Claims (9)
1. สารทำกระจาย (dispersant) ที่มีสูตรทั่วไป 1 T-----( A)n(B)p-----Z (1) ซึ่ง T คือ ไฮโดรเจนหรือหมู่ปลายสุดของการเกิดโพลิเมอร์ Z คือ หมู่กรดหรือหมู่เบส หรือส่วนที่มีหมู่กรด หรือหมู่เบสอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหมู่เบส หรือส่วนที่มีหมู่เบสนั้นที่แทนโดย Z ยึดเหนี่ยวกับ T-(A)n(B)p -ผ่านทางพันธะแอมีดและ/หรือเกลือ และซึ่งหมู่กรดเลือกได้จากซัลเฟท, ซัลโฟเนท, ฟอสเฟท และฟอสโฟเนท A และ B แต่ละหมู่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันคือ หมู่ออกซิแอลคิลีน คาร์บอนิล ซึ่งได้มาจาก เดลตา-แวเลอโรแลคโทน, เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทนหรือ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิล โดยมี ข้อแม้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน หรือ เดลตา-แวเลอโรแลคโทน n และ p คือ จำนวนเต็ม และ n + p คือ จาก 2 ถึง 100 ซึ่งรวมถึงเกลือของสารดังกล่าว 2. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง n + p ไม่มากกว่า 20 3. สารทำกระจายตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1 หรือข้อถือสิทธิข้อ 2 ซึ่ง A ได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน และ B ได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทนซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิล 1. 5. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งหมู่แทนที่แอลคิลของ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน คือ C1-4แอลคิล 6. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 5 ซึ่งหมู่แทนที่แอลคิล นั้นคือ เมธิล 7. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งประกอบรวมด้วย โพลิ(C2-4แอลคิลีนอิมีน) (PAI) ที่มีโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) อย่างน้อย 2 โซ่ซึ่งมีสูตร 2 T-----(O-----V-----CO)n+p----- (2) ซึ่ง V คือ ส่วน --( A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) และ T , n และ p มีความหมายเหมือนกับที่นิยามไว้ในข้อถือสิทธิข้อ 1 8. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ซึ่ง V คือ หมู่ -( A)n(B)p - ซึ่ง A คือ หมู่ออกซิแอลคิลีน คาร์บอนิลซึ่งได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน และ B คือ หมู่ออกซิแอคิลีน คาร์บอนิลซึ่งได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิล หรือ เดลตา-แวเลอโรแลคโทน และอัตราส่วนของ n:p คือ จาก 8:1 ถึง 1:1 9. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ซึ่งมีสูตรทั่วไป 3 (สูตรเคมี) (3) ซึ่ง X-----*-----*-----X คือ โพลิ(C2-4-แอลคิลีนอิมีน) (PAI); Y คือ โซ่โพลิออกซิแอลคิลีน คาร์บอนิล (POAC) ซึ่งเชื่อมต่อกับโพลิ (C2-4-แอลคิลีนอิมีน) (PAT) ผ่านทางหมู่ชื่อมแอมีนหรือเกลือ; และ q คือ จาก 2 ถึง 2000 1 0. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งอัตราส่วนน้ำหนักของ (Y)q ต่อโพลิ(C2-4แอลคิลีนอิมีน) (PAI) คือ ระหว่าง 30:1 และ 1:1 1 1. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 9 ซึ่งอัตราส่วนน้ำหนักของ (Y)q ต่อโพลิ(C2-4แอลคิลีนอิมีน) (PAI) คือ ระหว่าง 15:1 และ 10:1 1 2. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง MW ของ โพลิ(C2-4-แอลคิลีนอิมีน) (PAI) คือ จาก 1,000 ถึง 100,000 1 3. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง โพลิ(C2-4-แอลคิลีนอิมีน) (PAI) นั้นคือ โพลิเอธิลีนอิมีน 1 4. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่ง T ได้มาจากกรด C1-25แอลิแฟทิคคาร์บอกซิลิค ซึ่ง เลือกให้ถูกแทนที่ได้ด้วยไฮดรอกซิ, C1-4แอลคอกซิ หรือเฮโลเจน 1 5. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 14 ซึ่งได้เลือกกรดคาร์ลอกซิลิคนั้นจากกรดไกลคอลิค, กรดแลคทิค, กรดแคโพรอิค, กรดลอริค, กรดสเทียริค, กรดเมธอกซิแอซิทิค, กรดริซิโนเลอิค, กรด 12 - ไฮดรอกซิสเทียริค, กรด 12 - ไฮดรอกซิโดเดคาโนอิค, กรด 5 - ไฮดรอกซิโดเดคาโนอิค, กรด 5 - ไฮดรอกซิเดคาโนอิค และ 4 - ไฮดรอกซิเดคาโนอิค 1 6. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 15 ซึ่งกรดคาร์บอกซิลิคนั้นคือ กรดลอริค 1 7. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งมีสูตร 5 (สูตรเคมี) (5) ซึ่ง A1 และ D คือ หมู่ซึ่งหมู่หนึ่งคือ หมู่กรดหรือมีหมู่กรด และอีกหมู่หนึ่งคือ หมู่ปลายสุดของ การเกิดโพลิเมอร์ ซึ่งไม่ทำให้โซ่โพลิออกซีแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (end-capped) (TPOAC) V คือ ส่วน -(A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) n และ p คือ จำนวนเต็ม และ n + p คือ จาก 2 ถึง 100 ซึ่งรวมถึงเกลือของสารดังกล่าว 1 8. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 17 ซึ่งเมื่อ A1 มีหมู่กรด, D คือ อนุมูลของแอลกอฮอล์, ไธออลหรือไพรแมรี หรือเซคันดารีแอมีน D1-K-H ซึ่ง D1 คือ หมู่แอลิแฟทิคหรือแอลิไซคลิค, K คือ O, S หรือ NR ซึ่ง R คือ H, แอลคิล, แอลเคนิล, ไซโคลแอลคิล หรือเฟนิล 1 9. สารทำกระจายตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิข้อ 17 หรือข้อถือสิทธิข้อ 18 ซึ่งมีสูตร 8 (สูตรเคมี) (8) ซึ่ง D1 คือ C1-50ไฮโดรคาร์บิลซึ่งไม่ถูกแทนที่หรือ C1-50 -ไฮโดรคาร์บิลซึ่งถูกแทนที่โดย เฮโลเจน, เทอร์เชียรีอะมิโน หรือ C1-6แอลคอกซี J คือ O, NR หรือ พันธะโดยตรง V คือ ส่วน -( A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) R คือ H, แอลคิล, แอลเคนิล, ไซโคลแอลคิล หรือเฟนิล L1 คือ ซัลเฟท หรือฟอสเฟท M คือ แคทไอออน W คือ 1 หรือ 2 และ n และ p คือจำนวนเต็ม และ n + p คือ จาก 2 ถึง 100 2 0. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่ง J คือ O 2 1. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 20 ซึ่ง D1 คือ แอลคิล 2 2. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 21 ซึ่ง D1 คือ โดเดคานิล 2 3. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่ง V คือ ส่วน -( A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซี แอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) ซึ่ง A คือ หมู่ออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิลที่ได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพแลคโทน, B คือ โซ่ออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิลที่ได้มาจาก เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทนซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิล คือ เดลตา-แวเลอโรแลคโทน และอัตราส่วนของ n:p คือ จาก 8:1 ถึง 1:1 2 4. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่ง M คือ แอมีน, แอลคานอแลมีน หรือเกลือ ควอเทอนารีแอมโมเนียม 2 5. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 24 ซึ่งแอมีนนั้นคือ n-บิวทิลแลมีน, ไดเอธานอแลมีน หรือไดอะมิโนโพรพิแลมีน 2 6. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ซึ่ง L1 คือ ฟอสเฟท 2 7. สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 26 ซึ่งอัตราส่วนของโพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล ปลายปิด (TPOAC) แอลกอฮอล์ ต่อฟอสฟอรัสอะตอม คือ ระหว่าง 3:1 หรือ 1:1 2 8. กรรมวิธีสำหรับเตรียมสารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 7 ที่ประกอบรวมด้วยการทำ ปฏิกิริยาของกรดโพลิออกซีแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (TPOAC) กับ โพลิ(C2-4แอลคิลีนอิมีน) (PAI) ที่อุณหภูมิระหว่าง 80 และ 150 ํซ. 2 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 28 ซึ่งได้เตรียมกรดโพลิออกซีแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (TPOAC) นั้น โดยการทำปฏิกิริยาแลคโทนกับกรดแอลิแฟทิคคาร์บอกซิลิค ในบรรยากาศเฉื่อยที่จาก 150 ถึง 180 ํซ. เมื่อมีตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดเอสเทอร์อยู่ด้วย 3 0. กรรมวิธีสำหรับเตรียมสารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 19 ที่ประกอบรวมด้วย การเกิด โพลิเมอร์ของแลคโทนเมื่อมีโมโนไฮดริคแอลกอฮอล์หรือไพแมรีหรือเซคันดารีโมโนเอมีนอยู่ด้วย เพื่อให้เกิดโพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (TPOAC) แอลกอฮอล์และการทำปฏิกิริยาของ TPOAC แอลกอฮอล์นั้นกับสารทำให้เป็นฟอสเฟท 31. The dispersant having the general formula 1 T ----- (A) n (B) p ----- Z (1) where T is the hydrogen or the terminating group Z is Acid or base group Or the part containing acid Or a base group, in which the base group or the part containing that base group represented by Z is bound to T- (A) n (B) p - through the add and / or salt bond. And which acid groups can be selected from sulfate, sulfonate, phosphate and phosphonate A and B, the unrelated groups are Oxylkylene carbonyl group derived from Delta-Valerolactone, Efilon-Caprolactone or Efcelon - Caprolactone Which are replaced by alkyls, with the condition that both are not Efcelon-caprolactone or delta-valerolactone n and p are integers and n + p is from 2 to 100, including their salts. Clause 1, where n + p is not more than 20 3. Dispersant according to either claim 1 or claim 2, which A is derived from fcelon-caprolactone and B is derived from fcelon-caprolactone which is replaced by alkyl 1. 5. Dispersant according to claim 1, which replaces the alkyl of Ephilon-caprolactone is C1-4 Alkyl 6. Dispersant according to claim 5, where alkyl substitutes are methyl 7. Dispersant according to claim Article 1 which includes Poly (C2-4 Alkyleneimines) (PAI) with at least 2 polyoxylkylene carbonyl (POAC) chains having the formula 2 T ---- - (O ----- V ----- CO) n + p ----- (2) where V is the - (A) n (B) p - portion of the polyoxide chain. Kylene carbonyl (POAC) and T, n and p have the same meaning as those defined in claim 1 8. Dispersant according to claim 7, where V is group - (A) n ( B) p - where A is the oxylkylene group Carbonyl, which is obtained from Efcelon - caprolactone and B is oxiacilene group. Carbonyl, which is obtained from Efcelon - Caprolactone Which has been replaced by alkyl or delta-valerolactone And the ratio of n: p is from 8: 1 to 1: 1 9. Dispersant according to claim 7, which has the general formula 3 (chemical formula) (3), where X ----- * ----- * ----- X is the poly (C2-4- alkylamine) (PAI); Y is the polyoxymethylchylene carbonyl chain (POAC) which is connected to With poly (C2-4-alkylene-amine) (PAT) through amines or salts; And q is from 2 to 2000 1 0. Disperse according to claim 9, where the weight ratio of (Y) q to poly (C2-4 alkylineimines) (PAI) is between 30: 1 and 1: 1 1 1. Disperse according to claim 9, where the weight ratio of (Y) q to poly (C2-4 alkyline amine) (PAI) is between 15: 1 and 10: 1 1 2. Dispersant according to claim 1, where MW of poly (C2-4-Alkyleneamine) (PAI) is from 1,000 to 100,000 1. 3. Dispersant according to Clause 1. Holds the right to Clause 1, which Poly (C2-4-Alkyleneamine) (PAI) is Polyethylene Imine 1 4. Dispersant according to claim 1 which T has It is derived from C1-25 aliphatic carboxylic acids, which can be selected to be replaced by hydroxyl, C1-4 alkoxy or halogen 1 5. Dispersant according to the claim clause. 14 which carloxylic acid was selected from glycolic acid, lactic acid, caproic acid, lauric acid, stearic acid, methoxyacetic acid. Tic, ricinoleic acid, acid 12 - hydroxystearic, acid 12 - hydroxidodecanoic, 5 - hydroxidodecanoic acid, 5-hydroxidecanoic acid and 4-hydroxidecanoic acid 1 6. dispersant according to claim 15, the carboxylic acid is lauric acid 1 7. The dispersant according to claim 1, which has formula 5 (chemical formula) (5), where A1 and D are groups, one group is Acid group or acid group And another group is At the end of Polymerization This does not cause an end-capped polyoxylene carbonyl chain (TPOAC). V is the - (A) n (B) p - section of the polyoxymethylkili chain. The carbonyl (POAC) n and p are integers and n + p is from 2 to 100, including their salts 1 8. Dispersant according to claim 17, where A1 has an acid group, D. Is the radical of alcohol, thiol or primary. Or secandary amine, D1-KH, where D1 is an aliphatic or alicylic group, K is O, S or NR, where R is H, alkyl, LKenyl, Cycloalkyl or phenyl 1 9. Dispersant according to either Clause 17 or Clause 18 which has the formula 8 (chemical formula) (8), where D1 is C1-50. Irreplaceable carbills or C1-50 - hydrocarbons, which are replaced by halogens, tertiaoryamino or C1-6 lcoxys.J is O, NR or direct bond, V is Section - (A) n (B) p - of the polyoxymethylchylene carbonyl chain (POAC) R is H, alkyl, LKenyl, cycloalkyl or Phenyl L1 is a sulphate or phosphate, M is a cation, W is 1 or 2 and n and p is an integer and n + p is from 2 to 100 2 0. Dispersant according to the claim clause. 19 where J is O 2 1. Dispersant according to claim 20, D1 is alkyl 2. 2. Dispersant according to claim 21, where D1 is dodecanil 2. 3. Dispersant according to Clause 21. Holds the right to clause 19, where V is the part - (A) n (B) p - of the polyoxi chain. Alkylene carbonyl (POAC), where A is an oxylkylene carbonyl group derived from Efcelon - capolactone, B is an oxylkylene carbonyl chain derived from Efcelon-caprolactone, which is replaced by alkyl, is delta-valerolactone. And the ratio of n: p is from 8: 1 to 1: 1 2. 4. Dispersant according to claim 19, where M is amines, alkalamine or quaternary ammonium salts. 2 5. Substance distributed according to claim 24, which Ameen is n-butylamine, diethanolamine Or Diaminopropylamine 2 6. Dispersing agent according to claim 19, which L1 is phosphate 2. 7. Dispersant according to claim 26, which the ratio of polyoxide Closed-end alkyl carbonyl (TPOAC) alcohol to phosphorus atom is between 3: 1 or 1: 1 2. 8. Process for the preparation of dispersant according to claim 7, which includes: Reaction of closed-cell polyoxylkylene carbonyl acid (TPOAC) with poly (C2-4 alkylamine) (PAI) at temperatures between 80 and 150 ํ. 9. Process according to claim 28, in which closed-end polyoxyl-kylene carbonyl acid (TPOAC) was prepared by reacting lactone with aliphatic carboxylic acids. Click In an inert atmosphere of 150 to 180 ํ in the presence of an ester catalyst, 3 0. The process for preparing the dispersant according to claim 19, which consists of the formation of the polymerization of lac Tone when monohydric alcohol or pimary or secandary monoamine To form closed-end polyoxylachene carbonyl (TPOAC) alcohol and the reaction of TPOAC alcohol with phosphate 3
1. สารผสมซึ่งประกอบรวมด้วยอนุภาคของแข็งและสารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 31. Mixture consisting of solid particles and dispersant according to claim 1 3.
2. สารกระจายตัว (dispersion) ซึ่งประกอบรวมด้วยสารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 อนุภาคของแข็งและตัวกลางอินทรีย์ 32. dispersion consisting of dispersion according to claim 1, solid particles and organic intermediates 3.
3. สารกระจายตัวตามข้อถือสิทธิข้อ 32 ซึ่งตัวกลางอินทรีย์นั้นคือ ของเหลวอินทรีย์แบบ มีขั้ว 33. Dispersant according to claim 32, which organic intermediates are Polar organic liquid 3
4. มิลล์-เบส ซึ่งประกอบรวมด้วย สารทำกระจายตามข้อสิทธิข้อ 1 อนุภาคของแข็งและ เรซินทำให้เกิดฟิล์ม 34. Mill - Bass, which includes Dispersing agent according to Clause 1, solid particles and 3 film-forming resin
5. สีทาหรือหมึกซึ่งประกอบรวมด้วย สารทำกระจายตามข้อถือสิทธิข้อ 1 35. Paint or ink which consists of Dispersed substances according to claim 1 3
6. กรดโพลิออกซีแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (TPOAC) ซึ่งมีสูตร 12 T-----(O-----V-----CO)n+p-----OH (12) ซึ่ง T คือ หมู่ปลายสุดของการเกิดโพลิเมอร์ V คือ ส่วน -( A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) A และ B แต่ละหมู่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันคือ หมู่ออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล ซึ่งได้มาจาก เดลตา-แวเลอโรแลคโทน, เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน หรือ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิล โดยมี ข้อแม้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน หรือ เดลตา-แวเลอโรแลคโทน n และ p คือ จำนวนเต็ม และ n + p คือ จาก 2 ถึง 100 36. Closed-end polyoxymethylcarbonyl acid (TPOAC) with the formula 12 T ----- (O ----- V ----- CO) n + p- ---- OH (12), where T is the apex of the polymerization, V is the - (A) n (B) p - part of the polyoxylkylene carbonyl chain (POAC) A. And B, each unrelated group is Oxylkylene carbonyl group derived from Delta-Valerolactone, Efilon-Caprolactone or Efilon-Caprolactone. Which are replaced by alkyls, with the condition that both are not Efcelon-caprolactone or delta-valerolactone n and p are integers and n + p is from 2 to 100 3.
7. โพลิออกซีแอลคิลีนคาร์บอนิลปลายปิด (TPOAC) แอลกอฮอล์ที่มีสูตร 13 D1-----J-----(CO-----V-----O)n+pH (13) ซึ่ง D1 คือ หมู่แอลิฟาทิคหรือแอลิไซคลิค J คือ O, NR หรือพันธะโดยตรง R คือ H แอลคิล, แอลเคนิล, ไซโคลแอลคิล หรือเฟนิล V คือ ส่วน -( A)n(B)p - ของโซ่โพลิออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิล (POAC) A และ B แต่ละหมู่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันคือ หมู่ออกซิแอลคิลีนคาร์บอนิลซึ่งได้มาจาก เดลตา-แวเลอโรแลคโทน, เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน หรือ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแอลคิลโดยมี ข้อแม้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่ เอฟซิลอน-แคโพรแลคโทน หรือ เดลตา-แวเลอโรแลคโทน n และ p คือจำนวนเต็ม และ n+p คือ จาก 2 ถึง 100 37.Polyoxyl, Kylene, Carbonyl, Closed End (TPOAC) Alcohol with formula 13 D1 ----- J ----- (CO ----- V ----- O) n + pH (13), where D1 is an aliphatic or anaicicylic group, J is O, NR or direct bond, R is H alkyl, LKenyl, cycloalke. L or phenyl V is the - (A) n (B) p - part of the polyoxylkylene carbonyl chain (POAC) A and B. The unrelated groups are Oxylkylene carbonyl group, which is derived from Delta-Valerolactone, Efilon-Caprolactone or Fcelon-Caprolactone Which is replaced by alkyls with Although both are not Efcelon-caprolactone or delta-valerolactone n and p are integers and n + p is from 2 to 100 3.
8. สีทาหรือหมึกพิมพ์ซึ่งประกอบรวมด้วย สารผสมตามข้อถือสิทธิข้อ 31 38. Paint or ink, which includes Mixture according to claim 31 3
9. สีทาหรือหมึกพิมพ์ซึ่งประกอบรวมด้วย มิลล์เบสตามข้อถือสิทธิข้อ 349. Paint or ink which consists of Millbase according to claim No. 34