TH6336B - อิเล็คโตรดแบบหลายชั้น - Google Patents

Abstract

ให้มีอิเล็คโตรดมีรูพรุนและเป็นแบบหลายชั้นซึ่งได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อใช้ในเซลล์แมมเบรนทางไฟฟ้าเคมีมีชั้นรองครับ มีรูพรุนเป็นชั้นที่หนึ่ง, ชั้นเส้นใยที่สอง, ชั้นเส้นใย ที่สามที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าชั้นเส้นใยที่สอง และชั้ผืน ลวดลายตาข่ายเป็นชั้นที่สี่

Claims (8)

1. เซลล์อีเล็คโตรไลท์ที่มีส่วนบนส่วนหนึ่งและส่วนล่างส่วน หนึ่ง และมีนอโนไลต์และแคโธไลต์ไหลผ่าน โดยประกอบด้วยส่วน ต่างๆ เหล่านี้รวมกัน (ก) แอโนด (ข) เมมเบรนแลกเปลี่ยนแคทไอออนที่ติดกับแอโนด (ค) วิถีทางแยกอยู่ระหว่างแอโนด และเมมเบรนเพื่อป้องกันมิ ให้เมมเบรนและกับแอโนด (ง) แผ่นแคโธดแบบหลายชั้นและเป็นรูพรุน ซึ่งมีผิวหน้าแรก อยู่ติดต่อกับเมมเบรน แฃละมีผิวหน้าที่สองตรงข้ามหน้าหนึ่ง ผิวหน้าที่สองนี้เป็นชั้นรองรับของวัสดุมีรูพรุนที่มีชั้น เส้นใยที่หนึ่งอยู่เหนือชั้นรองรับ และชั้นเส้นใยที่สามที่ มีความหนาแน่นน้อยกว่าชั้นที่สองอยู่เหนือชั้นที่สองขึ้นมา และยังประกอบขึ้นเป็นอย่างน้อยส่วนหนึ่งของผิวหน้าแรกซึ่ง อยู่ติดต่อกับเมมเบรน และ (จ) แผ่นประกบหลังแคโธดอยู่ติดต่อกับผิวหน้าที่สองที่อยู่ ตรงกันของแผ่นแคโธดที่มีส่วนกั้นการไหลขวางอยู่และกำหนด ขึ้นเป็นห้องแคโธไลด์ด้านบน และห้องแคโธไลด์ด้านล่าง ส่วน กั้นการไหลนี้ทำให้การไหลของแคโธไลด์ระหว่างส่วนบนและส่วน ล่างของเซลล์เกิดการสะดุดเป็นสาเหตุให้แคโธไลด์เกือบทั้ง หมดเปลี่ยนทิศทางการไหลและผ่านแผ่นแคโธดมีรูพรุน 2 ครั้ง กลับไปยังผิวหน้าแรกและผิวหน้าที่สองอีกด้านหนึ่งของแผ่น แคโธดเพื่อ ไหลข้ามส่วนกั้นการไหลไป และเพื่อออกจากเซลล์ไป 2. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 โดยที่ช่นเส้นใยที่สองดัง กล่าวมีความหนาแน่นประมาณ 3.0 กก./ตร.ม. (0.62 ปอนด์/ตร.ฟุต) และเส้นใยดังกล่าวแต่ละเส้นมีเส้นผ่านศูนย์ กลางประมาณ 25 ไมครอน 3. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 2 โดยที่ช่นเส้นใยที่สองดัง กล่าวมีความหนาแน่นประมาณ 0.6 กก./ตร.ม. (0.12 ปอนด์/ตร.ฟุต) และเส้นใยดังกล่าวแต่ละเส้นมีเส้นผ่านศูนย์ กลางประมาณ 8 ไมครอน 4. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 3 โดยที่แผ่นแคโธดหลายชั้น และเป็นรูพรุนนั้นยังประกอบด้วยผืนลวดตะแกรงเป็นชั้นที่สี่ อยู่เหนือชั้นเส้นใยที่สาม 5. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 3 โดยที่ชั้นวัสดุมีรูพรุน เพื่อการรองรับมีพื้นที่เปิดประมาณ 23% 6. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 5 โดยที่เส้นใยของชั้นที่สอง และเส้นใยของชั้นที่สามถูกเลือกมาจากกลุ่มซึ่งประกอบด้วย เหล็กกล้าไร้สนิม, นิกเกิล, เหล็กกล้า, ทองแดง และคาร์บอน กราไฟด์ 7. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 โดยที่ส่วนกั้นการไหลดัง กล่าววางขวางแผ่นประกบหลังแคโธดอยู่ในแนวระดับโดยทั่วไป 8. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 7 โดยที่ทิศทางการไหลของ แคโธดไลด์โดยปกติอยู่ในแนวดิ่งจากส่วนล่างของเซลล์ไปยัง ส่วนบนของเซลล์ 9. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8 โดยที่แคโธดไลต์เข้าไปใน เซลล์ได้ทางช่องทางเข้าสำหรับแคโธไลต์อย่างน้อยช่องหนึ่ง ซึ่งจากนั้นจะเข้าสู่ห้องแคโธดไลด์ด้านล่าง 1 0. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 9 โดยที่ช่องทางเข้าสำหรับ แคโธไลด์อย่างน้อยช่องหนึ่งดังกล่าวนั้นยังให้การนำเข้าไป ในร่องกระจายแคโธไลต์โดยทางร่องส่งผ่านทรงลู่ร่องหนึ่ง 1

1. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 10 โดยที่แคโธไลต์ออกจาก เซลล์ไปทางช่องทางออกแคโธไลต์อย่างน้อนช่องหนึ่ง 1

2. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 11 โดยที่ส่วนกั้นการไหล แคโธไลต์ดังกล่าวยังมีรูระบายแก๊สอย่างน้อยรูหนึ่งซึ่งโดย ปกติอยู่ในแนวดิ่งเชื่อมติดต่อโดยตรงระหว่างห้องแคโธไลต์ ด้านล่างกับห้องแคโธไลด์ด้านบน เพื่อให้แก๊สผ่านออกไปได้ 1

3. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 12 โดยที่แอโนดดังกล่าวยัง ประกอบด้วยแผ่นประกอบหลังแอโนดแผ่นหนึ่งที่มีช่องทางเข้าแอ โนไลต์อย่างน้อยช่องหนึ่งเพื่อให้แอโนไลต์เข้าไปในเซลล์ได้ และมีช่องทางออกของแอโนไลต์อย่างน้อยช่องหนึ่งเพื่อให้แอ โนไลต์ออกจากเซลล์ไป 1

4. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13 โดยที่มีช่องทางเข้าของ แอโนไลต์อย่างน้อยช่องหนึ่งที่ยังให้การนำเข้าสู่ร่องส่ง ผ่านแอโนไลต์ 1

5. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 14 โดยที่แอโนดดังกล่าว ประกอบด้วยแท่งแอโนด จำนวนหนึ่งที่ยื่นอยู่ระหว่างร่อง กระจายแอโนไลต์และร่องรวมแอโนไลต์อย่างขนานกันและเรียงต่อ กัน 1

6. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 15 โดยที่แคโธไลต์ยังประกอบ ด้วยสารละลายน้ำที่ทำให้มีสภาพบัฟเฟอร์ของโลหะแอลคาไลไปซัล ไฟต์ 1

7. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 16 โดยที่โลหะแอลคาไลไลซัล ไฟต์ดังกล่าวคือ โซเดียมไบซัลไฟต์ 1

8. เซลล์ตามข้อถือสิทธิข้อที่ 17 โดยที่แอโนไลต์ดังกล่าว ประกอบด้วยสารผสมของโซเดียมไฮดรอกไซด์กับน้ำลดไอออน (ข้อถือสิทธิ 18 ข้อ, 3 หน้า, 7 รูป)