TH166803A - อุปกรณ์และวิธีการสำหรับการรักษาด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์แบบหลายโฟกัส - Google Patents

Claims (2)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :------17/10/2560------(OCR) หน้า 1 ของจำนวน 4 หน้า ขอถือสิทธิ 1. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามด้วยอัลตร้าซาวด์สำหรับการสร้างชุดโฟกัสหลายชุดด้วย อัลตร้าซาวด์ทรานสดิวเซอร์ (ultrasound transducer) ซึ่งประกอบด้วย หัวอัลตร้าโซนึกแบบโพรบ (ultrasonic probe) ซึ่งประกอบด้วย อัลตร้าซาวต์ทรานสดิวเซอร์ซึ่ง ถูกตั้งค่าเพื่อใช้ในการรักษาด้วยอัลตร้าโซนึกให้กับเนื้อเยื่อที่ตำแหน่งต่างๆ ที่ระยะความลึกเป้าหมาย ด้วยอย่างน้อยหนึ่งวิธีการของกลุ่มซึ่งประกอบด้วย การโพลลิ่งแบบมอดูเลตเชิงแอมพลิจูด และการ เลื่อนเฟส และ โมลูลของการควบคุมซึ่งร่วมกับหัวอัลตร้าโซนิกแบบโพรบสำหรับการควบคุมอัลตร้าซาวต์ ทรานสดิวเซอร์ ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ถูกวางเป็นลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญภายในบริเวณของการรักษาด้านเวช สำอาง และอัลตร้าซาวต์ทรานสดิวเซอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบของการแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวต์ แบบเดี่ยว อัลตร้าซาวต์ทรานสดิวเซอร์ถูกตั้งค่าเพื่อสร้างชุดรวมพลังงานซึ่งทำให้เกิดความร้อนหลายชุด ในเนื้อเยื่อพร้อมกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยการใช้อัลตร้าซาวด์ในการรักษา 2.ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งชุดที่หนึ่งของการวางตำแหน่งถูกจัด วางภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง และชุดที่สองของการวางตำแหน่งถูกจัดวาง ภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง ซึ่งบริเวณที่หนึ่งเป็นบริเวณที่แตกต่างกับบริเวณที่สอง 3. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อถือสิทธิ 2 ซึ่งบริเวณที่หนึ่งของการรักษาด้านเวช สำอางประกอบด้วยชุดที่หนึ่งของการวางตำแหน่งซึ่งเป็นลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญ และบริเวณที่ สองของการรักษาด้านเวชสำอางประกอบด้วยชุดที่สองของการวางตำแหน่งซึ่งเป็นลำดับเชิงเส้นอย่างมี นัยสำคัญ หน้า 2 ของจำนวน 4 หน้า 4. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-3 ซึ่งอัลตร้าซาวด์ ทรานสดิวเซอร์ถูกตั้งค่าเพื่อใช้ในการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกซึ่งใช้การมอสูเลตเชิงแอมพลิจูดโดยอาศัย การกำหนดค่าการแบ่งสัดส่วนที่หลากหลายของอัลตร้าซาวด์ทรานสดิวเซอร์ให้ปล่อยการรักษาด้วย อัลตร้าโซนิกที่หลายแอมพลิจูดของความเข้มเสียงโดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูด ที่สอง 5. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-3 ซึ่งอัลตร้าซาวต์ ทรานสดิวเซอร์ถูกตั้งค่าการเลื่อนเฟสเพื่อใช้ในการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกซึ่งอาศัยการกำหนดค่าการ แบ่งสัดส่วนที่หลากหลายของอัลตร้าซาวด์ทรานสดิวเซอร์ให้ปล่อยการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกที่หลาย เฟสของความเข้มเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 6. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-3 ซึ่งอัลตร้าซาวด์ ทรานสดิวเซอร์ถูกตั้งค่าเพื่อ การใช้ในการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกซึ่งใช้การมอลูเลตแอมพลิจูดโดยอาศัยการกำหนดค่าการ แบ่งสัดส่วนที่หลากหลายของอัลตร้าซาวต์ทรานสดิวเซอร์ให้ปล่อยการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกที่หลาย แอมพลิจูดของความเข้มเสียงโดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง และ การใช้การเลื่อนเฟสในการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกซึ่งอาศัยการกำหนดค่าการแบ่งสัดส่วนที่ หลากหลายของอัลตร้าซาวต์ทรานสดิวเซอร์ให้ปล่อยการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกที่หลายเฟสของความ เข้มเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 7. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 5 และ 6 ซึ่งเฟสต่างๆ ประกอบด้วยเฟสแบบไม่ต่อเนื่อง (discrete phase) 8. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 4, 6 และ 7 ซึ่งอัลตร้า ซาวต์ทรานสดิวเซอร์ประกอบด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (piezoelectric materials) และส่วนต่างๆ หน้า 3 ของจำนวน 4 หน้า ของอัลตร้าซาวต์ทรานสคิวเซอร์ซึ่งถูกตั้งค่าให้สร้างการผันแปรต่างๆ ที่สอดคล้องกันของวัสดุเพียโซอิ เล็กทริกในการตอบสนองต่อสนามไฟฟ้าซึ่งนำมาใช้กับอัลตร้าซาวด์ทรานสดิวเซอร์ 9. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อถือสิทธิ 8 ซึ่งการผันแปรต่างๆ ของวัสดุเพียโซ- อเล็กทริกประกอบด้วยอย่างน้อยหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในการขยายตัวของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และการ หดตัวของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก 1 0. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 8-9 ซึ่งอย่างน้อยส่วน หนึ่งของอัลตร้าโซนิกทรานสดิวเชอร์ (ultrasonic transducer) ถูกตั้งค่าให้ปล่อยการรักษาด้วยอัลตร้า โซนิกที่สองแอมพลิจูด หรือมากกว่านั้นของความเข้มเสียง และซึ่งแอมพลิจูดของการรักษาด้วยอัลตร้า โซนิกถูกปล่อยโดยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของความผันผวนของเพียโซอิเล็กทริกตลอดเวลา 1 1. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-10 ซึ่งประกอบ เพิ่มเติมด้วยกลไกการเคลื่อนที่ซึ่งถูกตั้งค่าเป็นโปรแกรมเพื่อให้ได้ระยะห่างที่ผันแปรระหว่างบริเวณ ต่างๆ ของการรักษาด้านเวชสำอางแต่ละชุด 1 2. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-10 ซึ่งลำดับของ บริเวณการรักษาด้านเวชสำอางแต่ละชุดมีระยะห่างของการรักษาอยู่ในช่วงตั้งแต่ประมาณ 0.01 มิลลิเมตร ถึงประมาณ 25 มิลลิเมตร 1 3. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-10 ซึ่งการรักษาด้วย อัลตร้าโซนิกคืออย่างน้อยหนึ่งวิธีของการดึงหน้า, การดึงคิ้ว, การดึงคาง, การรักษาดวงตา, การลดริ้ว รอย, การลดรอยแผลเป็น, การรักษาแผลไหม้, การกำจัดรอยสัก, การกระชับผิว,การกำจัดเส้นเลือดขอด, การลดเส้นเลือดขอด, การรักษาเกี่ยวกับต่อมเหงื่อ, การรักษาภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ, การกำจัดกระ แดด, การสลายไขมัน, การฟื้นฟูช่องคลอด และการรักษาสิว 1 4. ระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-10 ซึ่งอัลตร้าโซนิก ทรานสดิวเซอร์ถูกกำหนดค่าให้กำลังคลื่นเสียงของการรักษาด้วยอัลตร้าโซนิกอยู่ในช่วงระหว่าง หน้า 4 ของจำนวน 4 หน้า ประมาณ 1 วัตต์ ถึงประมาณ 100 วัตต์ และความถี่เป็นประมาณ 1 เมกะเฮิรตซ์ ถึงประมาณ 10 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้เกิดการรวมพลังงานซึ่งทำให้เกิดความร้อนเพื่อสร้างความร้อนแก่เนื้อเยื่อ 1 5. การใช้ของระบบการทรีตเมนต์เสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-14 สำหรับการรักษาทางเวชสำอางแบบนอนอินเวซีฟของผิวหนัง ------------ คำขอใหม่ปรับปรุงวันที่ 27/02/2559 1. ระบบการรักษาเสริมความงามด้วยอัลตร้าซาวด์สำหรับการสร้างจุดโฟกัสหลายจุดด้วยตัว แปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ (ultrasound transducer) ซึ่งประกอบด้วย หัวอัลตร้าซาวด์ (ultrasonic probe) ซึ่งประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ที่ถูกตั้งค่า เพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการ โฟกัสด้วยอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มซึ่งประกอบด้วย การโพลิง (poling) แบบมอดูเลตเชิงแอมพลิจูด และการ เลื่อนเฟส และ โมดูลควบคุมซึ่งเชื่อมต่อกับหัวอัลตร้าโซนิคสำหรับการควบคุมตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ 2. ระบบการรักษาเสริมความงามข้อถือสิทธิ 1 ซึ่งบริเวณต่างๆ ถูกระบุตำแหน่งเป็นการ เรียงลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอาง และตัวแปลงสัญญาณ อัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยองค์ประกอบของการแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์แบบเดี่ยว 3. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิก่อนหน้า ซึ่งการกำหนด ตำแหน่งที่หนึ่งถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง และการกำหนดตำแหน่งที่ สองถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง ซึ่งบริเวณที่หนึ่งมีความแตกต่างจาก บริเวณที่สอง 4. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 3 ซึ่งบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง ประกอบด้วย การเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่หนึ่ง และบริเวณการรักษา ด้านเวชสำอางที่สองประกอบด้วยการเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่สอง 5. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1 - 4 ซึ่งตัวแปลงสัญญาณ อัลตร้าซาวด์ที่ถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยใช้การมอดูเลตแอมพลิ จูดซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงที่แอมพลิจุดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจุดที่หนึ่งแตกต่างกับแอม พลิจุดที่สอง 6. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1 - 4 ซึ่งตัวแปลงสัญญาณ อัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการ ตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟส ต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 7. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1 - 4 ซึ่งตัวแปลงสัญญาณ อัลตร้าซาวด์ที่ถูกตั้งค่าเพื่อ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดโดยอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แอมพลิจุด ต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง และ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของความเข้ม ของคลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 8. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 6 และ 7 ซึ่งเฟสต่างๆ ประกอบด้วยค่าดีสครีสเฟส (discrete phase) 9. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 5, 7 และ 8 ซึ่งตัวแปลง สัญญาณอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (piezoelectic materials) และส่วนต่างๆ ของ ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่าให้สร้างการผันแปรต่างๆ ที่สอดคล้องกันของวัสดุ เพียโซอิเล็กทริกในการตอบนองต่อนามไฟฟ้าซึ่งประยุกต์ใช้กับตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ 1 0. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 9 ซึ่งการผันแปรต่างๆ ของวัสดุ เพียโซอิเล็กทริกประกอบด้วยการยืดออกของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และการหดเข้าของวัสดุเพียโซอิ เล็กทริกอย่างน้อยหนึ่งแบบ 1 1. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 5 และ 7-10 ซึ่งอย่างน้อย ส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ (ultrasonic transducer) ถูกตั้งค่าให้ปล่อยการรักษา ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่สองแอมพลิจูด หรือมากกว่านั้นของความเข้มของคลื่นเสียง และซึ่งแอมพลิ จูดของการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงถูกปล่อยโดยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของความผันผวนของ เพียโซอิเล้กทริกตลอดเวลา 1 2. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-11 ซึ่งประกอบเพิ่มเติม ด้วยกลไกการเคลื่อนที่ซึ่งถูกตั้งค่าเป็นโปรแกรมเพื่อให้ได้ระยะห่างผันแปรระหว่างบริเวณต่างๆ ของ การรักษาด้านเวชสำอางแต่ละจุด 1 3. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-11 ซึ่งการเรียงลำดับของ แต่ละบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางมีระยะห่างของการทรีตเมนต์อยู่ในช่วงตั้งแต่ประมาณ 0.01 มิลลิเมตร ถึงประมาณ 25 มิลลิเมตร 1 4. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-11 ซึ่งการรักษาด้วยคลื่น เสียงความถี่สูงคืออย่างน้อยหนึ่งวิธีการของการดึงหน้า, การดึงคิ้ว, การดึงคาง, การทริตเมนต์ตา, การลด ริ้วรอย, การลดรอยแผลเป็น, การรักษาแผลไหม้, การกำจัดรอยสัก, การกระชับผิว, การกำจัดเส้นเลือด ขอด, การลดเส้นเลือดขอด, การทรีตเมนต์บนต่อมเหงื่อ, การรักษาภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ, การ กำจัดกระแดด, การทรีตเมนต์ไขมัน, การฟื้นฟูช่องคลอด และการรักษาสิว 1 5. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-11 ซึ่งอุปกรณ์ตัวแปลง สัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อให้ได้การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีกำลังของคลื่นเสียงอยู่ ในช่วงระหว่างประมาณ 1W ถึงประมาณ 100W และความถี่เป็นประมาณ 1 MHz ถึงประมาณ10 MHz เพื่อสร้างความร้อนแก่เนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด 1 6. ระบบการรักษาเสริมความงามเพื่อใช้ในการรักษาด้านเวชสำอางสำหรับการสร้างจุดโฟกัส หลายจุดด้วยตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ ซึ่งระบบประกอบด้วย หัวอัลตร้าซาวด์ซึ่งประกอบด้วย สวิตซ์ที่หนึ่งซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการวินิจฉัยด้วยอัลตร้าซาวด์สำหรับการจัด เตรียมการวินิจฉัยด้วยอัลตร้าซาวด์ สวิตซ์ที่สองซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับการ จัดเตรียมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และ กลไกการเคลื่อนที่ซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงในอย่าง น้อยหนึ่งการเรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน และ โมดูลการแปลงสัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ สูงด้วยอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มซึงประกอบด้วย การโพลิงแบบมอดูเลตเชิงแอมพลิจุด และการเลื่อน เฟส ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าสำหรับทั้งการวินิจฉัยด้วยอัลตร้าซาวด์ และการ รักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าสำหรับการเชื่อมต่อกับหัวอัลตร้าซาวด์ ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณประกอบด้วยตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่า เพื่อประยุกซ์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อที่ตำแหน่งต่างๆ ที่อยู่ลึก สำหรับการโฟกัส ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณถูกกำหนดค่าเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อกันของสวิตซ์ที่หนึ่ง, สวิตว์ที่สอง และกลไกการเคลื่อนที่อย่างน้อยหนึ่งตัว และ โมดูลควบคุม ซึ่งโมดูลควบคุมประกอบด้วยหน่วยประมวลผลและหน่วยแสดงผลสำหรับการ ควบคุมโมดูลการแปลงสัญญาณ 1 7. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 16 ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ถูกระบุตำแหน่งเป็น การเรียงลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอาง 1 8. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-17 ซึ่งการกำหนด ตำแหน่งที่หนึ่งถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง และการกำหนดตำแหน่งที่ สองถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง ซึ่งบริเวณที่หนึ่งมีความแตกต่างจาก บริเวณที่สอง 1 9. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 18 ซึ่งบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง ประกอบด้วย การเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่หนึ่ง และบริเวณการรักษา ด้านเวชสำอางที่สองประกอบด้วยการเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่สอง 2 0. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-19 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดซึ่ง อาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ แอมพลิจูดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง 2 1. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-20 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของ ความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 2 2. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-21 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดโดยอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แอมพลิจูดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง และ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของความเข้มของ คลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 2 3. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 21 และ22 ซึ่งเฟสต่างๆ ปรกอบด้วยค่าดีสครีสเฟส 2 4. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 20, 22 และ 23 ซึ่งโมดูล การแปลงสัญญาณประกอบด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณซึ่ง ถูกตั้งค่าให้สร้างการผันแปรต่างๆ ที่สอดคล้องกันของวัสดุเพียโซอิเล็กทริกในการตอบสนองต่อ สนามไฟฟ้าซึ่งประยุกต์ใช้กับโมดูลการแปลงสัญญาณ 2 5. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 24 ซึ่งการผันแปรต่างๆ ของวัสดุเพียโซอิ เล็กทริกประกอบด้วยการยืดออกของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และการหดเข้าของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก อย่างน้อยหนึ่งแบบ 2 6. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 20 และ 22-25 ซึ่งอย่าง น้อยส่วนหนึ่งของโมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่สอง แอมพลิจูด หรือมากกว่านั้นของความเข้มของคลื่นเสียง และซึ่งแอมพลิจูดของการรักษาด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงถูกปล่อยโดยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของความผันผวนของโมดูลการแปลงสัญญาณตลอดเวลา 2 7. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งกลไกการ เคลื่อนที่ถูกตั้งค่าเป็นโปรแกรมเพื่อให้ได้ระยะห่างผันแปรระหว่างบริเวณต่างๆ ของการรักษาด้านเวช สำอางด้วยความร้อนแต่ละชุด 2 8. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งการเรียงลำดับ ของแต่ละบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางด้วยความร้อนมีระยะห่างของการทรีตเมนต์อยู่ในช่วง ตั้งแต่ประมาณ 0.01มิลลิเมตร ถึงประมาณ 25 มิลลิเมตร 2 9. ระบบการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งสวิตซ์ที่หนึ่งและ สวิตซ์ที่สองประกอบด้วยปุ่มกดหรืดแป้นคีย์สำหรับผู้ใช้งาน 3 0. ระบบการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งสวิตซ์ที่หนึ่งและ สวิตซ์ที่สองอย่างน้อยหนึ่งตัวถูกเปิดใช้งานโดยโมดูลควบคุม 3 1. ระบบการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งฟังก์ชันการทรีต เมนต์คืออย่างน้อยหนึ่งวิธีของการดึงหน้า, การดึงคิ้ว, การดึงคาง, การทริตเมนต์ตา, การลดริ้วรอย, การ ลดรอยแผลเป็น, การรักษาแผลไหม้, การกำจัดรอยสัก, การกระชับผิว, การกำจัดเส้นเลือดขอด, การลด เส้นเลือดขอด, การทรีตเมนต์บนต่อมเหงื่อ, การรักษาภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ, การกำจัดกระแดด, การทรีตเมนต์ไขมัน, การฟื้นฟูช่องคลอด และการรักษาสิว 3 2. ระบบการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 16-26 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อให้ได้การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีกำลังของคลื่นเสียงอยู่ในช่วงระหว่าง ประมาณ 1W ถึงประมาณ 100W และความถี่เป็นประมาณ 1 MHz ถึงประมาณ 10 MHz เพื่อสร้างความ ร้อนแก่เนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด 3 3. ระบบการรักษา, ระบบซึ่งประกอบด้วย อุปกรณ์ควบคุมซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับการจัด เตรียมรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และ แท่งจับ (hand wand) ซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงในการ เรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน, ซึ่งแท่งจับประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยัง เนื้อเยื่อในบริเวณที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส, บริเวณที่ถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณของการ รักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน ซึ่งตัวแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าเพิ่มเติมเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ สูงไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส 3 4. วิธีการดำเนินการของขั้นตอนการเสริมความงามแบบนอนอินเวซีฟ (non-invasive) บน ผิวพรรณโดยการสร้างจุดโฟกัสหลายจุดด้วยตัวแปลงสัญญาณเดี่ยว, ซึ่งวิธีการประกอบด้วย การเชื่อมต่อโมดูลการแปลงสัญญาณกับหัวอัลตร้าซาวด์ ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยสวิตซ์ที่หนึ่งซึ่งใช้ควบคุมการวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียง ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยสวิตซ์ที่สองซึ่งใช้ควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงสำหรับการ ทำให้เกิดบริเวณต่างๆ ของการรักษาทางเวชสำอางแต่ละจุด ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยกลไกการเคลื่อนที่เพื่อจัดเตรียมระยะห่างที่ต้องการระหว่างแต่ ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอาง การสัมผัสโมดูลการแปลงสัญญาณกับผิวหนังของผู้ที่ต้องการเสริมความงาม การเปิดใช้สวิตซ์ที่หนึ่งบนหัวอัลตร้าซาวด์เพื่อการวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียง, พร้อมกับโมดูลการ เเปลงสัญญาณ, บริเวณใต้ผิวหนัง และ การเปิดใช้สวิตซ์ที่สองบนหัวอัลตร้าซาวด์เพื่อทรีตคลื่นเสียง, ด้วยโมดูลการแปลงสัญญาณ, บริเวณใต้ผิวหนังในการเรียงลำดับที่ต้องการของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอาง ซึ่งถูก ควบคุมโดยกลไกการเคลื่อนที่ ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณประกอบด้วยตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์แบบเดี่ยวซึ่งถูกตั้งค่า เพื่อปะยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการ โฟกัส 3 5. ระบบการรักษาเสริมความงามสำหรับการสร้างจุดโพกัสหลายจุดในเนื้อเยื่อด้วยตัวแปลง สัญญาณอัลตร้าซาวด์ ซึ่งระบบประกอบด้วย อุปกรณ์ควบคุมซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับจัด เตรียมการรักษาด้วยคลื่นความถี่สูง และ แท่งจับซึ่งถูกตั้งค่าใช้ในการควบคุมการรักษาด้วยคลื่นความถี่สูงในการเรียงลำดับของแต่ละ บริเวณของการรักษาด้วยทางเวชสำอางความร้อน ซึ่งแท่งจำประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อ ในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส 3 6. การใช้ระบบการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 1-33 และ 35 สำหรับการรักษาทางเวชสำอางแบบนอนอินเวซีฟของผิวพรรณ 3 7. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามสำหรับใช้ในการรักษาทางเวชสำอาง ซึ่ง ระบบประกอบด้วย หัวอัตราซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่าสำหรับการวินิจฉัยด้วยอัตร้าซาวด์ และการรักษาด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงของเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส ซึ่งประกอบด้วย โมดูลการแปลงสัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าสำหรับการเชื่อมต่อหัวอัลตร้าซาวด์ ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่า เพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกต่อ การโฟกัส สวิตซ์ที่หนึ่งซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการวินิจฉัยด้วยอัลตร้าซาวด์สำหรับการจัด เตรียมการวินิจฉัยด้วยอัลตร้าซาวด์ สวิตซ์ที่สองซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับการ จัดเตรียมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และ กลไกการเคลื่อนที่ซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงในอย่าง น้อยหนึ่งการเรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน และ ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อกับสวิตซ์ที่หนึ่ง, สวิตซ์ ที่สอง และกลไกการเคลื่อนที่ อย่างน้อยหนึ่งตัว และโมดูลควบคุม ซึ่งโมดูลควบคุมประกอบด้วยหน่วยประมวลผลและหน่วยแสดงผลสำหรับการ ควบคุมโมดูลการแปลงสัญญาณ 3 8. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 37 ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ถูกระบุ ตำแหน่งเป็นการเรียงลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอาง 3 9. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 37 ซึ่งการกำหนดตำแหน่งที่ หนึ่งถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง และการกำหนดตำแหน่งที่สองถูก ระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง ซึ่งบริเวณที่หนึ่งมีความแตกต่างจากบริเวณที่ สอง 4 0. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 39 ซึ่งบริเวณการรักษาด้าน เวชสำอางที่หนึ่งประกอบด้วย การเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่หนึ่ง และ บริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สองประกอบด้วยการเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนด ตำแหน่งที่สอง 4 1. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 37 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดซึ่ง อาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แอม พลิจูดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง 4 2. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 37 ซึ่งโมดูลการแปลง สัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนซึ่งอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของ ความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 4 3. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง โมดูลการแปลงสัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดโดยอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แอมพลิจูดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง และ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลงสัญญาณให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของความเข้มของ คลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 4 4. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 43 ซึ่งเฟสต่างๆ ประกอบด้วยค่าดีสครีสเฟส 4 5. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง โมดูลการแปลงสัญญาณประกอบด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และส่วนต่างๆ ของโมดูลการแปลง สัญญาณซึ่งถูกตั้งค่าให้สร้างการผันแปรต่างๆ ที่สอดคล้องกันของวัสดุเพียโซอิเล็กทริกในการ ตอบสนองต่อสนามไฟฟ้าซึ่งประยุกต์ใช้กับโมดูลการแปลงสัญญาณ 4 6. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 45 ซึ่งการผันแปรต่างๆ ของ วัสดุเพียโซอิเล็กทริกประกอบด้วยการยืดออกของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และการหดเข้าของวัสดุเพียโซอิ เล็กทริกอย่างน้อยหนึ่งแบบ 4 7. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง อย่างน้อยส่วนหนึ่งของโมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ สองแอมพลิจูด หรือมากกว่านั้นของความเข้มของคลื่นเสียง และซึ่งแอมพลิจูดของการรักษาด้วยคลื่น เสียงความถี่สูงถูกปล่อยโดยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของความผันผวนของโมดูลการแปลงสัญญาณ ตลอดเวลา 4 8. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง ซึ่งกลไกการเคลื่อนที่ถูกตั้งค่าเป็นโปรแกรมเพื่อให้ได้ระยะห่างผันแปรระหว่างบริเวณต่างๆ ของการรักษา ด้านเวชสำอางด้วยความร้อนแต่ละชุด 4 9. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง การเรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางด้วยความร้อนมีระยะห่างของการทรีตเมนต์ อยู่ในช่วงตั้งแต่ประมาณ 0.01มิลลิเมตร ถึงประมาณ 25 มิลลิเมตร 5 0. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง สวิตซ์ที่หนึ่งและสวิตซ์ที่สองประกอบด้วยปุ่มกดหรืดแป้นคีย์สำหรับผู้ใช้งาน 5 1. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง สวิตซ์ที่หนึ่งและสวิตซ์ที่สองอย่างน้อยหนึ่งตัวถูกเปิดใช้งานโดยโมดูลควบคุม 5 2. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง ฟังก์ชันการทรีตเมนต์คืออย่างน้อยหนึ่งวิธีของการดึงหน้า, การดึงคิ้ว, การดึงคาง, การทริตเมนต์ตา, การ ลดริ้วรอย, การลดรอยแผลเป็น, การรักษาแผลไหม้, การกำจัดรอยสัก, การกระชับผิว, การกำจัดเส้น เลือดขอด, การลดเส้นเลือดขอด, การทรีตเมนต์บนต่อมเหงื่อ, การรักษาภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ, การกำจัดกระแดด, การทรีตเมนต์ไขมัน, การฟื้นฟูช่องคลอด และการรักษาสิว 5 3. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 37-42 ซึ่ง โมดูลการแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อให้ได้การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีกำลังของคลื่นเสียงอยู่ ในช่วงระหว่างประมาณ 1W ถึงประมาณ 100W และความถี่เป็นประมาณ 1 MHz ถึงประมาณ 10 MHz เพื่อสร้างความร้อนแก่เนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด 5 4. ระบบการรักษาด้วยอัลตร้าซาวด์แบบโฟกัสหลายจุด, ซึ่งระบบประกอบด้วย อุปกรณ์ควบคุมซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับการจัด เตรียมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และ แท่งจับ (hand wand) ซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อควบคุมการรักษาด้วยคื่นเสียงความถี่สูงในการ เรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน, ซึ่งแท่งจับประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยัง เนื้อเยื่อในบริเวณที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส, บริเวณที่ถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณของการ รักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน ซึ่งตัวแปลงสัญาญาณถูกตั้งค่าเพิ่มเติมเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ สูงไปยังเนื้อเยื่อพร้อมกันในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส 5 5. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามแบบโฟกัสหลายจุด ซึ่งประกอบด้วย โมดูลซึ่งประกอบด้วยตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ ซึ่งตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัสด้วยอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มซึ่งประกอบด้วย การโพ ลิงแบบมอดูเลตเชิงแอมพลิจูด และการเลื่อนเฟส ซึ่งโมดูลประกอบเพิ่มเติมด้วยส่วนบังคับจุดเชื่อมต่อ (interface guide) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ การเชื่อมต่อกับแท่งจับสามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อให้เกิดการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์และพลังงาน ระหว่างโมดูลและแท่งจับ 5 6. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 55 ซึ่งตำแหน่งต่างๆ ถูกระบุ ตำแหน่งเป็นการเรียงลำดับเชิงเส้นอย่างมีนัยสำคัญภายในบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอาง 5 7. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 55 ซึ่งการกำหนดตำแหน่งที่ หนึ่งถูกระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่หนึ่ง และการกำหนดตำแหน่งที่สองถูก ระบุตำแหน่งภายในบริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สอง ซึ่งบริเวณที่หนึ่งมีความแตกต่างจากบริเวณที่ สอง 5 8. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 57 ซึ่งบริเวณการรักษาด้าน เวชสำอางที่หนึ่งประกอบด้วย การเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนดตำแหน่งที่หนึ่ง และ บริเวณการรักษาด้านเวชสำอางที่สองประกอบด้วยการเรียงลำดับเชิงเส้นที่มีนัยสำคัญของการกำหนด ตำแหน่งที่สอง 5 9. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 55 ซึ่งตัวแปลงสัญญาณอัลต ร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดซึ่ง อาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ที่แอมพลิจูดต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่ สอง 6 0. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55 ซึ่งตัว แปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อน เฟสซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 6 1. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งใช้การมอดูเลตแอมพลิจูดโดยอาศัยการตั้ง ค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่แอมพลิจูด ต่างๆของความเข้มของคลื่นเสียง โดยที่ค่าของแอมพลิจูดที่หนึ่งแตกต่างกับแอมพลิจูดที่สอง และ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยการเลื่อนเฟสซึ่งอาศัยการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่เฟสต่างๆ ของความเข้ม ของคลื่นเสียง โดยที่ค่าเฟสที่หนึ่งแตกต่างกับเฟสที่สอง 6 2. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 61 ซึ่งเฟสต่างๆ ประกอบด้วยค่าดีสครีสเฟส 6 3. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และส่วนต่างๆ ของตัวแปลงสัญญาณ อัลตร้าซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่าให้สร้างการผันแปรต่างๆ ที่สอดคล้องกันของวัสดุเพียโซอิเล็กทริกในการ ตอบสนองต่อสนามไฟฟ้าซึ่งประยุกต์ใช้กับตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ 6 4. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อถือสิทธิ 63 ซึ่งการผันแปรต่างๆ ของ วัสดุเพียโซอิเล็กทริกประกอบด้วยการยืดออกของวัสดุเพียโซอิเล็กทริก และการหดเข้าของวัสดุเพียโซอิ เล็กทริกอย่างน้อยหนึ่งแบบ 6 5. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง อย่างน้อยส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าให้ปล่อยการรักษาด้วยคลื่นเสียง ความถี่สูงที่สองแอมพลิจูด หรือมากกว่านั้นของความเข้มของคลื่นเสียง และซึ่งแอมพลิจูดของการ รักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงถูกปล่อยโดยอย่างน้อยส่วนหนึ่งของความผันผวนของเพียโซอิเล็กทริก ตลอดเวลา 6 6. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง ประกอบเพิ่มเติมด้วย กลไกการเคลื่อนที่ซึ่งถูกตั้งค่าเป็นโปรแกรมเพื่อให้ได้ระยะห่างระหว่างบริเวณ ต่างๆ ของการรักษาด้านเวชสำอางด้วยแต่ละจุด 6 7. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง การเรียงลำดับของแต่ละบริเวณของการรักษาด้านเวชสำอางมีระยะห่างของการทรีตเมนต์อยู่ในช่วง ตั้งแต่ประมาณ 0.01มิลลิเมตร ถึงประมาณ 25 มิลลิเมตร 6 8. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง การรักษาด้วยคลื่นความถี่สูงคืออย่างน้อยหนึ่งวิธีของการดึงหน้า, การดึงคิ้ว, การดึงคาง, การทริต เมนต์ตา, การลดริ้วรอย, การลดรอยแผลเป็น, การรักษาแผลไหม้, การกำจัดรอยสัก, การกระชับผิว, การ กำจัดเส้นเลือดขอด, การลดเส้นเลือดขอด, การทรีตเมนต์บนต่อมเหงื่อ, การรักษาภาวะเหงื่อออก มากกว่าปกติ,การกำจัดกระแดด, การทรีตเมนต์ไขมัน, การฟื้นฟูช่องคลอด และการรักษาสิว 6 9. ระบบการวินิจฉัยและการรักษาเสริมความงามของข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิ 55-60 ซึ่ง อุปกรณ์ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ถูกตั้งค่าเพื่อให้ได้การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีกำลังของ คลื่นเสียงอยู่ในช่วงระหว่างประมาณ 1W ถึงประมาณ 100W และความถี่เป็นประมาณ 1 MHz ถึง ประมาณ 10 MHz เพื่อสร้างความร้อนแก่เนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด 7 0. ระบบการรักษา ซึ่งระบบประกอบด้วย อุปกรณ์ควบคุมซึ่งใช้ในการควบคุมฟังก์ชันการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงสำหรับการจัด เตรียมรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และ แท่งจับซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงในการเรียงลำดับของแต่ละ บริเวณของการรักษาทางเวชสำอางด้วยความร้อน, ซึ่งแท่งจับประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณถูกตั้งค่าเพิ่มเติมเพื่อประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยัง เนื้อเยื่อพร้อมกันในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส 7

1. วิธีแบบนอนอินเวซีฟของการดำเนินการตามขั้นตอนทางเวชสำอางซึ่งไม่ได้ปฏิบัติโดย แพทย์ ซึ่งวิธีการประกอบด้วย การเชื่อมต่อโมดูลการแปลงสัญญาณกับหัวอัลตร้าซาวด์ ซึ่งโมดูลการแปลงสัญญาณประกอบด้วย ตัวแปลงสัญญาณอัลตร้าซาวด์ซึ่งถูกตั้งค่าเพื่อ ประยุกต์ใช้ในการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อในบริเวณต่างๆ ที่อยู่ลึกสำหรับการโฟกัส ด้วยอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มซึ่งประกอบด้วย การโพลิงแบบมอดูเลตเชิงแอมพลิจุด และการเลื่อนเฟส ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยสวิตซ์ที่หนึ่งซึ่งใช้ควบคุมการวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียง ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยสวิตซ์ที่สองซึ่งใช้ควบคุมการรักษาด้วยคลื่นเสียงสำหรับการ ทำให้เกิดบริเวณต่างๆ ของการรักษาทางเวชสำอางแต่ละจุด ซึ่งหัวอัลตร้าซาวด์ประกอบด้วยกลไกการเคลื่อนที่เพื่อจัดเตรียมระยะห่างที่ต้องการระหว่างแต่ ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอาง การสัมผัสโมดูลการแปลงสัญญาณกับผิวหนังของผู้ที่ต้องการเสริมความงาม การเปิดใช้สวิตซ์ที่หนึ่งบนหัวอัลตร้าซาวด์เพื่อการวินิจฉัยด้วยคลื่นเสียง, พร้อมกับโมดูลการ แปลงสัญญาณ, บริเวณใต้ผิวหนัง และ การเปิดใช้สวิตซ์ที่สองบนหัวอัลตร้าซาวด์เพื่อทรีตคลื่นเสียง, พร้อมกับโมดูลการแปลง สัญญาณ, บริเวณใต้ผิวหนังในการเรียงลำดับที่ต้องการของแต่ละบริเวณของการรักษาทางเวชสำอาง ซึ่ง ถูกควบคุมโดยกลไกการเคลื่อนที่ 7

2. การใช้ระบบการตรวจวินิจฉัย และการรักษาเสริมความงามตามข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือ สิทธิ 37-42, 55-60 และ 70 สำหรับการรักษาทางเวชสำอางแบบนอนอินเวซีฟของผิวพรรณ