Claims (5)
ข้อถือสิทธฺ์(ทั้งหมด)ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา:------04/12/2563------(OCR) 1.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีที่ซึ่งประกอบด้วยการทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ร่วมกับการประยุกต์ใช้แผ่นดิพสติค(dipstick)การทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)25ไมโครลิตรประกอบด้วยไพรเมอร์3และไพรเมอร์4อย่างละ50พิโคโมล,ไพรเมอร์1ไพรเมอร์2และไพรเมอร์5อย่างละ5พิโคโมล,ดีเอ็นทีพี(dNTP)0.8มิลลิโมลาริผสมด้วยสารเบตาอีน(betaine)0.6โมลาริ,สารแมกนีเซียมซัลเฟส(MgSOa)4มิลลิโมลาร์,เอนไซม์บีเอสทีดีเอ็นเอโพลีเมอเรส(BstDNApolymerase)8Uและสารละลายบัฟเฟอร์ด้วยการทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ที่อุณหภูมิ61องศาเซลเซียสเป็นเวลา45นาทีจากนั้นดูดสารละลายดังกล่าวจำนวน5ไมโครลิตรใส่ในหลอดใหม่ที่มีสารละลายบัฟเฟอร์100ไมโครลิตรที่อุณหภูมิห้องจากนั้นจุ่มแผ่นติพสติค(dipstick)ลงในสารละลาย5นาทีแล้วอ่านผลบนแผ่นดิพสติค(dipstick)เมื่อให้ผลบวกจะปรากฏเส้นทดสอบสีชมพูบริเวณแถบทดสอบ(T)และแถบควบคุม(C)แสดงว่าในตัวอย่างพบเชื้อสแตฟิลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)แต่ถ้าผลลบจะปรากฏเส้นทดสอบสีชมพูเฉพาะแถบควบคุม(C)เท่านั้นวิธีการนี้ไม่ต้องใช้เครื่องพีซีอาร์(PCRthermalcycler)และเครื่องแยกสารพันธุกรรมด้วยกระแสไฟฟ้าและเป็นการตรวจสอบหาเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแผ่นดิพสติค(dipstick)ในผู้ป่วยที่สงสัยการติดเชื้อนี้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและป้องกันการระบาดของโรคกรรมวิธีนี้ออกแบบไพรเมอร์สำหรับเทคนิคแลมป์(LAMP)ที่ใช้ในการตรวจเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ในปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ประกอบด้วยไพรเมอริ5เส้นที่จำเพาะต่อลำดับเบสของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเพส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทีซิลิน(methicillin)บนยีนเมคเอ(mecA)โดยให้ไพรเมอร์4ติดฉลากด้วยไบโอติน(biotin)หรือไดกอกซิเจนิน(Digoxigenin)และให้ไพรเมอร์5ติดฉลากด้วยสารเรืองแสง(FITC)ในการติดตามปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนแผ่นดิพสติค(dipstick)ดังนี้ไพรเมอร์1ลำดับเบส(5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAAไพรเมอร์2ลำดับเบส(5'-3')AgATACATTCTTTggAACgATgไพรเมอร์3ลำดับเบส(5'-3')TgCATTCCTggAATAATgACgCTTTTgTTAAAgAAgATggTATgTggAAgไพรเมอร์4ลำดับเบส(5'-3')ไบโอติน(biotin)/ไดกอกซิเจนิน(Digoxigenin)CAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCTgTAไพรเมอร์5ลำดับเบส(5'-3')FITC-AAACAATgTggAATTggCCA------------แก้ไข04/12/2561 หน้า1ของจำนวน2หน้าข้อถือสิทธิ 1.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีที่ซึ่งประกอบด้วยการทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ร่วมกับการประยุกต์ใช้แผ่นดิพสติค(dipstick)การทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)25ไมโครลิตรประกอบด้วยไพรเมอร์3และไพรเมอร์4อย่างละ50พิโคโมล,ไพรเมอร์1ไพรเมอร์2และไพรเมอร์5อย่างละ5พิโคโมล,ดีเอ็นทีพี(dNTP)0.8มิลลิโมลาร์ผสมด้วยสารเบตาอีน(betaine)0.6โมลาร์,สารแมกนีเซียมซัลเฟส(MgSO4)4มิลลิโมลาร์,เอนไซม์บีเอสทีดีเอ็นเอโพลีเมอเรส(BstDNApolymerase)8Uและสารละลายบัฟเฟอร์ด้วยการทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ที่อุณหภูมิ61องศาเซลเซียสเป็นเวลา45นาทีจากนั้นดูดสารละลายดังกล่าวจำนวน5ไมโครลิตรใส่ในหลอดใหม่ที่มีสารละลายบัฟเฟอร์100ไมโครลิตรที่อุณหภูมิห้องจากนั้นจุ่มแผ่นดิพสติค(dipstick)ลงในสารละลาย5นาทีแล้วอ่านผลบนแผ่นดิพสติค(dipstick)เมื่อให้ผลบวกจะปรากฏเส้นทดสอบสีชมพูบริเวณแถบทดสอบ(T)และแถบควบคุม(C)แสดงว่าในตัวอย่างพบเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)แต่ถ้าผลลบจะปรากฏเส้นทดสอบสีชมพูเฉพาะแถบควบคุม(C)เท่านั้นวิธีการนี้ไม่ต้องใช้เครื่องพีซีอาร์(PCRthermalcycler)และเครื่องแยกสารพันธุกรรมด้วยกระแสไฟฟ้าและเป็นการตรวจสอบหาเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแผ่นดิพสติค(dipstick)ในผู้ป่วยที่สงสัยการติดเชื้อนี้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและป้องกันการระบาดของโรคกรรมวิธีนี้ออกแบบไพรเมอร์สำหรับเทคนิคแลมป์(LAMP)ที่ใช้โนการตรวจเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ในปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ประกอบด้วยไพรเมอร์5เส้นที่จำเพาะต่อลำดับเบสของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)บนยีนเมคเอ(mecA)โดยให้โพรเมอร์4ติดฉลากด้วยไบโอติน(biotin)หรือไดกอกซิเจนิน(Digoxigenin)และให้ไพรเมอร์5ติดฉลากด้วยสารเรืองแสง(FITC)ในการติดตามปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนแผ่นดิพสติค(dipstick)ดังนี้ ไพรเมอร์1ลำดับเบส(5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAA ไพรเมอร์2ลำดับเบส(5'-3')AgATACATTCTTTggAACgAT ไพรเมอร์3ลำดับเบส(5'-3') TgCATTCCTggAATAATgACgCTTTTgTTAAAgAAgATggTATgTggAAg ไพรเมอร์4ลำดับเบส(5'-3') biotin/Dig-cAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCTgTA ไพรเมอร์5ลำดับเบส(5'-3') FITC-AAACAATgTggAATTggCCA Dig=Digoxigenin ---------------------------------------------------------------------------------------------------- หน้า1ของจำนวน2หน้า ข้อถือสิทธิClaims (all) which will not appear on the advertisement page:------04/12/2020------(OCR) Methicillin-resistant Staphylococcusaureus with colored bands consisting of LAMP reaction in combination with the application of a dipstick. The 25 µL lamp reaction (LAMP) consists of primer 3 and primer 4 each of 50 picomoles, primer 1, primer 2 and primer 5 each of 5 picomoles. Mol, DNTP (dNTP) 0.8 mmol, mixed with betaine (betaine) 0.6 molar, magnesium sulfate (MgSOa) 4 mmol, enzyme BST DNA po. The 8U lemurase (BstDNApolymerase) and LAMP reaction buffer solution (LAMP) were heated at 61°C for 45 min. The 5 μl of the solution was then aspirated into new tubes containing 100 μL buffer solution. At room temperature, dip the dipstick in the solution for 5 minutes and read the results on the dipstick. When positive, a pink test line appears near the test strip (T) and control strip (). C) indicates that methicillin-resistant Staphylococcusureus (m ethicillin) but if negative, a pink test line will appear only for the control strip (C). Aureus (methicillin-resistant Staphylococcusaureus) was applied with a dipstick in patients with suspected infection for the diagnosis and prevention of outbreaks. The LAMP technique used in the detection of methicillin-resistant Staphylococcusaureus in the LAMP reaction contains primeriamine. 5 strands specific to the sequence of methicillin-resistant Staphylococcusaureus on the mecA gene by having primer 4 labeled with biotin. Biotin or Digoxigenin and primer 5 was labeled with fluorescence (FITC) to monitor the reactions occurring on the dipstick as follows: 1sequence(5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAAprimer2sequence(5'-3')AgATACATTCTTTggAACgATgprimer3sequence (5'-3')TgCATTCCTggAATAATATgACgCTTTTTgTTAAAgAAgATggTATgTggAAgprimer Primer 4-base (5'-3')Biotin(biotin)/Digoxigenin(Digoxigenin)CAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCCTgTAPrimer5sequence(5'-3')FITC-AAACAATgTggAATTggCCA-- ----------Edit 04/12/2018 Page 1 of the number 2 claims page Method for detecting the mutant genes of methicillin-resistant Staphylococcusaureus with colored bands consisting of LAMP reaction with Application of 25 µl lamp reaction dipstick (LAMP) consisting of primer 3 and primer 4 each, 50 picomoles, primer 1 primer. 2 and primer 5 each 5 picomoles, 0.8 mmolar DNTP (dNTP) mixed with 0.6 molar betaine, magnesium sulfate (MgSO4). 4 mmol, BstDNApolymerase 8U enzyme and buffer solution by LAMP reaction (LAMP) at 61°C for 45 min. The solution was then aspirated. 5 µL were placed in a new tube containing 100 µL buffered solution at room temperature, then immersed in the dipstick for 5 min and read the results on the dipstick. A positive result appears. The pink test line around the test strip (T) and control strip (C) indicates that the methicillin-resistant Staphylococcusaureus (Staphylococcusaureus) is found in the sample, but if negative a line will appear. Test pink only on control bar (C), this method does not This requires the use of a PCR (PCRthermalcycler) and an electrolysis separator and to detect methicillin-resistant Staphylococcusaureus (Methicillin-resistant Staphylococcusaureus). A dipstick in suspected cases of infection for the diagnosis and prevention of this disease outbreak is designed as a primer for the LAMP technique using no staphylococcus aureus. Methicillin-resistant Staphylococcusaureus in LAMP consists of a sequence-specific five-line primer for Staphylococcusaureus. methicillin-resistant on the mecA gene, promer4 was labeled with biotin or digoxigenin and given primate. The following are the following: Primer 1 base sequence (5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAA Primer 2 base sequence (5'-3')AgATACATTCTTTggAACgAT Primer 3 base sequence (5'-3') TgCATTCCTggAATAATgACgCTTTtgTTAAAgAAgATggTATgTggAAg Primer 4 base sequence (5'-3') biotin/Dig-cAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCTgTA Primer 5 bases (5'-3') FITC-AAACAATgTggAATTggCCA Dig=Digoxigenin ------------------------------ ---------------------------------------------------- -------------------- Page 1 of 2 pages Claims
1.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีที่ซึ่งประกอบด้วยการทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ร่วมกับการประยุกต์ใช้แผ่นดิพสติค(dipstick)ภายในปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)25ไมใครลิตรประกอบด้วยไพรเมอร์3และไพรเมอร์4อย่างละ50พิโคโมล,ไพรเมอร์1ไพรเมอร์2และไพรเมอร์5อย่างละ5พิโคโมล,ดีเอ็นทีพี(dNTP)0.8มิลลิโมลาร์ผสมด้วยสารเบตาอีน(betaine)0.6โมลาร์,สารแมกนีเซียมซัลเฟส(MgSOa)4มิลลิโมลาร์,เอนไซม์บีเอสทีดีเอ็นเอโพลีเมอเรส(BstDNApolymerase)8Uและสารละลายบัฟเฟอร์ใช้โนการตรวจลำดับเบสของยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)บนยีนเมคเอ(mecA)การออกแบบไพรเมอร์สำหรับเทคนิคแลมป์(LAMP)ที่ใช้โนการตรวจเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ในปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ประกอบด้วยไพรเมอร์5เส้นที่จำเพาะต่อลำดับเบสของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)บนยีนเมคเอ(mecA)โดยให้โพรเมอร์4ติดฉลากด้วยไบโอติน(biotin)หรือไดกอกซิเจนิน(Digoxigenin)และให้ไพรเมอร์5ติดฉลากด้วยสารเรืองแสง(FITC)ในการติดตามปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนแผ่นดิพสติค(dipstick)ดังนี้ ไพรเมอร์1ลำดับเบส(5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAA ไพรเมอร์2ลำดับเบส(5'-3')AgATACATTCTTTggAACgAT ไพรเมอร์3ลำดับเบส(5'-3') TgCATTCCTggAATAATgACgCTTTTgTTAAAgAAgATggTATgTggAAg ไพรเมอร์4ลำดับเบส(5'-3') biotin/Dig-cAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCTgTA ไพรเมอร์5ลำดับเบส(5'-3') FITC-AAACAATgTggAATTggCCA Dig=DigoxigeninMethod for detecting the mutant genes of methicillin-resistant Staphylococcusaureus with colored bands consisting of LAMP reaction with Application of the dipstick within the lamp reaction (LAMP) 25 mL consisted of primer 3 and primer 4 each, 50 picomoles, primer 1 primer. Hydrogen 2 and primer 5 each 5 picomoles, 0.8 mmol DNTP (dNTP) mixed with 0.6 molar betaine, magnesium sulfate (MgSOa). 4 mmolar enzymes, BstDNApolymerase 8U and buffer solution were used for sequencing of Staphylococcus aureus mutant genes. A primer design for the LAMP technique based on the methicillin-resistant Staphylococcus aureus (Staphylococcusaureus) assay Methicillin-resistant methicillin in the LAMP reaction consists of five primers specific to the sequence of methicillin-resistant Staphylococcus aureus. (methicillin) on the mecA gene by having promer4 labeled with biotin or digoxygen. Digoxigenin and primer 5 were labeled with fluorescence (FITC) to monitor the reactions occurring on the dipstick as follows: Primer 1 base sequence (5'-3')CATTgATCgCAACgTTCAA Primer 2 base sequence (5'-3')AgATACATTCTTTggAACgAT Primer 3 base sequence (5'-3') TgCATTCCTggAATAATgACgCTTTtgTTAAAgAAgATggTATgTggAAg Primer 4 base sequence (5'-3') biotin/Dig-cAgAACgTggTAAAATTTTAgACCgTTTTCCTAATCTCATATgTgTTCCTgTA Primer 5 bases (5'-3') FITC-AAACAATgTggAATTggCCA Dig=Digoxigenin
2.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีตามข้อถือสิทธิ1ที่ซึ่งสภาวะที่เหมาะสมในการตรวจผลผลิตจากแลมป์(LAMP)บนแผ่นดิพสติค(dipstick)มีลักษณะเฉพาะคือทำปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)ที่อุณหภูมิ61องศาเซลเซียสเป็นเวลา45นาทีแล้วดูดสารละลายดังกล่าวจำนวน5ไมโครลิตรใส่ในหลอดที่มีสารละลายบัฟเฟอร์100ไมโครลิตรที่อุณหภูมิห้องจากนั้นจุ่มแผ่นดิพสติค(dipstick)ลงในสารละลาย5นาทีแล้วอ่านผล2. The mutant gene assay of methicillin-resistant Staphylococcusaureus with the color band according to claim 1 at which conditions are suitable for product assays. From the lamp (LAMP) on the dipstick (LAMP) is characterized by a lamp reaction (LAMP) at 61 degrees Celsius for 45 minutes and then sucked the 5 microliters of such solution into a tube containing 100 µL buffer solution at room temperature, then dip the dipstick in the solution for 5 minutes and read the results.
3.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัลออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทีซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีตามข้อถือสิทธิ1ที่ซึ่งปฏิกิริยาแลมป์(LAMP)มีขนตอนการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทีซิลิน(methicillin)เป็นเวลา45นาทีที่อุณหภูมิ61องศาเซลเซียสโดยให้ไพรเมอร์4ติดฉลากด้วยไบโอติน(biotin)หรือไดกอกซิเจนิน(Digoxigenin)และให้ไพรเมอร์5ติดฉลากด้วยสารเรืองแสง(FITC)ในการติดตามปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นด้วยการอ่านผลบนแผ่นดิพสติค(dipstick)เมื่อให้ผลบวกจะปรากฏเส้นทดสอบสีชมพูบริเวณแถบทดสอบ(T)และแถบควบคุม(C)แสดงว่าในตัวอย่างพบเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทีซิลิน(methicillin)แต่ถ้าผลลบจะปรากฏเส้นทดสอบสีซมพูเฉพาะแถบควบคุม(C)เท่านั้น หน้า2ของจำนวน2หน้า3. Method for ascertaining the mutant genes of methicillin-resistant Staphylococccusaureus with the color band according to claim 1, where the lamp reaction ( LAMP was inoculated with methicillin-resistant Staphylococcusaureus for 45 min at 61°C by primer 4. Label with biotin or digoxigenin and have primer 5 labeled with fluorescent agent (FITC) to monitor the reaction by reading the results on the soil. A dipstick, when positive, shows a pink test line on the test strip (T) and control strip (C), indicating that in the sample, Staphylococccusaureus-resistant Staphylococcusaureus was found. Lin (methicillin), but if negative, a pink test line appears only in the control strip (C). Page 2 of the number 2 pages
4.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีตามข้อถือสิทธิ1ที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือไม่ต้องใช้เครื่องพีซีอาร์(PCRthermalcycler)และเครื่องแยกสารพันธุกรรมด้วยกระแสไฟฟ้า4. The method for detecting the mutant genes of methicillin-resistant Staphylococccusaureus with the color band according to claim 1, which is characterized by that it does not require A PCR (PCRthermalcycler) and an electrolysis separator.
5.กรรมวิธีการตรวจสอบยีนกลายพันธุ์ของเชื้อสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีตามข้อถือสิทธิ1ที่ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจสอบหาเชื้อสแตฟิโลค็อกคัศออเรียส(Staphylococcusaureus)ที่ดื้อยาเมทิซิลิน(methicillin)ด้วยแถบสีในผู้ป่วยที่สงสัยการติดเชื้อนี้เพื่อการตรวจวินิจฉัยและป้องกันการระบาดของโรค5. The method for detecting the mutant genes of methicillin-resistant Staphylococcusaureus with the color band according to claim 1, which is an assay technique. Staphylococccusaureus with colored bands on methicillin-resistant staphylococcusaureus in patients with suspected infection for the diagnosis and prevention of outbreaks.