TH13925B - ล๊อคใช้กับกุญแจแม่เหล็ก - Google Patents

ล๊อคใช้กับกุญแจแม่เหล็ก

Info

Publication number
TH13925B
TH13925B TH9001000160A TH9001000160A TH13925B TH 13925 B TH13925 B TH 13925B TH 9001000160 A TH9001000160 A TH 9001000160A TH 9001000160 A TH9001000160 A TH 9001000160A TH 13925 B TH13925 B TH 13925B
Authority
TH
Thailand
Prior art keywords
key
code
carrier
latch
magnetic
Prior art date
Application number
TH9001000160A
Other languages
English (en)
Other versions
TH9208A (th
TH9208EX (th
Inventor
ซามวล เซดลีย์ นายบรู๊ซ
Original Assignee
นายเอนก ศรีสนิท
Filing date
Publication date
Application filed by นายเอนก ศรีสนิท filed Critical นายเอนก ศรีสนิท
Publication of TH9208A publication Critical patent/TH9208A/th
Publication of TH9208EX publication Critical patent/TH9208EX/th
Publication of TH13925B publication Critical patent/TH13925B/th

Links

Abstract

ในลูกกุญแจแม่เหล็กไขแม่กุญแจ ชิ้นส่วนเลื่อนได้ 100 ถูกปิดล็อคในตำแหน่งที่สัมพันธ์ได้ส่วนกับจานล็อค 118 โดยสลักล็อคแม่เหล็ก 123a ซึ่งเลื่อนไปในร่องที่เจาะไว้ 102 ในชิ้นส่วนเลื่อนได้ 100 เพื่อจัดการล็อคหรือปล่อยล็อคในช่อง 123 ของจานล็อค 118 ในหารไขแม่กุญแจด้วยลูกกุญแจระหัสแม่เหล็ก สลักบางตัว 108a, 110a, 112a, 114a ถูกยึดนำไปในวงล้อที่หมุนได้ 104,106 เพื่อจะเลี่ยนรหัสล็อคโดยอัตโนมัติสลักตัวหนึ่ง (108a ในรูป 6) ถูกดึงโดยลูกกุญแจเปลี่ยนรหัสและยื่นไปถึงขอบ 130 ของช่อง 120 ในจานล็อค เมื่อชิ้นส่วนเลื่อนได้ เลื่อนไปที่สลักตัวอื่น ๆ ถูกผลักเพื่อวงล้อ 104, 106 ถูกหมุนขณะที่ชิ้นส่วนเลื่อนได้ 100 เคลื่อนที่ไปสัมพันธ์กับจานล็อค ในสลักรหัสเดิม 110a จะก่อให้เกิดสลักล็อคในช่อง 126 วงล้อ 104, 106 ถูกหมุนผ่านระยะ 90 องศา เพื่อว่าสลัก 112a กลายเป็นสลักล็อคไปได้จัดทำการปรับปรุงเฉพาะเพื่อทำรูปตัวยื่นค้ำ 130, 138 ในจานล็อค 118 สำหรับสลักเปลี่ยนรหัสต่าง ๆ ด้วย

Claims (4)

1. กุญแจที่ถูกไขโดยลูกกุญแจแม่เหล็ก ประกอบด้วยชิ้นส่วนเลื่อนได้แนวราบทั่วไป (agnerally planar slide member)(6)ที่สามารถเคลื่อนที่ได้จากตำแหน่งที่ถูกล็อคไปยังตำแหน่งที่ปลดล็อคด้วยกุญแจที่มีรหัสแม่เหล็ก(a magnetically coded ked)(5),สลักแม่เหล็กจำนวนมาก (magnet pins)(15)ที่สามารถเลื่อนไปตามขวางของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)จากตำแหน่งแรกที่ล็อคชิ้นส่วนเลื่อนได้ในตำแหน่งที่ถูกล็อคไว้ดังกล่าวไปยังตำแหน่งที่สองที่ไม่ได้ถูกล็อคชิ้นส่วนได้ดังกล่าวโดยการทำงานของกุญแจโดยลูกกุญแจที่มีรหัสแม่เหล็กดังกล่าว(5)ตำแหน่งและขั้วของสลักแม่เหล็กบางอันหรือทั้งหมดที่ทำให้มีรหัสการล็อคสำหรับล็อค อย่างน้อยที่สุดสลักแม่เหล็กเสริม 1 ตัว (28a,53a,61a,91a,108a,)ในกุญแจดังกล่าวเป็นสลักที่เปลี่ยนรหัสได้(a code-changing pin)(28a,53a,61a,91a,108a)ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยการปฎิบัติการของกุญแจที่เปลี่ยนรหัส (a coded changing ked)(5), จากตำแหน่งแรกไปยังตำแหน่งที่สองในระนาบหลักของชิ้นส่วนเลื่อนได้ (6) เพื่อเปลี่ยนรหัสจากรหัสแรกไปยังรหัสที่สอง โดยการ สวมสลัก เปลี่ยนรหัสดังกล่าวเข้ากับแท่นรอง (abutment)ระหว่างการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนได้(6)เข้าไปในระหว่างตำแหน่งที่ถูกล็อคและตำแหน่งที่ปลดล็อค ซึ่งทำให้มีลักษณะเฉพาะโดยสลักเปลี่ยนรหัส (28a,53a,61a,91a,108a,)ดังกล่าวได้ยังคงเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ เมื่อชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)หมุนกลับไปยังตำแหน่งที่ถูกล็อคไว้ดังกล่าว 2. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 มีลักษณะที่ซึ่งแทนรอง(butment)ดังกล่าวถูกทำขึ้นโดยขอบ(an edge) (44a)ของส่วนลาด(a ramp) (43 a) บนแผ่นที่อยู่คงที่ (a stationary plate) (18) ในกุญแจ 3. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรองดังกล่าวถูกทำขึ้นโดยขอบ(130)ของช่องแคบ(a slot) (120)ในแผ่นกุญแจ (a lock plate) (118) 4. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งมีลักษณะที่ซึ่งมีตัวพาหนะ(carrier)(24a,24b,104,106)อย่างน้อยที่สุด 2 ตัว ตัวพาหะดังกล่าวอยู่ในรูปของล้อที่ถูกติดในชิ้นส่วนเลื่อนได้ (6)และเชื่อมติดเข้าโดยตรงหรือผ่านล้อตัวกลาง (intermediate wheel)(25) ตัวพาหะอันหนึ่งมีสลักแม่เหล็ก(28a,108a,)ดังนั้นเมื่อสลักสวมเข้า กับแท่นรองแล้ว ตัวพาหะ (24a,104)จะถูกทำให้หมุนในระหว่างการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)ระหว่างตำแหน่งที่ถูกล็อคกับตำแหน่งที่ปลดล็อค 5. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ(24a,25)อย่างน้อยที่สุด 2 ตัวดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ต่างกัน 6. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 5 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ(24a,25)อย่างน้อยที่สุด 2 ตัว ดังกล่าวทำให้หมุนอัตโนมัติผ่านมุมที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าที่ต่างกันตามการสอดข้าวของลูกกุญแจเปลี่ยนรหัส(5)ดังกล่าว ซึ่งตัวพาหะดังกล่าวถูกหมุนครบรอบมากกว่าหนึ่งรอบก่อนที่จะมีการซ้ำกันของรหัสกุญแจ 7. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 มีลักษณะโดยวิธีสำหรับการหมุนตัวพาหะ(24a,104)ตัวหนึ่งตามการสอดข้าวของลูกกุญแจเปลี่ยนรหัส (5)ดังกล่าว ตัวพาหะดังกล่าว จะหมุนตัวพาหะอื่นๆต่อเนื่องกันไป 8. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 มีลักษณะที่ซึ่งหนึ่งในตัวพาหะ (24a,104)ดังกล่าวมีสลักแม่เหล็ก(28a,108a,) ซึ่งถูกกระทำโดยการทำงานของลูกกุญแจที่เปลี่ยนรหัส(5)ดังกล่าวเพื่อเคลื่อนตัวพาหะดังกล่าว 9. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 8 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ (25,52,70,82) 9 อีกอันหนึ่งดังกล่าวมีเพียงสลักแม่เหล็กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรหัสล็อคสำหรับกุญแจและไม่ถูกกระทำโดยรหัสที่เปลี่ยนรหัสของลูกกุญแจเปลี่ยนรหัส(5)ดังกล่าว เพื่อทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของตัวพาหะดังกล่าว 1 0. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ (51,60,81,90,104)ดังกล่าวมีสลักแม่เหล็กมากกว่า 1 อัน 1 1. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 10 มีลักษณะที่ซึ่งสลักดังกล่าว 2 อันในตัวพาหะดังกล่าวมีสลักมากกว่า 1 อันเป็นขั้วที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับลูกกุญแจรหัสแม่เหล็ก (5)ดังกล่าว 1 2. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่งมีลักษณะโดยที่ตัวพาหะที่สามารถหมุนได้ (60,90,24a104)อย่างน้อยที่สุด 1 ตัว ในรูปของล้อที่ถูกติดในชั้นส่วนเลื่อนได้ (6)ดังกล่าวมีสลักแม่เหล็กอย่างน้อยที่สุด 1 อัน 1 3. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 12 มีลักษณะโดยที่ตัวพาหะ (24a,104)ซึ่งมีสลักแม่เหล็กตัวแรก (28a,108a,)ซึ่งถูกเลื่อนไปในทิศทางแรก ขวางกับชิ้นส่วนได้(6)ดังกล่าว โดยลูกกุญแจที่เปลี่ยนรหัส (5)ดังกล่าว เพื่อสวมเข้ากับแท่นรองระหว่างการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)และทำให้เกิดการหมุนของตัวพาหะด้วย 1 4. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13 มีลักษณะที่ซึ่งเมื่อกุญแจดังกล่าวถูกคลายล็อคโดยลูกกุญแจ ซึ่งไม่เปลี่ยนรหัสของกุญแจจากรหัสที่ปรากฏอยู่ สลักแม่เหล็กตัวแรก(28a,108a,) ดังกล่าว เคลื่อนย้ายไปรองตามยาว(an elongate groove)(35a,120)ในแผ่นกุญแจ (12,118) 1 5. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13 มีลักษณะที่ซึ่งหลังจากการหมุนของตัวพาหะ (24a,104)สลักแม่เหล็กตัวแรก (28a)ดังกล่าวจะสวมเข้าไปในรู (an aperture)(13)ในแผ่นกุญแจ (12)เพื่อล็อคชิ้นส่วนเลื่อนได้ (6)ให้อยู่ในตำแหน่ง 1 6. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรองดังกล่าวถูกทำขึ้นโดยแกน(atang)(43a)ที่ถูกกดจากแผ่นที่อยู่คงที่(18)ในกุญแจ 1 7. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 13 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ (60,90)ได้ถูกหมุนเป็นจังหวะเพื่อเคลื่อนสลักแม่เหล็กผ่านตำแหน่งหลายตำแหน่งและแท่นรองอย่างน้อยที่สุด 2 อัน ได้ถูกเตรียมไว้ให้ตัวพาหะดังกล่าวสามารถหมุนได้โดยอาศัยสลักดังกล่าวเมื่อมันอยู่ที่แท่นรองอันใดอันหนึ่งของแท่นรองอย่างน้อยสองอันดังกล่าวที่มีตำแหน่งตามกัน 1 8. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 17 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรองตัวแรกได้ถูกจัดไว้ติดกับหน้าหนึ่งของตัวพาหะ (90)และแท่นรองที่สองถูกจัดไว้ติดกับหน้าอื่นๆของตัวพาหะ 1 9. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 18 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรองดังกล่าวแต่ละอันถูกทำขึ้นในแขนของช่องแคบรูปตัวL(96,97) 2 0. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 18 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ(90)อย่างน้อยที่สุด 2 ตัวได้ถูกจัดไว้โดยที่ ตัวพาหะดังกล่าวสามารถหมุนได้อย่างเป็นอิสระจากกันและกัน 2 1. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 มีลักษณะที่ซึ่งการเคลื่อนของตัวพาหะ(5,104)มีผลกระทบต่อการเคลื่อนของชิ้นส่วนจากตำแหน่งที่ถูกล็อคไปยังตำแหน่งที่ปลดล็อคตามการคลายตัวของชิ้นส่วนเลื่อนได้ดังกล่าว สลักแม่เหล็กตัวพาหะ(110a,53b)เข้าไปในรู (57,134a)ในแผ่นกุญแจเพื่อเรียงตัวพาหะดังกล่าวให้อยู่ในตำแหน่งมุมที่ถูกกำหนดไว้ ที่ซึ่งรูดังกล่าวได้ยืดขยายในทิศทางของการเคลื่อนของชิ้นส่วนได้และออกทางด้านข้าง ดังนั้นระหว่างการเคลื่อนหมุนกลับของชิ้นส่วนได้นั้น สลักแม่เหล็กในช่องดังกล่าวจะทำ ให้การหมุนของตัวพาหะดังกล่าวไปยังตำแหน่งมุมที่ถูกไว้เสร็จสมบูรณ์ (ถ้าต้องการ)โดยการสวมเข้ากัสบขอบของรู 2 2. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 มีลักษณะโดยตัวพาหะทั้งหลายที่ถูกติดในชิ้นส่วนเลื่อนได้และแต่ละอันมีสลักแม่เหล็กอย่างน้อยที่สุด 1 อัน ที่ซึ่งตัวพาหะดังกล่าวตัวแรก (24b,51,60,81)มีสลักแม่เหล็กซึ่งถูกกระทำโดยการทำงานของลูกกุญแจเปลี่ยนรหัสเพื่อทำให้การหมุนของตัวพาหะสำหรับการเปลี่ยนรหัสของกุญแจจากรหัสแรกไปเป็นรหัสที่สอง และตัวพาหะที่สองดังกล่าว (25,52,70,82)มีเพียงสลักแม่เหล็กอันเดียวหรือหลายอัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรหัสล็อคสำหรับกุญแจ ตัวพาหะที่สองดังกล่าวถูกทำให้หมุนโดยการหมุนของตัวพาหะแรก 2 3. กุญแจที่ถูกไขโดยลูกกุญแจแม่เหล็ก ประกอบด้วยชิ้นส่วนเลื่อนได้ในแนวราบทั่วไป(6)ที่สามารถเคลื่อนได้จากตำแหน่งที่ถูกล็อคไปยังตำแหน่งที่ปลดล็อคด้วยลูกกุญแจรหัสแม่เหล็ก(5)สลักแม่เหล็กจำนวนมาก(15)ที่สามารถเลื่อนไปตามขวางของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)จากตำแหน่งแรกที่ล็อคชิ้นส่วนเลื่อนได้ไว้ในตำแหน่งที่ถูกล็อคดังกล่าวไปยังตำแหน่งที่สองไม่ล็อคชิ้นส่วนได้ดังกล่าวตามการทำงานของกุญแจโดยลูกกุญแจรหัสแม่เหล็ก (5)ดังกล่าว ตำแหน่งและขั้วของสลักแม่เหล็กบางตัวหรือทั้งหมดที่อยู่ในรูปรหัสล็อคสำหรับกุญแจ สลักแม่เหล็กเสริม(28a,53a,61a,91a,108a) อย่างน้อยที่สุด 1 ตัว ในกุญแจดังกล่าวเป็นสลักเปลี่ยนรหัสที่สามารถเคลื่อนที่ได้(6)จากตำแหน่งแรกที่ล็อคชิ้นส่วนเลื่อนได้ไว้ในตำแหน่งที่ถูกล็อคดังกล่าวไปยังตำแหน่งที่สองที่ไม่ล็อคชิ้นส่วนได้ดังกล่าวตามการทำงานของกุญแจโดยลูกกุญแจรหัสแม่เหล็ก(5)สลักแม่เหล็กจำนวนมาก(15)ที่สามารถเลื่อนไปตามขวางของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)จากตำแหน่งแรกที่ล็อคชิ้นส่วนได้ไว้ในตำแหน่งที่ถูกล็อคดังกล่าวไปยังตำแหน่งที่สองที่ไม่ล็อคชิ้นส่วนได้ดังกล่าวตามการทำงานของกุญแจโดยลูกกุญแจรหัสแม่เหล็ก(5)ดังกล่าว ตำแหน่งและขั้วของสลักแม่เห ล็กบางตัวหรือทั้งหมดที่อยู่ในรูปรหัสล็อคสำหรับกุญแจ สลักแม่เหล็กเสริม((28a,53a,61a,91a,108a)อย่างน้อยที่สุด 1 ตัว ในกุญแจดังกล่าวเป็นสลักเปลี่ยนรหัสที่สามารถเคลื่อนที่ได้โดยการทำงานของลูกกุญแจเปลี่ยนรหัส (5) จากตำแหน่งแรกไปยังตำแหน่งที่สองในระนาบหลักของชิ้นส่วนเลื่อนได้ (6)เพื่อเปลี่ยนรหัสจากรหัสแรกไปยังรหัสที่สอง อุปกรณ์เปลี่ยนรหัสยังรวมถึงตัวพาหะรูปล้อที่ถูกติดไว้แบบหมุนได้ (90,104,106)ในชิ้นส่วนเลื่อนได้ (6)ซึ่งมีสลักแม่เหล็กที่เปลี่ยนรหัสอยู่ข้างในแบบเลื่อนได้ มีลักษณะที่ซึ่งสลักที่เปลี่ยนรหัสดังกล่าวถูกจัดเรียงให้สวมเข้ากับแท่นรอง(96,130)ซึ่งถูกทำขึ้นโดยขอบของรู(94,120)ในแผ่นกุญแจ (118) เมื่อชิ้นส่วนเลื่อนได้ถูกเคลื่อนด้วยกุญแจเปลี่ยนรหัส ซึ่งทำให้ตัวพาหะหมุนได้ 2 4. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 23 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรอง (96,130)ถูกทำขึ้นโดยขอบของรู(94,120)ซึ่งขอบได้ยืดออกทำมุมที่ถูกต้องกับทิศทางของการเคลื่อนของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6) 2 5. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 23 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะที่สามารถหมุนได้ (104,106)อย่างน้อยที่สุด 2 ตัวดังกล่าวได้ถูกจัดไว้ให้ ตัวพาหะดังกล่าวถูกขบเข้าด้วยกันและแต่ละอันมีสลักแม่เหล็ก(108a,112a,)อย่างน้อยที่สุด 1 อัน 2 6. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อถือสิทธิข้อที่ 23 มีลักษณะที่ซึ่งแท่นรอง(130,138)แต่ละอันจะสัมพันธ์กับตัวพาหะ (104,106) แต่ละตัวดังนั้นเมื่อกุญแจอยู่ในระหว่างแรก สลัก(108a)ในตัวพาหะแรก(104)ได้สวมเข้ากับแท่นรอง(130)แต่ละอันเมื่อกุญแจถูกไขโดยลูกกุญแจรหัสแรกไปเปลี่ยนรหัสให้รหัสที่สอง และเมื่อกุญแจอยู่ในรหัสที่สอง สลัก (114a)ในตัวพาหะที่สอง(106)ในตัวพาหะที่สอง(106)ได้สวมเข้ากับแท่นรอง (138)แต่ละอันตามการทำงานของกุญแจโดยลูกกุญแจเปลี่ยนรหัสที่สอง เพื่อเปลี่ยนรหัสจากรหัสที่สองไปยังรหัสที่สาม (ซึ่งอาจจะเป็นรหัสเดียวกันกับรหัสแรกได้) 2 7. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 26 ที่ซึ่งตัวพาหะ 2 ตัว ได้ถูกจัดเตรียมไว้ มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะแต่ละตัวมีสลักแม่เหล็ก 2 อันซึ่งถูกวางตำแหน่งบนเส้นผ่าศูนย์กลางของแต่ละตัวพาหะ 2 8. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 27 มีลักษณะโดยที่สลัก(108a,110a)ของตัวพาหะหนึ่งซึ่งถูกตั้งเริ่มต้นแบบหมุนได้ทำมุมเก้าสิบองศาเมื่อเทียบกับสลัก (112a,114a,)ของตัวพาหะอื่นๆ 2 9. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 28 มีลักษณะที่ซึ่งสลัก (112a,114a)ในตัวพาหะหนึ่ง(106)อาจมีขั้วตรงข้ามกับลูกกุญแจ 3 0. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 27 มีลักษณะที่ซึ่ง เมื่อชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)อยู่ในตำแหน่งที่ถูกล็อคแล้ว เส้นผ่าศูนย์กลางร่วมของสลัก 2 อัน (108a,110a) อยู่ที่มุมไปในทิศทางของการเคลื่อนของชิ้นส่วนได้และไปตั้งฉากกับทิศทางนั้นในระนาบของชิ้นส่วนเลื่อนได้ 3 1. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 หรือ 23 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะหมุนรอบๆแกน (113,115)บนชิ้นส่วนเลื่อนได้ 3 2. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 หรือ 23 ยังคงประกอบด้วยตัวพาหะที่สามารถหมุนได้(103)ที่มีสลักแม่เหล็ก (123a)อย่างน้อย 1 อัน มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ (103)สามารถหมุนด้วยมือจากด้านนอกของปลอกกุญแจ (housing of the lock)เพื่อตั้งสลัก(123a)อย่างน้อย 1 อันในตำแหน่งล็อคที่แตกต่างกัน 3 3. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 23 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะที่สามารถหมุนได้ (104) ดังกล่าวมีสลักแม่เหล็ก(108a,110a) 2 อันที่ถูกวางตำแหน่งบนเส้นผ่าศูนย์กลาง,สลัก (110a)ตัวแรกดังกล่าวทำให้เกิดเป็นสลักล็อค และสลัก(108a)ตัวแรกดังกล่าวทำให้เกิดเป็นสลักล็อค และสลัก (108a)ตัวแรกดังกล่าวทำให้เกิดเป็นสลักล็อค และสลัก(108a)ตัวที่สองดังกล่าวทำให้เกิดเป็นสลักเปลี่ยนรหัส สลักตัวแรกดังกล่าวซึ่งสวมเข้าไปในรู (126)ในแผ่นกุญแจ (118)ดังกล่าวเพื่อป้องกันการเคลื่อนของชินส่วนเลื่อนได้ (6)ดังกล่าวในตำแหน่งล็อคสำหรับรหัสล็อคแรก และสลักที่สองดังกล่าวสวมเข้ากับขอบ(130)ของรูที่สอง(120)ในแผ่นกุญแจดังกล่าว ดังนั้นการเคลื่อนของชิ้นส่วนเลื่อนได้กับลูกกุญแจเปลี่ยนรหัส(5)ซึ่งไม่ได้ล็อคกุญแจในรหัสแรก ทำให้การหมุนของตัวพาหะดังกล่าวได้เปลี่ยนรหัสล็อคจากรหัสแรกไปเป็นรหัสที่สอง 3 4. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 33 มีลักษณะที่ซึ่งรูที่สอง (120)มีส่วนช่องแคบแรก(128)ซึ่งมีขอบ(130)ที่ยื่นตามแนวขวางของทิศทางการเคลื่อนของชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)สำหรับการสวมเข้ามาของสลักแม่เหล็กเปลี่ยนรหัส และส่วนช่องแคบที่สอง(134)ต่อเนื่องกับส่วนแรกดังกล่าวและยืดยาวไปในทิศทางของการเคลื่อนของชิ้นส่วนเลื่อนได้สลักแม่เหล็กทั้งสองดังกล่าว(108a,110a)จะถูกพาไปโดยตัวพาหะ(104)ดังกล่าวซึ่งเลื่อนในส่วนช่องแคบที่ยืดยาว(134)ดังกล่าว เมื่อชิ้นส่วนเลื่อนได้ดังกล่าวหมุนกลับไปยังตำแหน่งที่ถูกล็อคหลังจากการเปลี่ยนรหัส ส่วนช่องแคบที่ยืดยาวดังกล่าวถูกทำให้มีรูปร่างเพื่อจัดเรียงพาหะดังกล่าวไปยังทิศทางที่เป็นที่ต้องการ 3 5. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 34 มีลักษณะที่ซึ่งส่วนช่องแคบที่ยืดยาวที่สองดังกล่าวถูกขยายกว้างออกไปที่ปลายข้างหนึ่ง ดังนั้นสลักตัวแรกดังกล่าวสามารถเข้าไปในส่วนช่องแคบที่ถูกขยายกว้างออก(134a)ดังกล่าวก่อนที่ชิ้นส่วนเลื่อนได้(6)มาถึงขอบของการเคลื่อนแบบปลดล็อค ตามการทำงานของกุญแจที่เปลี่ยนรหัส 3 6. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 หรือ 23 มีลักษณะที่ซึ่งได้จัดให้มีอุปกรณ์เปลี่ยนรหัสมากกว่าหนึ่ง (43a,130)แบบซึ่งสามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระจากตัวอื่นๆ 3 7. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 หรือ 23 มีลักษณะที่ซึ่งสลักเปลี่ยนรหัสถูกหมุนรอบผ่านตำแหน่งทั้งหลายเพื่อจัดให้มีรอบของรหัสล็อค และนั่นได้จัดให้มีตัวพาหะที่เคลื่อนที่ได้(103)ซึ่งมีสลักเปลี่ยนรหัสที่สอง(123a)ที่ทำเป็นส่วนของรหัสล็อคตัวพาหะดังกล่าวสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยมือเพื่อเคลื่อนสลักเปลี่ยนรหัสที่สองดังกล่าวระหว่างตำแหน่งแรกและตำแหน่งที่สองเพื่อจัดให้มีรอบของรหัสล็อครอบที่หนึ่งและสอง(โดยสอดคล้องกับสลักเปลี่ยนรหัสที่สามารถเคลื่อนที่ได้อัตโนมัติ(28a,108a) 3 8. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 หรือ 23 มีลักษณะโดยที่สลักแม่เหล็กอย่างน้อยที่สุด 2ตัวในแต่ละตัวพาหะ(51,60,81,90,104)มีสลักแม่เหล็กมากกว่า 1 อัน ซึ่งมีขั้วตรงข้ามซึ่งกันและกัน 3 9. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 32 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะที่สามารถหมุนได้ด้วยมือ(103)ได้ถูกจัดเรียงให้ถูกหมุนตามการสอดเข้าของเครื่องมือเปลี่ยนรหัสด้วยมือเพื่อเคลื่อนสลักแม่เหล็กเปลี่ยนรหัส(123a) 4 0. กุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 4 หรือ 25 มีลักษณะที่ซึ่งตัวพาหะ (25,70,82,52)ดังกล่าวตัวหนึ่ง มีเพียงสลักแม่เหล็ก (26,71,88,54)ซึ่งทำให้เกิดเป็นส่วนของรหัสล็อคสำหรับกุญแจ 4
1. ลูกกุญแจสำหรับกุญแจตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง มีลักษณะโดยที่ตัวลูกกุญแจซึ่งมีรหัสแม่เหล็กที่กำหนดไว้ล่วงหน้ากับรหัสแรกที่ถูกจัดเรียงไว้สำหรับการปลดล็อคกุญแจ และรหัสที่สองสำหรับการเปลี่ยนกุญแจจากรหัสแรกไปยังรหัสที่สอง ที่ซึ่งการปลดล็อคกุญแจด้วยลูกกุญแจ รหัสของกุญแจถูกเปลี่ยนอัตโนมัติไปยังรหัสล็อคที่สองซึ่งป้องกันการใช้ในภายหลังของลูกกุญแจที่ไม่มีรหัสนั้น 4
2. ลูกกุญแจหรือชุดของลูกกุญแจสำหรับกุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 40 ข้อใดข้อหนึ่ง มีลักษณะที่ซึ่งลูกกุญแจแต่ละอัน ประกอบด้วยตัวลูกกุญแจที่ทำขึ้นจากวัสดุแม่เหล็กที่มีรหัสที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งถูกใส่รหัสไว้ภายใน รหัสหนึ่งหรือหลายรหัสประกอบด้วยรหัสปลดล็อคหนึ่งหรือหลายรหัสสำหรับกุญแจแต่ไม่รวมรหัสที่เปลี่ยนรหัส 4
3. ลูกกุญแจหรือชุดของลูกกุญแจสำหรับกุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 40 ข้อใดข้อหนึ่ง มีลักษณะที่ซึ่งลูกกุญแจแต่ละอัน ประกอบด้วยตัวลูกกุญแจที่ทำขึ้นจากวัสดุแม่เหล็กที่มีรหัสที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งถูกใส่รหัสไว้ภายใน รหัสหนึ่งหรือหลายรหัสประกอบด้วยรหัสปลดล็อคจำนวนมากสำหรับกุญแจร่วมกับรหัสที่เปลี่ยนรหัสจำนวนมากสำหรับกุญแจ ซึ่งกุญแจแต่ละอัน สามารถถูกใช้ให้หมุนรอบกุญแจไปยังรหัสที่ถูกกำหนดไว้ 4
4. ลูกกุญแจหรือชุดของลูกกุญแจสำหรับกุญแจตามข้อถือสิทธิข้อที่ 1 ถึง 40 ข้อใดข้อหนึ่ง มีลักษณะโดยที่ตัวลูกกุญแจมีรหัสแม่เหล็กที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าด้วยรหัสแรกสำหรับการปลดล็อคกุญแจ รหัสที่สองสำหรับการเปลี่ยนกุญแจจากรหัสแรกไปยังรหัสที่สอง และรหัสที่สามซึ่งทำเป็นรหัสที่สองของกุญแจ
TH9001000160A 1990-02-08 ล๊อคใช้กับกุญแจแม่เหล็ก TH13925B (th)

Publications (3)

Publication Number Publication Date
TH9208A TH9208A (th) 1991-07-01
TH9208EX TH9208EX (th) 1991-07-01
TH13925B true TH13925B (th) 2002-12-06

Family

ID=

Similar Documents

Publication Publication Date Title
US3999413A (en) Lock assembly
US2255402A (en) Lock
US4006615A (en) Axial tumbler lock
US3380268A (en) Pin tumbler lock
US4084416A (en) Magnetic-type lock
GB1496126A (en) Double key axial split-pin tumbler-type lock
US3420077A (en) Pick-proof locks
US4616492A (en) Key combination lock
US5749252A (en) Manipulation resistant combination lock and method
TH13925B (th) ล๊อคใช้กับกุญแจแม่เหล็ก
TH9208A (th) ล๊อคใช้กับกุญแจแม่เหล็ก
US5388437A (en) Magnetic key operated lock
CN104343289A (zh) 一种弹子密码锁及钥匙
US4014193A (en) Locking mechanism
GB1498546A (en) Magnetically operable lock
ATA2392001A (de) Zylinderschloss mit zylindergehäuse und flachschlüssel für ein zylinderschloss
US877682A (en) Permutation-lock.
US3339383A (en) Ring guard combination lock
US3756046A (en) Lock
CA2056461A1 (en) Cylinder Lock
MY108082A (en) Magnetic key operated code-change lock
US1141215A (en) Lock.
CN204199880U (zh) 一种弹子密码锁及钥匙
US605493A (en) Monroe le vino
US1228264A (en) Permutation-lock.