไปด้านหน้าจากเฟรมปัจจุบัน ในอีกนัยหนึ่ง ในขณะที่บิตหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ การลงรหัสจะสูญหายไป เนื่องจากการจัดให้ได้มาซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ โดยเพียงแค่ส่วน วากยสัมพันธ์ใหม่เท่านั้น ที่จัดให้มีไว้สำหรับสมารถใช้โคเดก ในกรณีที่ช่องสัญญาณการสื่อสารด้วย เฟรมสูญหายไป โดยปราศจากส่วนวากยสัมพันธ์ใหม่ ตัวถอดรหัสจะไม่สามารถถอดรหัสส่วน กระแสข้อมูลใด ๆ หลังการสูญหายไป และจะล้มเหลวในการพยายามคืนสภาพเดิมการแจงส่วน ดังนั้น ในสภาวพแวดล้อมที่มีแนวโน้มที่จะผิดพลาด ประสิทธิภาพการลงรหัสจะได้รับการป้องกัน ไม่ให้สูญสิ้นไปโดยการนำเสนอส่วยวากกสัมพันธ์ใหม่ การสวิตซ์ส่วนรองรับตัวเข้ารหัส(Codec)ระหว่างโหมดการเข้ารหัสการเเปลงยกเลิกการกำจัดรอย ขยักสัญญาณในโดเมนเวลา(time domain aliasing canellation trnsform mode)เเละโหมด การเข้ารหัสในโดเมนเวลา(time domain coding mode)ได้รับการทำให้เเนวโน้มที่น้อยลงที่จะ สูญเสียเฟรม(frame loss)โดยการเพิ่มส่วนไวยากรณ์ต่อไปอีก(further syntax portion)ให้กับเฟรม โดยขึ้นอยู่กับว่า ตัวเเจงส่วนตัวไหนของตัวถอดรหัสอาจเลือกระหว่างการกระทำที่หนึ่งของการ คาดหวังเฟรมปัจจุบันเพื่อประกอบรวมด้วย เเละตั้งนั้จะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการกำจัดรอย ขยักสัญญาณคืบหน้า(foward alliasing cancellation data)จากเฟรมปัจจุบัน เเละการกระทำที่สองของ การไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน เพื่อให้ประกอบรวมด้วย เเละดังนั้นจะไม่ได้เป็นการอ่านข้อมูลการ ยกเลิกรอยขยักสัญญาณคืบหน้าจากเฟรมปัจจุบัน ในอีกนัยหนึ่ง ในขระที่ส่วนเล็กน้อยของ ประสิทธิภาพการเข้ารหัสจะสูญเสียไป เนื่องจากการจัดให้ได้มาซึ่งส่วนไวยากรณ์ใหม่ โดยเพียงเเค่ ส่วนไวยากรณ์ใหม่เท่านั้น ที่จัดให้มีไว้สำหรับสามารถใช้ตัวเข้ารหัส ในกรณ์ที่ช่องสัญญาณการ สื่อสารด้วยเฟรมสูญหายไป โดยปราศจากส่วนไวยากรณ์ใหม่ ตัวถอดรหัสจะไม่สามารถถอดรหัส ส่วนกระเเสข้อมูลใดๆ ได้ หลังการสูญหายไป เเละจะล้มเหลวในการพยายามคืนสภาพเดิมการเเจง ส่วน ดังนั้น ในสภาพเเวดล้อมที่มีเเนวโน้มที่ผิดพลาด ประสิทธิภาพการเข้ารหัสจะได้รับการ ป้องกันไม่ให้สูญเสียไปโดยการนำเสนอส่วนไวยากรณ์ใหม่ รูปที่ 1

Claims (9)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------17/07/2561------(OCR) หน้า 10 ของจำนวน 10 หน้า การลงรหัสเซณมนต์เวลาปิจจุบันของสัญญาณสารสนเทศ(18)ให้เป็นสารสนเทศของเฟรมปิจจุบัน (14b) โดยการใช้โหมดที่ได้รับการเลือกครั้งที่หนึ่งของโหมดการเข้ารหัสรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา และ การสอดเข้าสารสนเทศเข้าไปในเฟรมปิจจุบัน(14๖)พร้อมไปกับส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง(24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ชึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) จะส่งสัญญาณการเลือกของสิ่งที่ถูกเลือกครั้งที่หนึ่ง การกำหนดหาข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) สำหรับการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปิจจุบันและเซกเมนต์เวลาก่อนหน้าของเฟรมก่อนหน้า และการสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) เข้าไปในเฟรมปิจจุบัน (14b) ในกรณีที่เฟรมปิจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่ต่างกันของโหมดการเข้ารหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา และการระงับการสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ใดๆ เข้าไปในเฟรมปีจจุบัน (14b) ในกรณีที่เฟรมปิจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากันของโหมดการเข้ารหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา ที่ชึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองได้รับการกำหนดขึนโดยขึนอยู่ที่เกี่ยวกับว่าเฟรมปิจจุบัน (14b)และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากัน หรือที่ต่างกันของโหมดการเข้ารหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา ------------ แก้ไข 20/04/25559 1.ตัวถอดรหัส (10) สำหรับถอดรหัสกระเเสข้อมูล (12) ที่ประกอบรวมด้วยลำดับของ เฟรม ที่ซึ่งเซกเมนต์เวลาของสัญญาณสารสนเทศ (18) ได้รับการเข้ารหัสเข้าไปนั้น อย่างตามลำดับ, ซึ่งประกอบรวมด้วย ตัวเเจงส่วน(20)ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบเพื่อเเจงส่วนกระเเสดข้อมูล(12)ที่ซึ่งใน การแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) ตัวแจงส่วนได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงสร้างแบบเพื่ออ่านส่วน วากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจากเฟรมปัจจุบัน (14b) และ ตัวประกอบคืนสภาพ(22)ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาโครงเเบบเพื่อประกอบคืนสภาพ เซกเมนต์เวลาปัจจุบัน(16b)ของสัญญาณสารสนเทศ(18)ที่ได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรมปัจจุบัน (14b)ที่มีพื้นฐานอยู่บนสารสนเทศ(28)ที่ได้รับการจัดให้ได้มาจากเฟรมปัจจุบันโดยการเเจงส่วน โดยการใช้โหมดหนึ่งที่ได้รับการเลือกครั้งที่หนึ่งของโหมดการถอดรหัสการเเปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมน เวลา และโหมดการถอดรหัสในโดเมนเวลา โดยการเลือกของโหมดที่เลือกครั้งที่หนึ่งจะขึ้นอยู่ กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ที่ซึ่ง, ในการแจงส่วนกระแสข้อมูล (12), ตัวเเจงส่วน(20)ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบ เพื่อดำเนินการการกระทำหนึ่งที่ได้รับการเลือกครั้งที่สองของบรรดาการกระทำที่หนึ่งของการคาดหวัง เฟรมปัจจุบัน(14b)เพื่อให้ประกอบรวมด้วย เเละดังนั้นจะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนาม ไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน(14b)เเละการกระทำที่สองของการไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน (14b) เพื่อให้ประกอบรวมด้วย เเละดังนั้นจะไม่ได้เป็นอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไป ด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b,โดยการเลือกครั้งที่สองจะขึ้นอยู่กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจะ ขึ้นอยู่กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพ(22)ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบเพื่อดำเนินการยกเลิกการ สมนามไปด้านหน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปัจจุบัน(16b)เเละเซกเมนต์เวลาก่อนหน้า (16a) ของเฟรมก่อนหน้า(14b)โดยการใช้ข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) 2. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่งและที่สองได้รับ การประกอบรวมไว้โดยแต่ละเฟรม ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) จะทำให้เฟรมแต่ละเฟรม ที่ซึ่ง จากเฟรมนั้น ส่วนวากยสัมพันธ์นั้นได้รับการอ่าน มีความสัมพันธ์กับเฟรมประเภทที่หนึ่ง หรือเฟรม ประเภทที่สอง และถ้าหากว่าเฟรมแต่ละเฟรมเป็นเฟรมประเภทที่สอง จะทำให้เฟรมย่อยของส่วน แบ่งย่อยของเฟรมแต่ละเฟรม ที่ประกอบขึ้นจากเฟรมย่อยจำนวนหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับแต่ละหนึ่ง เฟรมในเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่งและเฟรมย่อยประเภทที่สอง ที่ซึ่ง, ถ้าหากว่าส่วนวากยสัมพันธ์ที่ หนึ่ง (24) ทำให้เฟรมแต่ละเฟรมสัมพันธ์กับเฟรมประเภทที่หนึ่ง, ตัวประกอบคืนสภาพ (22) ได้รับ การสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อใช้การถอดรหัสในโดเมนความถี่ให้เป็นรุ่นที่หนึ่งของโหมดการ ถอดรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา เพื่อประกอบคืนสภาพเซกเมนต์เวลาที่ได้รับ การทำให้สัมพันธ์กับเฟรมแต่ละเฟรม และ ถ้าหากว่าส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ทำให้เฟรมแต่ละ เฟรมสัมพันธ์กับเฟรมประเภทที่สอง สำหรับแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมแต่ละเฟรม, จะแปลงการ ถอดรหัสการทำนายเชิงเส้นของการกระตุ้นที่ได้รับการลงรหัสให้เป็นรุ่นที่สองของโหมดการ ถอดรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลาเพื่อประกอบคืนสภาพส่วนย่อยของเซกเมนต์ เวลาของเฟรมแต่ละเฟรม ซึ่งได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรมย่อยที่ได้รับการทำให้เกี่ยวข้อง ถ้าหาก ว่าส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ทำให้เฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมแต่ละเฟรมสัมพันธ์กับเฟรม ย่อยประเภทที่หนึ่งและการถอดรหัสการทำนายเชิงเส้นของการกระตุ้นสมุดรหัสให้เป็นโหมดการ ถอดรหัสในโดเมนเวลาเพื่อประกอบคืนสภาพส่วนย่อยของเซกเมนต์เวลาของเฟรมแต่ละเฟรม ซึ่ง ได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อย ถ้าหากว่าส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ทำให้ เฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยสัมพันธ์กับเฟรมย่อยประเภทที่สอง 3. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจะมีเซตหนึ่งของ ค่าที่เป็นไปได้ โดยแต่ละค่าจะได้รับการทำให้สัมพันธ์อย่างเป็นหนึ่งเดียวกับความเป็นไปได้แบบหนึ่ง ของเซตหนึ่งของความน่าจะเป็นที่ประกอบรวมด้วย เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่สอง ที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็น เฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง และ เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่สอง ที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็น เฟรมย่อยประเภทที่สอง และ ตัวแจงส่วน (20) ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อการดำเนินการเลือกของสิ่งที่ถูกเลือกครั้ง ที่สองที่มีพื้นฐานอยู่บนการเปรียบเทียบระหว่างส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองของเฟรมปัจจุบัน (14b) และ ส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ของเฟรมก่อนหน้า (14a) 4. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 3 ที่ซึ่งตัวแจงส่วน (20) ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครง แบบเพื่อดำเนินการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b) ถ้าหาก ว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภทที่สอง ที่ขึ้นอยู่กับเฟรมก่อนหน้า (14a) ที่เป็นเฟรมประเภทที่ สองที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง หรือเฟรมก่อนหน้า (14a) ที่เป็น เฟรมประเภทที่หนึ่ง ในลักษณะที่ว่าส่วนขยายการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าได้รับการแจงส่วน จากข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ในกรณีของเฟรมก่อนหน้า (14a) ที่เป็นเฟรม ประเภทที่หนึ่ง และไม่ ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าที่เป็นเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรม นั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพ (22) ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบ เพื่อดำเนินการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าด้วยความเข้มค่าหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนขยายการยกเลิก การสมนามไปด้านหน้าในกรณีที่เฟรมก่อนหน้า (14a) เป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง 5. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ที่ซึ่ง, ถ้าหากว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรม ประเภทที่หนึ่ง, ตัวแจงส่วน (20) ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อ่านส่วนขยายการยกเลิกการ สมนามไปด้านหน้าจากข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพ ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าโดยความเข้มค่าหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนขยายการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า 6. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจะมีเซตหนึ่งของ ค่าที่เป็นไปได้ โดยแต่ละค่านั้นจะได้รับการทำให้สัมพันธ์อย่างเป็นหนึ่งเดียวกันกับเซตหนึ่งในเซตของ ความน่าจะเป็นที่ประกอบรวมด้วย เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง ที่มีการเกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณ การแปลงที่นาน เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง ที่มีการเกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณ การแปลงที่สั้น เฟรมก่อนหน้า (14a) จะเป็นเฟรมประเภทที่สอง ที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็น เฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง และ ตัวแจงส่วนได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการเลือกของสิ่งที่ถูกเลือกครั้งที่สอง ที่มีพื้นฐานอยู่บนการเปรียบเทียบระหว่างส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองของเฟรมปัจจุบัน (14b) และส่วน วากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ของเฟรมก่อนหน้า (14a) และดำเนินการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนาม ไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14a) ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้า (14a) เป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง ที่ ขึ้นอยู่กับเฟรมก่อนหน้า (14a) ที่เกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่ยาว หรือกรอบสัญญาณการ แปลงที่สั้น ในลักษณะที่ว่าปริมาณของข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) มีมากกว่า ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้า (14a) เกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่ยาว และจะมีค่าน้อยกว่า ถ้าหาก ว่าเฟรมก่อนหน้า (14a) เกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่สั้น 7. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 2 ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพได้รับการสร้างขึ้นมา ในโครงแบบเพื่อ สำหรับแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่หนึ่ง จะดำเนินการดีควอนไทเซชันการแปรผันเชิง สเปกตรัม (70) ของสารสนเทศค่าสัมประสิทธิ์การแปลงภายในเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่ หนึ่งที่มีพื้นฐานอยู่บนสารสนเทศแฟคเตอร์มาตราส่วนภายในเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่ หนึ่ง และการแปลงอีกครั้งบนสารสนเทศค่าสัมประสิทธิ์การแปลงที่ได้รับการดีควอนไทซ์เพื่อจัดให้ ได้มาซึ่งเซกเมนต์สัญญาณที่ได้รับการแปลงอีกครั้ง (78) ที่ยื่นออก, ในช่วงเวลา, เหนือและเกิน เซกเมนต์เวลาหนึ่งที่ได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่หนึ่ง และ สำหรับแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่สอง สำหรับแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่งของเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรม ประเภทที่สอง จะทำให้เกิด (94) ตัวกรองการถ่วงน้ำหนักเชิงสเปกตรัมจากสารสนเทศ LPC ภายในเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่สอง การถ่วงน้ำหนักอย่างเชิงสเปกตรัม (96) ของสารสนเทศค่าประสิทธิ์การ แปลงภายในเฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่งโดยการใช้ตัวกรองการถ่วงน้ำหนัก เชิงสเปกตรัม และ การแปลงอีกครั้ง (98) ของสารสนเทศค่าสัมประสิทธิ์การแปลงที่ได้รับการ ถ่วงน้ำหนักอย่างเชิงสเปกตรัม เพื่อจัดให้ได้มาซึ่งเซกเมนต์สัญญาณที่ได้รับการแปลงอีกครั้ง ที่ยื่น ออก, ในช่วงเวลา, เหนือและเกินกว่าส่วนย่อยของเซกเมนต์เวลาหนึ่งที่ได้รับการทำให้สัมพันธ์กับ เฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง และ สำหรับแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่สองของเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมที่ สอง ทำให้เกิด (100) สัญญาณการกระตุ้นจากสารสนเทศการปรับการกระตุ้นให้ เป็นปัจจุบันภายในเฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่สอง และ ดำเนินการกรองสังเคราะห์ LPC (102) บนสัญญาณการกระตุ้นโดยการใช้ สารสนเทศ LPC ภายในเฟรมแต่ละเฟรมของเฟรมประเภทที่สอง เพื่อจัดให้ได้มาซึ่งเซกเมนต์ สัญญาณที่ได้รับการสังเคราะห์ LP (110) สำหรับส่วนย่อยของเซกเมนต์เวาลาที่ได้รับการทำให้สัมพันธ์ กับเฟรมย่อยแต่ละเฟรมย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่สอง และ ดำเนินการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลาภายในส่วนกรอบสัญญาณที่ซ้อนทับอย่าง ชั่วคราวที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาของเฟรมที่ต่อเนื่องตามลำดับอย่างทันทีของบรรดาเฟรม ต่างๆของเฟรมประเภทที่หนึ่ง และส่วนย่อยของเซกเมนต์เวลา ซึ่งได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรม ย่อยของเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง เพื่อประกอบคืนสภาพสัญญาณสารสนเทศ (18) ตลอดทั่วสิ่ง เหล่านั้น และ ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง หรือเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรมย่อยล่าสุด ของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง และเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรม ย่อยที่หนึ่งของเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง และเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรม ย่อยที่หนึ่งของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่สอง จะทำให้เกิดสัญญาณสังเคราะห์การยกเลิกการ สมนามไปด้านหน้าที่หนึ่งจากข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) และเพิ่มสัญญาณ สังเคราะห์การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่หนึ่งให้กับเซกเมนต์สัญญาณที่ได้รับการแปลงอีกครั้ง (78) ภายในเซกเมนต์เวลาก่อนหน้า เพื่อประกอบคืนสภาพสัญญาณสารสนเทศ (18) ตลอดทั่วขอบเขต ระหว่างเฟรมก่อนหน้าและปัจจุบัน (14a, 14b) และ ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้า (14a) เป็นเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรมย่อยที่หนึ่งของเฟรมนั้นเป็น เฟรมย่อยประเภทที่สอง และเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง หรือเป็นเฟรมประเภทที่ สองที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง จะทำให้เกิดสัญญาณสังเคราะห์การ ยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่สองจากข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) และเพิ่ม สัญญาณสังเคราะห์การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่สองให้กับเซกเมนต์สัญญาณที่ได้รับการแปลง อีกครั้งภายในเซกเมนต์เวลาปัจจุบัน (16b) เพื่อประกอบคืนสภาพสัญญาณสารสนเทศ (18) ตลอดทั่ว ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาก่อนหน้าและปัจจุบัน (16a, 16b) 8. ตัวถอดรหัส (10) ตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพได้รับการสร้างขึ้นมา ในโครงแบบเพื่อ ทำให้เกิดสัญญาณสังเคราะห์การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่หนึ่งจากข้อมูลการยกเลิก การสมนามไปด้านหน้า (34) โดยการดำเนินการแปลงอีกครั้งบนสารสนเทศค่าสัมประสิทธิ์การแปลง แปลงที่ได้รับการประกอบรวมไว้โดยข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) หรือ ทำให้เกิดสัญญาณสังเคราะห์การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าที่หนึ่งจากข้อมูลการยกเลิก การสมนามไปด้านหน้า (34) โดยการดำเนินการแปลงอีกครั้งบนสารสนเทศค่าสัมประสิทธิ์การแปลง ที่ได้รับการประกอบรวมไว้โดยข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) 9. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองประกอบรวมด้วยตัวบ่งชี้ ที่หนึ่ง ที่ส่งสัญญาณที่เกี่ยวกับว่าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ปรากฎขึ้นหรือไม่ใน เฟรมแต่ละเฟรม และตัวแจงส่วนได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการเลือกของสิ่งที่ถูก เลือกครั้งที่สองโดยขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้ที่หนึ่ง และที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจะประกอบรวมต่อไป อีกด้วยตัวบ่งชี้ที่สอง อยู่ภายในเฟรมต่างๆของเฟรมประเภทที่สองเท่านั้น, โดยตัวบ่งชี้ที่สองส่ง สัญญาณที่เกี่ยวกับว่าเฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง หรือเป็นเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรม ย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่งหรือไม่ 1 0. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ที่ซึ่งตัวแจงส่วนได้รับการสร้าขึ้นมาในโครงแบบเพื่อ ดำเนินการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b) หากว่าเฟรม ปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภทที่สอง, ที่ขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้ที่สอง ที่ซึ่งในนั้น ส่วนขยายการยกเลิกการ สมนามไปด้านหน้าได้รับการแจงส่วนจากข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ในกรณีที่ เฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง และไม่ ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่สองที่มี เฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง, ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพได้รับการสร้าง ขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้าด้วยความเข้มค่าหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับ ส่วนขยายการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า ในกรณีที่เฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง 1
1. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 10 ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองประเภทรวมต่อไปอีก ด้วยตัวบ่งชี้ที่สาม ที่ส่งสัญญาณที่เกี่ยวกับว่าเฟรมก่อนหน้าเกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่ยาว หรือกรอบสัญญาณการแปลงที่สั้น, เพียงแค่ภายในเฟรมของเฟรมประเภทที่สองเท่านั้น ถ้าหากว่าตัว บ่งชี้ที่สองส่งสัญญาณว่า เฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่หนึ่ง ที่ซึ่งตัวแจงส่วนได้รับการสร้าง ขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b) ที่ขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้ที่สาม ในลักษณะที่ว่าปริมาณของข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) มีมากกว่า ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าเกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่ยาว และจะมีค่าน้อย กว่า หากว่าเฟรมก่อนหน้าเกี่ยวข้องกับกรอบสัญญาณการแปลงที่สั้น 1
2. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่ง ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่สองที่ มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่สอง และเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภท ที่หนึ่งหรือเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง ตัว ประกอบคืนสภาพได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการวางกรอบสัญญาณบนเซกเมนต์ สัญญาณสังเคราะห์ LP ของเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมก่อนหน้า เพื่อจัดให้ได้มาซึ่งเซกเมนต์สัญญาณ การยกเลิกการสมนามที่หนึ่ง และเพิ่มเซกเมนต์สัญญาณการยกเลิกการสมนามที่หนึ่งให้กับเซกเมนต์ สัญญาณที่ได้รับการแปลงอีกครั้งในเซกเมนต์เวลาปัจจุบัน 1
3. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ซึ่ง ถ้าหากว่าเฟรมก่อนหน้าเป็นเฟรมประเภทที่สองที่ มีเฟรมย่อยล่าสุดของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่สอง และเฟรมปัจจุบัน (14b) เป็นเฟรมประเภท ที่หนึ่งหรือเฟรมประเภทที่สองที่มีเฟรมย่อยที่หนึ่งของเฟรมนั้นเป็นเฟรมย่อยประเภทที่หนึ่ง ตัว ประกอบคืนสภาพได้รับการสร้างขึ้นในโครงแบบเพื่อต่อเนื่องการกรองสังเคราะห์ LPC ที่ได้รับ การดำเนินการบนสัญญาณการกระตุ้นจากเฟรมก่อนหน้าเข้าในเฟรมปัจจุบัน, วางกรอบสัญญาณ ความต่อเนื่องที่ได้รับการทำให้เกิดขึ้นด้วยเหตุนั้นของเซกเมนต์สัญญาณสังเคราะห์ LP ของเฟรมก่อน หน้าภายในเฟรมปัจจุบัน (14b) เพื่อจัดให้ได้มาซึ่งเซกเมนต์สัญญาณการยกเลิกการสมนามที่สอง และ เพิ่มเซกเมนต์สัญญาณการยกเลิกการสมนามที่สองให้กับเซกเมนต์สัญญาณที่ได้รับการแปลงอีกครั้ง ภายในเซกเมนต์เวลาปัจจุบัน 1
4. ตัวถอดรหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ที่ซึ่ง ในการแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) ตัวแจงส่วน (20) ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อดำเนินการเลือกของสิ่งที่ถูกเลือกครั้งที่สองที่ขึ้นอยู่กับ ส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง และเป็นอิสระจาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการลงรหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากัน หรือที่ต่างกันของโหมดการลงรหัสการแปลงการ ยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลา 1
5. ตัวเข้ารหัสสำหรับเข้ารหัสสัญญาณสารสนเทศ (18) ให้เป็นกระแสข้อมูล (12) ใน ลักษณะที่ว่า กระแสข้อมูล (12) ประกอบรวมด้วยลำดับของเฟรม ที่ซึ่งเซกเมนต์เวลาของสัญญาณ สารสนเทศ (18) ได้รับการลงรหัสเข้าไปในนั้น อย่างตามลำดับ, ซึ่งประกอบรวมด้วย ตัวประกอบคืนสภาพ (42) ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อลงรหัสเซกเมนต์เวลา ปัจจุบัน (16b) ของสัญญาณสารสนเทศ (18) ให้เป็นสารสนเทศของเฟรมปัจจุบัน (14b) โดยการใช้ โหมดที่ได้รับการเลือกลำดับที่หนึ่งของโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมน เวลา และโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลา และ ตัวสอดเข้า (44) ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อสอดเข้าสารสนเทศ (28) เข้าไปใน เฟรมปัจจุบัน (14b) พร้อมไปกับส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ซึ่ง ส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) จะส่งสัญญาณการเลือกของสิ่งที่ถูกเลือกครั้งที่หนึ่ง ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพ (42) และตัวสอดเข้า 44 ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อ กำหนดหาข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) สำหรับยกเลิกการสมนาม ไปด้านหน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปัจจุบัน (16a) และเซกเมนต์เวลาก่อนหน้าของเฟรมก่อน หน้า และสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) เข้าไปในเฟรมปัจจุบัน (14b) ในกรณี ที่เฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่ต่างกันของโหมด การลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลา และ การระงับการสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ใดๆ เข้าไปใน เฟรมปัจจุบัน (14b) ในกรณีทีเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการ ใช้โหมดที่เท่ากันของโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการ ลงรหัสในโดเมนเวลา ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง (26) ได้รับการกำหนดขึ้นโดยขึ้นอยู่ ที่เกี่ยวกับเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากันหรือที่ต่างกันของโหมด การลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัสในโดเมนเวลา 1
6. ตัวเข้ารหัสตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ที่ซึ่งตัวเข้ารหัสได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงแบบเพื่อ ถ้าหากว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่ เท่ากันของโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัสใน โดเมนเวลา จะกำหนดส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองเป็นสถานะที่หนึ่งที่ส่งสัญญาณ การไม่ปารกฏมีของ ข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ในเฟรมปัจจุบัน และ ถ้าหากว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่ ต่างกันของโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัสใน โดเมนเวลา จะตัดสินในแง่ของการปรับให้อัตรา/ความผิดเพี้ยนมีความเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ ระงับการสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) เข้าไปในเฟรม ปัจจุบัน (14b) แม้ว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้า (14a) ได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมด ที่ต่างกันของโหมดการลงรหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการลงรหัส ในโดเมนเวลา โดยมีการกำหนดส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองในลักษณะที่ว่า สิ่งเหล่านั้นจะส่งสัญญาณ การไม่ปรากฏมีของข้อมูลการบกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ในเฟรมปัจจุบัน (14b) หรือ การสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) เข้าไปในเฟรมปัจจุบัน (14b) โดยมีการกำหนดส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองในลักษณะที่ว่า สิ่งเหล่านั้นจะส่งสัญญาณการสอดเข้า ของข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ในเฟรมปัจจุบัน (14b) 1
7. วิธีการสำหรับถอดรหัสกระแสข้อมูล (12) ที่ประกอบรวมด้วยลำดับของเฟรม ที่ซึ่ง เซกเมนต์เวลาของสัญญาณสารสนเทศ (18) ได้รับการลงรหัสเข้าไปในนั้น อย่างตามลำดับ, ซึ่ง ประกอบรวมด้วย การแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) ที่ซึ่งการแจงส่วนกระแสข้อมูลจะประกอบรวมด้วยการอ่าน ส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจากเฟรมปัจจุบัน (14b) และ การประกอบคืนสภาพเซกเมนต์เวลาปัจจุบันของสัญญาณสารสนเทศ (18) ที่ได้รับการทำให้ สัมพันธ์กับเฟรมปัจจุบัน (14b) ที่มีพื้นฐานอยู่บนสารสนเทศที่ได้รับการจัดให้ได้มาจากเฟรมปัจจุบัน (14b) โดยการแจงส่วน ที่ใช้โหมดที่ได้รับการเลือกครั้งที่หนึ่งของโหมดการถอดรหัสการแปลงการ ยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการถอดรหัสในโดเมนเวลา โดยการเลือกของสิ่งที่ถูก เลือกครั้งที่หนึ่งจะขึ้นอยู่กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ที่ซึ่งในการแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) การกระทำที่ได้รับการเลือกครั้งที่สองของการกระทำ ที่หนึ่งของการคาดหวังเฟรมปัจจุบัน (14b) เพื่อให้ประกอบรวมด้วย และดังนั้นจะเป็นการอ่านข้อมูล การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b) และการกระทำที่สองของการไม่ คาดหวังเฟรมปัจจุบัน (14b) เพื่อให้ประกอบรวมด้วย และดังนั้นจะไม่ได้เป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิก การสมนามไปด้านหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน (14b) จะได้รับการดำเนินการ โดยการเลือกของสิ่งที่ ถูกเลือกครั้งที่สองจะขึ้นอยู่กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ซึ่งการประกอบคืนสภาพจะประกอบรวมด้วยการดำเนินการยกเลิกการสมนามไปด้าน หน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปัจจุบันและเซกเมนต์เวลาก่อนหน้าของเฟรมก่อนหน้า โดยการ ใช้ข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) 1
8. วิธีการสำหรับเข้ารหัสสัญญาณสารสนเทศ (18) ให้เป็นกระแสข้อมูล (12) ในลักษณะ ที่ว่ากระแสข้อมูล (12) ประกอบรวมด้วยลำดับของเฟรม ที่ซึ่งเซกเมนต์เวลาของสัญญาณสารสนเทศ (18) ได้รับการเข้ารหัสเข้าไปในเฟรมนั้น อย่างตามลำดับ ซึ่งประกอบรวมด้วย การลงรหัสเซกเมนต์เวลาปัจจุบันของสัญญาณสารสนเทศ (18) ให้เป็นสารสนเทศของเฟรม ปัจจุบัน (14b) โดยการใช้โหมดที่ได้รับการเลือกครั้งที่หนึ่งของโหมดการเข้ารหัสรหัสการแปลงการ ยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา และ การสอดเข้าสารสนเทศเข้าไปในเฟรมปัจจุบัน (14b) พร้อมไปกับส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) จะส่งสัญญาณการเลือกของสิ่ง ที่ถูกเลือกครั้งที่หนึ่ง การกำหนดหาข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) สำหรับการยกเลิกการสมนามไป ด้านหน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปัจจุบันและเซกเมนต์เวลาก่อนหน้าของเฟรมก่อนหน้า และ การสอดเข้าข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) เข้าไปในเฟรมปัจจุบัน (14b) ในกรณีที่เฟรม ปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่ต่างกันของโหมดการเข้ารหัส การแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา และการระงับ การสอดเข้าข้อมูลยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34) ใดๆ เข้าไปในเฟรมปัจจุบัน (14b) ในกรณีที่ เฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากันของโหมดการ เข้ารหัสการแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา ที่ซึ่งส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองได้รับการกำหนดขึ้นโดยขึ้นอยู่ที่เกี่ยวกับว่าเฟรมปัจจุบัน (14b) และเฟรมก่อนหน้าได้รับการเข้ารหัสโดยการใช้โหมดที่เท่ากัน หรือที่ต่างกันของโหมดการเข้ารหัส การแปลงการยกเลิกการสมนามในโดเมนเวลา และโหมดการเข้ารหัสในโดเมนเวลา 1
9. สื่อกลางการบันทึกที่จัดเก็บโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีรหัสคำสั่งโปรแกรมสำหรับการ ดำเนินการวิธีการตามข้อถือสิทธิข้อ 17 หรือ 18 เมื่อทำงานบนคอมพิวเตอร์ ------------------------------------------------------- 1.ตัวถอดรหัส(10)สำหรับถอดรหัสกระเเสข้อมูล(12)ที่ประกอบรวมด้วยลำดับของ เฟรม ที่ซึ่งเซกเมนต์เวลาของสัญญาณสารสนเทศ(18)ได้รับการเข้ารหัสเข้าไปนั้นอย่างตามลำดับ แล้ว ประกอบรวมด้วย ตัวเเจงส่วน(20)ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบเพื่อเเจงส่วนกระเเสดข้อมูล(12)ที่ซึ่งใน การแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) ตัวแจงส่วนได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงสร้างแบบเพื่ออ่านส่วน วากกสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) และส่วนวากยสัมพันธ์ที่สองจากเฟรมปัจจุบัน (14b) และ ตัวประกอบคืนสภาพ(22)ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาโครงเเบบเพื่อประกอบคืนสภาพ เซกเมนต์เวลาปัจจุบัน(16b)ของสัญญาณสารสนเทศ(18)ที่ได้รับการทำให้สัมพันธ์กับเฟรมปัจจุบัน (14b)ที่มีพื้นฐานอยู่บนสารสนเทศ(28)ที่ได้รับการจัดให้ได้มาจากเฟรมปัจจุบันโดยการเเจงส่วน โดยการใช้โหมดหนึ่งที่ได้รับการเลือกครั้งที่หนึ่งของโหมดการถอดรหัสการเเปลงการยกเลิกการ สมนามในโดเมนเวลา และโหมดการถอดรหัสในโดเมนเวลา โดยการเลือกครั้งที่หนึ่งจะขึ้นอยู่กับ ส่วนวากยสัมพันธ์ที่หนึ่ง (24) ที่ซึ่งในการแจงส่วนกระแสข้อมูล (12) ตัวเเจงส่วน(20)ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบ เพื่อดำเนินการการกระทำหนึ่งที่ได้รับการเลือกครั้งที่สองของการกระทำที่หนึ่ง ในของการคาดหวังเฟรม ปัจจุบัน(14b)เพื่อให้ประกอบรวมด้วย เเละดังนั้นจะเป็นการอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไป ด้าหน้า (34) จากเฟรมปัจจุบัน(14b)เเละการกระทำที่สองของการไม่คาดหวังเฟรมปัจจุบัน(14b) เพื่อให้ประกอบรวมด้วย เเละดังนั้นจะไม่ได้เป็นอ่านข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34)จากเฟรมปัจจุบัน(14b)โดยการเลือกครั้งที่สองจะขึ้นอยู่กับส่วนวากยสัมพันธ์ที่สอง ที่ซึ่งตัวประกอบคืนสภาพ(22)ได้รับการสร้างขึ้นมาในโครงเเบบเพื่อดำเนินการยกเลิกการ สมนามไปด้านหน้าที่ขอบเขตระหว่างเซกเมนต์เวลาปััจุบัน(16b)เเละเซกเมนต์เวลาก่อนหน้า(16a) ของเฟรมก่อนหน้า(14b)โดยการใช้ข้อมูลการยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า (34)
TH1301000098A 2011-07-07 ตัวลงรหัสที่ใช้การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า TH69581B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH127596A TH127596A (th) 2013-09-20
TH127596B TH127596B (th) 2013-09-20
TH69581B true TH69581B (th) 2019-04-30

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
KR101315617B1 (ko) 모드 스위칭에 기초하여 윈도우 시퀀스를 처리하는 통합 음성/오디오 부/복호화기
KR100912045B1 (ko) 여기 파형의 외삽에 근거한 부대역 예측 코더용 패킷 손실은폐
KR101455915B1 (ko) 일반 오디오 및 음성 프레임을 포함하는 오디오 신호용 디코더
JP5981913B2 (ja) フォワードエイリアシング消去を用いた符号器
JP5247878B2 (ja) 階層型復号化構造におけるデジタル音声信号の伝送エラーの隠蔽
JP3171598B2 (ja) 可聴信号のコーディングおよびデコーディング方法
KR102322867B1 (ko) Mdct기반의 코더와 이종의 코더 간 변환에서의 인코딩 장치 및 디코딩 장치
US11922962B2 (en) Unified speech/audio codec (USAC) processing windows sequence based mode switching
KR101689766B1 (ko) 음성 복호 장치, 음성 복호 방법, 음성 부호화 장치, 및 음성 부호화 방법
WO2012048472A1 (en) Signal analyzer, signal analyzing method, signal synthesizer, signal synthesizing method, windower, transformer and inverse transformer
EP2772914A1 (en) Hybrid sound-signal decoder, hybrid sound-signal encoder, sound-signal decoding method, and sound-signal encoding method
CN106575505A (zh) Fd/lpd转换环境中的帧丢失管理
KR20130086619A (ko) 스피치 시그널 부호화 방법 및 복호화 방법
TH69581B (th) ตัวลงรหัสที่ใช้การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า
TH127596A (th) ตัวลงรหัสที่ใช้การยกเลิกการสมนามไปด้านหน้า
EP1522063B1 (en) Sinusoidal audio coding
KR101601906B1 (ko) 주파수 영역 변환 기법 및 시간 영역 변환 기법을 전환하며오디오 신호를 부호화하는 장치 및 방법
TH132840A (th) โคเดกเสียงที่รองรับโหมดการลงรหัสโดเมนเวลา และโดเมนความถี่
KR20050017088A (ko) 사인 곡선 오디오 부호화