Claims (9)
1.วิธีสำหรับสกัดคาฟ์เฟอีนจากกาแฟดิบ ซึ่งประกอบด้วย ( a ) การป้อนคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดที่ปราศจากคาฟ์เฟอีนที่ประกอบด้วยของแข็งที่ไม่ได้ใช้คาฟ์เฟอีนที่จำเป็นเข้าไปอย่างตอ่เนื่อง และทำให้อิ่มตัว ด้วยน้ำทางปลายล่างของภาชนะที่ใช้สกัดที่ถือว่าอยู่ตามความยาวในแนวตั้งฉากซึ่งภาชนะนั้นประกอบด้วยเมล็ดการแฟดิบที่มีปริมาณความชื้น 25-50% โดยน้ำหนัก ทำการสัมผัสคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดกับเมล็ดกาแฟดิบในภาชนะที่ใช้สกัดดัง กล่าว โดยวิธีทวนกระแสอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการสกัดคาเฟอีนอย่างได้ผลออกจากกาแฟไปยังคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดนั้น และดึงคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดที่ ประกอบด้วยคาฟ์เฟอีน และของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีน ออกมาอย่างต่อเนื่อง จากปลายบนของภาชนะที่ใช้สกัด ( b ) นำส่วนเมล็ดกาแฟในภาชนะดังกล่าวออกจากปลายล่างของภาชนะที่ใช้สกัดทิ้งไป ซึ่งส่วนที่ทิ้งไปนั้นประกอบด้วยเมล็ดกาแฟที่แยกคาฟ์เฟอีนออกแล้ว ( c ) เลื่อนเมล็ดกาแฟส่วนที่เหลือลงด้านล่างของภาชนะที่ใช้สกัด เพื่อให้มีปริมาณ ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับปริมาณของเมล็ดกาแฟ ที่แยกคาฟ์เฟอีนออกแล้ว ที่เอาออกไปจากภาชนะที่ใช้สกัด ( d ) ใส่เมล็ดกาแฟดิบที่ชื้น ที่มีปริมาณความชื้น25-50% ลงในปลายขนของภาชนะที่ใช้สกัดดังกล่าวในปริมาณที่ถือว่าสอดคล้องกับปริมาณเมล็ดกาแฟที่แยกคาฟ์เฟอีนออกไปแล้วที่เอาออกจากภาชนะที่ใช้สกัดนั้น ( e ) รักษาอุณหภูมิในภาชนะที่ใช้สกัดไว้ที่ 80-140 ํซ ( f ) ป้อนคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดที่ประกอบด้วยคาฟ์เฟอีนและดึงของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีนออกทางปลายขนของภาชนะที่ใช้สกัดไปยังตัวดูดซับ ( g ) สัมผัสคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดที่ประกอบด้วยคาฟ์เฟอีนและของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีนกับน้ำ โดยวิธีทวนกระแสอย่างต่อเนื่องนั้น ในตัวดูดซับที่อุณหภูมิและความดันถือว่าเหมือนกับในภาชนะที่ใช้สกัด เพื่อทำการสกัดคาฟ์เฟอีน ซึ่งถือว่าทั้งหมด ที่ประกอบอยู่ในคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดนั้นแค่ทำการสกัดของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีนดังกล่าวในปริมาณน้อยออกมา ( h ) ดึงน้ำที่ประกอบด้วยคาฟ์เฟอีนออกจากตัวดูดซับ ( i ) ดึงคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดซึ่งถือว่าปราศจากคาฟ์เฟอีน ซึ่งประกอบด้วยของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีนออกจากตัวดูดซับดังกล่าว ( j ) นำคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดซึ่งถือว่าปราศจากคาฟ์เฟอีนที่ประกอบของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีน กลับไปใช้โดยเข้าไปทางปลายล่างของภาชนะที่ใช้สกัดตามต้องการจากชั้น ( a) และ ( k ) ทำซ้ำขั้น ( b ) , ( c ) และ ( d ) เป็นช่วงๆ ในขณะที่กระทำขั้น ( a ) และขั้น ( e ) ถึง ( j ) เพื่อทำการสกัดคาฟ์เฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟดิบอย่างมีประสิทธิภาพ1. Method for extracting caffeinated from raw coffee Contains (a) the continuous infusion of Caffene-Free Critical Carbon Dioxide containing the necessary caffeine-free solids. And saturate With water at the bottom end of the extraction vessel that is assumed to be perpendicular length, the container consists of 25-50% moisture content of raw coffee beans. Such extraction is used by a continuous countercurrent method. To effectively extract the caffeine from the coffee to the carbon dioxide. And extracting the supercritical carbon dioxide that Contains caffeine And non-caffene solids Come out continuously From the top end of the extraction container (b), remove the coffee beans in the container from the lower end of the extraction container. The discarded portion consists of caffeinated coffee beans (c). Slide the rest of the beans onto the bottom of the extraction container. To contain volume Which is considered consistent with the amount of coffee beans That has separated the caffeinated Removed from the extraction container (d) put the moist raw coffee beans. (E) containing 25-50% moisture content into the tip of the extraction vessel in an amount considered to be consistent with the caffene-extracted coffee beans removed from the extraction container (e). The temperature in the extraction vessel was kept at 80-140 ํ (f), fed the supercritical carbon dioxide containing caffeine and extracted the non-caffene solids through the hairline of the extraction vessel to the body. Absorbent (g) Exposure to supercritical carbon dioxide containing caffeine and non-caffene solids with water. By the continuous countercurrent method In the sorbent at temperature and pressure is the same as in the extraction vessel. To extract caffene Which assumes all The supercritical carbon dioxide is simply extracted a small amount of the aforementioned non-caffene solids (h), extracted water containing caffeine from the sorbent, (i) extracting the supercritical carbon dioxide. Which is considered without caffeine Removed the supercritical carbon dioxide which is considered to be free of caffeine-containing non-caffeine-containing solids from the sorbent (j). Back to use, approaching the lower end of the extraction vessel as desired from layers (a) and (k). Repeat steps (b), (c) and (d) periodically while performing steps (a) and Steps (e) to (j) for efficient extraction of caffene from raw coffee beans.
2.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งในขั้น ( a ) นั้นความเข้มข้นคาฟ์เฟอีนใน คาร์บอนไดออกไซด์ วิกฤตยิ่งยวดที่ดึงออกจากปลายบนของภาชนะที่ใช้สกัดอย่างน้อย 30% ของความเข้มข้นคาฟ์เฟอีนที่ได้รับสูงสุด ซึ่งจะนิยามไว้โดยสัมประสิทธิ์แบ่งแยกสำหรับคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดดังกล่าว2. The method according to claim 1, in which (a) step, the concentration of kaffene in carbon dioxide Supercritical, extracted from the top end of the extraction vessel at least 30% of the highest obtained kaffene concentration. Which is defined by the partition coefficient for such supercritical carbon dioxide.
3.วิธีตามข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งความเข้มข้นของคาฟ์เฟอีนดังกล่าวคือ อย่างน้อย 70% ของค่ามากที่สุดดังกล่าว3. Method according to claim 2, where the concentration of the aforementioned caffene is at least 70% of the maximum said value.
4.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งปริมาณเมล็ดกาแฟซึ่งนำออกมาและใส่ลงในภาชนะที่ใช้ในการสกัดดังกล่าวอยู่ระหว่างประมาณ 5 ถึง 33% ของปริมาตร เมล็ดกาแฟที่บรรจุ อยู่ในภาชนะที่ใช้ในการสกัดนั้น4. Method according to claim 1, in which the amount of coffee beans that are taken out and placed in the extraction container is approximately 5 to 33% of the volume of coffee beans contained. In the extraction container
5.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 4 ซึ่งการนำเมล็ดกาแฟออกและการใส่เมล็ดกาแฟลงในภาชนะที่ใช้ในการสกัดดังกล่าวนั้น ได้กระทำโดยใช้เวลาประมาณทุกๆ 10 นาที ถึง 120 นาที5. Method according to claim 4 in which the removal of coffee beans and placing them in the container used for the extraction. It takes approximately every 10 minutes to 120 minutes.
6.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งอัตราส่วนน้ำหนักของคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดต่อเมล็ดกาแฟนั้นคือจะใช้คาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดระหว่าง 30 ถึง100 กิโลกรัม ต่อกาแฟหนึ่งกิโลกรัม6. Method according to claim 1, in which the weight ratio of ultra-critical carbon dioxide to coffee beans, is that between 30 and 100 kilograms of supercritical CO2 is used per kilogram of coffee.
7.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งการนำเมล็ดกาแฟออกและการใส่เมล็ดกาแฟลงในภาชนะที่ใช้ในการสกัดดังกล่าวนั้นกระทำโดยใช้กล่องเปล่า7. Method according to claim 1, where the removal of coffee beans and placing them in the extraction container is done using an empty box.
8.วิธีตามข้องถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งต่อไปประกอบด้วยการรวมตัวเพิ่มฤทธิ์เข้ากับคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวด ซึ่งปราศจากคาฟ์เฟอีนดังกล่าวนั้น ก่อนการป้อน คาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวดนั้นไปยังภาชนะที่ใช้ในการสกัดดังกล่าว8. The method according to the right to Clause 1, which further consists of the supercritical aggregation with carbon dioxide. Without the caffene, before the supercritical CO2 was fed into the extraction vessel,
9.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ (1 ) ซึ่งในขั้น ( 9 ) ได้มีการถ่ายโอนคาฟ์เฟอีนอย่างน้อย 90% และของแข็งที่ไม่ใช่คาฟ์เฟอีนนั้น น้อยกว่า 5% จากคาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่ง ยวดนั้นไปยังน้ำนั้น 19. According to claim (1) method, in which step (9) has at least 90% of the caffeine transfer and less than 5% of the non-caffeene solids from the extremely critical carbon dioxide. Notably, to that water 1
0.วิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งต่อไปประกอบด้วยการนำคาฟ์เฟอีนกลับออกมาจากน้ำที่มีคาฟ์เฟอีนอยุ่ ซึ่งดึงออกมาจากตัวดูดซับดังกล่าว0. The method according to claim 1, which follows, consists of taking the caffeine back from the caffeine-containing water. Which is extracted from the sorbent