Claims (4)
1. กระบวนการหนึ่งสำหรับแยกปรอทออกจากกระแสแก๊สธรรมชาติซึ่งประกอบด้วย ก) การให้กระแสแก๊สธรรมชาติสัมผัสกับไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ ปราศจากปรอทตัวหนึ่ง ซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลอยู่ระหว่าง 20-130 ในเขตสัมผัสแก๊ส/ของเหลว ข) การนำไฮโดรคาร์บอนเหลวที่อุดมด้วยปรอทแยกออกมาจากเขต สัมผัสแก๊ส/ของเหลว และ ค) การนำแก๊สซึ่งอุดมด้วยมีเธนและมีปริมาณปรอทน้อยๆ แยกออก มาจากเขตสัมผัสแก๊ส/ของเหลว ง) การนำปรอทแยกออกมาจากอย่างน้อยส่วนหนึ่งของไฮโดรคาร์บอน เหลวที่อุดมด้วยปรอท 2. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 โดยที่เขตสัมผัส แก๊ส/ของเหลว ดำเนินการภายในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 10 องศา เซลเซียส ถึง - 85 องศาเซลเซียส และให้อย่างน้อยส่วนใหญ่ ของไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากปรอทตัวที่หนึ่ง โดยปกติแล้ว อยู่ในสภาพแก๊ส 3. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 2 โดยที่เขตสัมผัส แก๊ส/ของเหลว ดำเนินการภายในช่วงความดันระหว่าง 17-105 กก./ดร.ซม.สัมบูรณ์ และภายในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 0 องศา เซลเซียส ถึง -75 องศาเซลเซียส 4. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 2 โดยที่แก๊สซึ่งอุดม ด้วยมีเธนและมีปริมาณปรอทน้อยๆ ซึ่งถูกนำแยกออกมาจากเขต สัมผัสแก๊ส/ของเหลว ได้รับการระบายความร้อน จนมีอุณหภูมิ อยู่ระหว่าง -30 องศาเซลเซียส ถึง -85 องศาเซลเซียส แล้ว สารไฮโดรคาร์บอนซึ่งหนักกว่ามีเธนถูกควบแน่นเป็นของเหลว และอย่างน้อยส่วนใหญ่ของแก๊สซึ่งอุดมด้วยมีเธนและมีปริมาณ ปรอทน้อยๆ จะได้รับการทำให้เป็นของเหลว 5. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 4 โดยที่ปรอทจะถูกแยกออก จากกระแสไฮโดรคาร์บอนควบแน่น ซึ่งหนักกว่ามีเธนที่ได้ได้ เป็นอย่างน้อยส่วนหนึ่งของไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากตัว ที่หนึ่งดังกล่าวนั้น 6. กระบสนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 2 หรือ 4 โดยที่ปรอทจะ ถูกแยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลวที่อุดมด้วยปรอทได้เป็น ไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากปรอทตัวที่สองกระแสหมุนเวียน กลับมีสภาพแก๊สในสภาวะปกติจะถูกแยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลว ที่ปราศจากปรอทตัวที่สอง และให้ไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งปราศ จากปรอทตัวที่หนึ่ง ประกอบด้วยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของกระแส หมุนเวียนกลับที่มีสภาพเป็นแก๊สในสภาวะปกติดังกล่าวนั้น 7. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 2 หรือ 4 ที่ซึ่งกระแส หมุนเวียนกลับที่มีสภาพเป็นแก๊สในสภาวะปกติจะถูกแยกออกจาก ไฮโดรคาร์บอนเหลวที่อุดมด้วยปรอท ให้ปรอทถูกแยกออกจากกระแส หมุนเวียนกลับที่มีสภาพเป็นแก๊สในสภาวะปกติ และให้ ไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งปราศจากปรอทตัวที่หนึ่ง ประกอบด้วย อย่างน้อยส่วนหนึ่งของแก๊สหมุนเวียนกลับที่มีสภาพเป็นแก๊ส ในสภาวะปกติซึ่งปราศจากปรอทดังกล่าวนั้น 8. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 7 โดยที่กระแสหมุนเวียน กลับสภาพแก๊สในสภาวะปกติได้รับการระบายความาร้อนจนมี อุณหภูมิระหว่าง -45 องศาเซลเซียส ถึง -160 องศาเซลเซียส แล้วจึงแยกปรอทออก 9. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 1 โดยที่เขตสัมผัส แก๊ส/ของเหลว ดำเนินการภายในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 40 องศา เซลเซียส ถึง -40 องศาเซลเซียส และอย่างน้อยส่วนใหญ่ของ ไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งปราศจากปรอทตัวที่หนึ่ง โดยปกติแล้วมี สภาพเป็นของเหลว 1 0. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 8 โดยที่เขตสัมผัส แก๊ส/ของเหลว มีความดันระหว่าง 7-140 กก./ตร.ซม.สัมบูรณ์ กระแสแก๊สธรรมชาติมีอุณหภูมิระหว่าง 40 องศาเซลเซียส ถึง -35 องศาเซลเซียส และไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งปราศจากปรอทตัว ที่หนึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 40 องศาเซลเซียส ถึง -45 องศา เซลเซียส 11. A process for separating mercury from the natural gas stream consists of a) exposing the natural gas stream to liquid hydrocarbons that Without one mercury The molecular weight is 20-130 in the gas / liquid contact zone. Exposure to gas / liquid, and c) conduction of methane-rich gas with a small amount of mercury separated from the gas / liquid contact zone; d) removal of mercury from at least part of the hydrocarbon. 2. The process of claim 1, where the gas / liquid contact zone operates within a temperature range between 10 ° C and - 85 ° C, and at least most of the time. Of first mercury-free liquid hydrocarbons, usually in a gas state 3.Process of claim No. 2, where the gas / liquid contact zone operates within a pressure range of 17-105 kg / dr. Cm. absolute And within the temperature range between 0 degrees Celsius and -75 degrees Celsius 4. Process of claim No. 2 where the gas is rich With methane and a small amount of mercury Which was separated from the district Contact gas / liquid It has been cooled to temperatures between -30 ° C and -85 ° C. Hydrocarbons, heavier than methane, are condensed into a liquid. And at least most of the methane-rich and low-mercury gases are liquefied. 5. Process of claim number 4, where mercury is separated. From condensed hydrocarbon currents Which is heavier than the methane obtained It is at least part of the dehydrated liquid hydrocarbons. First of all, 6. The function of claim 2 or 4, where mercury can be separated from mercury-rich liquid hydrocarbons as Second mercury-free liquid hydrocarbon, circulating current Back in the normal gas state, it is separated from liquid hydrocarbons. Without a second mercury And give liquid hydrocarbons, which without From the first mercury Consists of at least part of the current 7. The process of claim 2 or 4, in which the gas-gassed return current in normal conditions is separated from Liquid hydrocarbons rich in mercury Let mercury be separated from the stream The first mercury-free liquid hydrocarbon contains at least part of the gaseous recirculating gas. In normal conditions without such mercury, 8. Process of claim No. 7 where circulating current Reversing gas in normal conditions, has been ventilated with hot heat until there The temperature is between -45 ° C and -160 ° C, and mercury is separated. 9. Process of claim No. 1 where the gas / liquid contact zone operates within the temperature range between 40 ° C and -40 ° C and at least Most of First mercury-free liquid hydrocarbon. Usually have Liquidity 1 0. Process of claim No. 8 where the gas / liquid contact zone has a pressure between 7-140 kg / sq cm absolute. Natural gas currents have temperatures between 40 degrees Celsius and -35 degrees Celsius and mercury-free liquid hydrocarbons. One is between 40 degrees Celsius and -45 degrees Celsius.
1. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 9 โดยที่ได้ ไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งอุดมด้วยปรอทซึ่งได้มาจากเขตสัมผัส แก๊ส/ของเหลว ประกอบด้วยแก๊สโซลีน ให้กระแสซึ่งประกอบด้วย แก๊สโซลีนแยกออกจากไฮโดรคาร์เหลวซึ่งอุดมด้วยปรอท และให้ ปรอทถูกแยกออกจากอย่างน้อยส่วนหนึ่งของกระแสซึ่งประกอบด้วย แก๊สโซลีนประกอบเป็นไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากปรอทตัวที่ หนึ่ง 11. Process of claim No. 9 where mercury-rich liquid hydrocarbons are obtained from gas / liquid contact zone containing gasolines. Giving a stream consisting of Gasoline separates from liquid hydrocarbons which are rich in mercury and allow mercury to be separated from at least part of the current consisting of Gasoline is the first mercury-free liquid hydrocarbon 1
2. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 9 โดยที่ไฮโดรคาร์บอน เหลวซึ่งอุดมด้วยปรอทโดยได้มาจากเขตสัมผัสแก๊ส/ของเหลว ประกอบด้วยแก๊สโซลีน ให้ปรอทถูกแยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลว ที่อุดมด้วยปรอท เพื่อประกอบขึ้นเป็นไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ ปราศจากปรอทตัวที่สอง และไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากปรอท ตัวที่หนึ่งประกอบด้วยส่วนหนึ่งของไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศ จากปรอทตัวที่สอง 12. Process of claim No. 9, where hydrocarbons Liquid, rich in mercury, obtained from the gas / liquid contact zone Contains Gasoline Let mercury be separated from liquid hydrocarbons. Mercury-rich To make up liquid hydrocarbons that Without a second mercury And mercury-free liquid hydrocarbons The first is made up of part of the unsolved liquid hydrocarbon. From the second mercury 1
3. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 9 โดยที่ไฮโดรคาร์บอน เหลวซึ่งอุดมด้วยปรอทซึ่งได้มาจากเขตสัมผัสแก๊ส/ของเหลว ประกอบด้วยแก๊สโซลีน ให้ปรอทถูกแยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลว ที่อุดมด้วยปรอท เพื่อประกอบขึ้นเป็นไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ ปราศจากปรอทตัวที่สอง ให้กระแสซึ่งประกอบด้วยแก๊สโซลีนถูก แยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลวที่ปราศจากปรอทตัวที่สอง และ ไฮโดรคาร์บอน เหลวซึ่งปราศจากปรอทตัวที่หนึ่งประกอบด้วยอย่างน้อยส่วน หนึ่งของกระแสซึ่งประกอบด้วยแก๊สโซลีนที่แยกได้ 13. Process of claim No. 9, where hydrocarbons Mercury-rich liquid, which is obtained from the gas / liquid contact zone. Contains Gasoline Let mercury be separated from liquid hydrocarbons. Mercury-rich To make up liquid hydrocarbons that Without a second mercury Providing a current containing gas Separated from the second mercury-free liquid hydrocarbon and the first mercury-free liquid hydrocarbon, there is at least a fraction of One of the currents consisting of 1 isolated gasolines
4. กระบวนการของข้อถือสิทธิข้อที่ 1, หรือ 3 โดยที่ให้ ปรอทถูกแยกออกจากไฮโดรคาร์บอนเหลวซึ่งอุดมด้วยปรอทซึ่งได้ มาจากเขตสัมผัสแก๊ส/ของเหลวที่ช่วงอุณหภูมิระหว่าง -20 องศาเซลเซียส ถึง -100 องศาเซลเซียส (ข้อถือสิทธิ 14 ข้อ, 3 หน้า, 7 รูป)4. Process of claim 1, or 3 where mercury is separated from mercury-rich liquid hydrocarbons, which are Comes from a gas / liquid contact zone with a temperature range of -20 ° C to -100 ° C (14 Claims, 3 Pages, 7 Fig.).