Claims (3)
1. กรรมวิธีสำหรับผลิตของผสมของไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมี C5+ ไฮโดรคาร์บอน อย่างน้อย 80% โดยน้ำหนักเทียบกับไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากแก๊สสังเคราะห์ซึ่งเป็นของผสมที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน และออกไซด์คาร์บอน (CO และ CO2) โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ด้วย ซึ่งเตรียมโดยการทำให้เป็นเจล แลกเปลี่ยนไอออน ทำให้อิ่มตัวแบบแห้ง ตกตะกอนร่วม การผสมเชิงกล หรือต่อของสารเชิงซ้อนของโลหะอินทรีย์และมีโคบอลท์ ธาตุ M เพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ชนิดที่เลือกจากโมลิบดินัม และทังสเทน และธาตุ N เพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ชนิดที่เลือกจากหมู่ Ia และ IIa, ซึ่งโคบอลและธาตุ M และ N กระจายตัวอยู่บนตัวรองรับ นำผลิตภัณฑ์ที่ได้มาดำเนินการด้วยความร้อน จากนั้นทำการเผา ปริมาณของธาตุต่างๆ ของตัวเร่งปฏิกิริยาหลังทำการเผา ซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยโดยน้ำหนักของธาตุเทียบกับน้ำหนักของตัวรองรับ คือ โคบอลท์ 1.0 ถึง 60% MO และ/หรือ W 0.1 ถึง 60% และ N 0.01 ถึง 60% 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยายังประกอบรวมด้วยธาตุเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ชนิดจากกลุ่มที่ประกอบด้วยยูเรเนียม เพรซิโอดิเนียม และนีโอดิเนียม 3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 หรือ 2 ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยายังประกอบรวมด้วยธาตุเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ชนิด จากธาตุของหมู่ Ib และแพลเลเดียม และรูทิเนียม 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งตัวรองรับคือออกไซด์ อย่างน้อย 1 ชนิดของธาตุต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ชนิด Si,Al, Zr,Sn,Zn,Mg และ Ln, ซึ่ง Ln คือโลหะหายาก 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งปริมาณของธาตุต่างๆ ของตัวเร่งปฏิกิริยาหลังทำการเผา ซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยโดยน้ำหนักของออกไซด์เทียบกับน้ำหนักของตัวเร่งปฏิกิริยาที่เผาแล้ว คือ โคบอลท์ 5 ถึง 40% Mo และ/หรือ W 1 ถึง 30% และธาตุ N 0.05 ถึง 5% 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิก่อนหน้านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งก่อนใช้ นำตัวเร่งปฏิกิริยามารีดิวซ์ก่อนโดยให้สัมผัสกับของผสมของแก๊สเฉื่อยและตัวรีดิวซ์อย่างน้อย 1 ชนิดในอัตราส่วนโดยโมลของตัวรีดิวซ์ต่อแก๊สเฉื่อยเท่ากับ 0.001:1 ถึง 1:1 ซึ่งตัวรีดิวซ์ดังกล่าวคือไฮโดรเจนและ/หรือคาร์บอนมอนอก ไซด์ ทำการรีดิวซ์ก่อนดังกล่าวที่อุณหภูมิ 150 องศา ซ. ถึง 600 องศา ซ. ความดัน 0.1 ถึง 10 เมกะพัสคาล และที่อัตราเร็วของของผสม 100 ถึง 40,000 โดยปริมาตรต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 6 ซึ่งทำการรีดิวซ์ก่อนดังกล่าวที่อุณหภูมิ 200 องศา ซ. ถึง 500 องศา ซ. 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 7 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดันจาก 0.5 ถึง 15 เมกะพัสคาล อุณหภูมิจาก 150 ถึง 350 องศา ซ.อัตราเร็วของแก๊สสังเคราะห์ 100 ถึง 10,000 โดยปริมาตรต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:COจาก 1:1 ถึง 3:1 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 8 ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดันจาก 1 ถึง 10 เมกะพัสคาล อุณหภูมิจาก 170 ถึง 300 องศา ซ. อัตราเร็วของแก๊สสังเคราะห์จาก 400 ถึง 5,000 โดยปริมาตรต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:CO จาก 1.2:1 ถึง 2.5:1 1 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 9 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการผลิตไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่จากแก๊สสังเคราะห์ โดยมีวัฏภาคของเหลวซึ่งมีไฮโดรคาร์บอน 1 ชนิดหรือมากกว่าที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอมต่อโมเลกุลอยู่ด้วย 1 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 1 ถึง 10 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการรีดิวซ์ตัวเร่งปฏิกิริยาก่อนโดยมีวัฏภาคของเหลวซึ่งมีไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอม ต่อโมเลกุลอยู่ด้วย 1 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 10 หรือ 11 ซึ่งวัฏภาคของเหลวประกอบรวมด้วยไฮโดรคาร์บอนอย่างน้อย 1 ชนิด ที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 10 อะตอมต่อโมเลกุล 1 3. กรรมวิธีสำหรับผลิตของผสมของไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมี C5+ ไฮโดรคาร์บอน อย่างน้อย 80% โดยน้ำหนักเทียบกับไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากแก๊สสังเคราะห์ซึ่งเป็นของผสมที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน และออกไซด์ของคาร์บอน (CO และ CO2) โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ด้วย ซึ่งเตรียมโดยการทำให้เป็นเจล แลกเปลี่ยนไอออนทำให้อิ่มตัวแบบแห้ง ตกตะกอนร่วม การผสมเชิงกล หรือต่อของสารเชิงซ้อนของโลหะอินทรีย์ และมีโคบอลท์ ธาตุ M เพิ่มเติมอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่เลือกจากโมลิบดินัม และทังสเทนและธาตุ N เพิ่มเติมอย่างน้อยหนึ่งชนิดที่เลือกจากหมู่ Ib รูทิเนียม และแพลเลเดียม ซึ่งโคบอลท์ และธาตุ M และ N กระจายตัวอยู่บนตัวรองรับ นำผลิตภัณฑ์ที่ได้มาดำเนินการด้วยความร้อน จากนั้นทำการเผา ปริมาณของธาตุต่างๆ ของตัวเร่งปฏิกิริยาหลังทำการเผา ซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยโดยน้ำหนักของธาตุเทียบกับน้ำหนักของตัวรองรับ คือ โคบอลท์ 1.0 ถึง 60%, Mo และ/หรือ W 0.1 ถึง 60% และ N 0.01 ถึง 60% 1 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ซึ่งตัวรองรับคือ ออกไซด์ อย่างน้อย 1 ชนิด ของธาตุต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ชนิด: Si,Al,Zr,Sn,Zn,Mg และ Ln, ซึ่ง Ln คือโลหะหายาก (rare-earth) 1 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 หรือ 14 ซึ่งปริมาณของธาตุต่างๆ ของตัวเร่งปฏิกิริยาหลังทำการเผา ซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยโดยน้ำหนักของออกไซด์เทียบกับน้ำหนักของตัวเร่งปฏิกิริยาที่เผาแล้ว คือ โคบอลท์ 5 ถึง 40% Mo และ/หรือ W 1 ถึง 30% และธาตุ N 0.5 ถึง 5% 1 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ถึง 15 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งก่อนใช้นำตัวเร่งปฏิกิริยามารีดิวซ์ก่อนโดยให้สัมผัสกับของผสมของแก๊สเฉื่อย และตัวรีดิวซ์อย่างน้อย 1 ชนิด ในอัตราส่วนโดยโมลของตัวรีดิวซ์ ต่อแก๊สเฉื่อยเท่ากับ 0.001 :1 ถึง 1:1 ซึ่งตัวรีดิวซ์ดังกล่าวคือไฮโดรเจน และ/หรือ คาร์บอน มอนอกไซด์ ทำการรีดิวซ์ก่อนดังกล่าวที่อุณหภูมิ 150 องศา ซ. ถึง 600 องศา ซ. ความดัน 0.1 ถึง 10 เมกะพัสคาล และที่อัตราเร็วของของผสม 100 ถึง 40,000 โดยปริมาตรต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง 1 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 16 ซึ่งทำการรีดิวซ์ก่อนดังกล่าวที่อุณหภูมิ 200 องศา ซ. ถึง 500 องศา ซ. 1 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ถึง 17 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดันจาก 0.3 ถึง 15 เมกะพัสคาล อุณหภูมิจาก 150 ถึง 350 องศา ซ. อัตราเร็วของแก๊สสังเคราะห์ 100 ถึง 10,000 โดยปริมาตร ต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:CO จาก 1:1 ถึง 3:1 1 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 18 ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดันจาก 1 ถึง 10 เมกะพัสคาล อุณหภูมิจาก 170 ถึง 300 องศา ซ. อัตราเร็วของแก๊สสังเคราะห์จาก 400 ถึง 5,000 โดยปริมาตรต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:CO จาก 1.2:1 ถึง 2.5:1 2 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ถึง 19 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการผลิตไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่จากแก๊สสังเคราะห์ โดยมีวัฏภาคของเหลวซึ่งมีไฮโดรคาร์บอน 1 ชนิด หรือมากกว่าที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอม ต่อโมเลกุลอยู่ด้วย 2 1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 13 ถึง 20 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการรีดิวซ์ตัวเร่งปฏิกิริยาก่อนโดยมีวัฏภาคของเหลวซึ่งมีไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอม ต่อโมเลกุลอยู่ด้วย 2 2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 20 หรือ 21 ซึ่งวัฏภาคของเหลวประกอบรวมด้วยไฮโดรคาร์บอนอย่างน้อย 1 ชนิด ที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 10 อะตอมต่อโมเลกุล 2 3. กรรมวิธีสำหรับผลิตสารผสมของไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่ที่มี C5+ ไฮโดรคาร์บอนอย่างน้อย 80% โดยน้ำหนักเทียบกับไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากแก๊สสังเคราะห์ซึ่งเป็นแก๊สผสมที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนกับออกไซด์ของคาร์บอน -(CO และ CO2) โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาที่เตรียมโดยการทำให้เป็นเจล แลกเปลี่ยนไอออน แช่ให้อิ่มตัวแบบแห้ง ตกตะกอนร่วม ผสมเชิงกลหรือการต่อของสารเชิงซ้อนของโลหะอินทรีย์ และมีโคบอลท์ ธาตุ M เพิ่มเติมอย่างน้อยชนิดหนึ่งที่เลือกจากโมลิบดินัมและทังสเตน และธาตุ N เพิ่มเติมอย่างน้อยชนิดหนึ่ง ที่เลือกจากยูเรเนียม เพรซิโอดิเมียม และนีโอดิเมียม ซึ่งโคบอลท์และธาตุ M และ N กระจายตัวอยู่บนตัวรองรับ ผลิตภัณฑ์ที่ได้นี้ดำเนินการด้วยความร้อน จากนั้นเผา ปริมาณของธาตุต่างๆ ของตัวเร่งปฏิกิริยาหลังจากเผาซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยน้ำหนักของธาตุเทียบกับน้ำหนักของตัวรองรับคือ มีโคบอลท์ 1.0 ถึง 60% ธาตุ Mo และ/หรือ W 0.1 ถึง 60% และธาตุ N 0.01 ถึง 60% 2 4. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยายังประกอบด้วยธาตุอีกอย่างน้อยหนึ่งชนิดของหมู่ Ib หรือรูทิเนียม หรือ แพลเลเดียม 2 5. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 หรือ 24 ซึ่งตัวรองรับคือออกไซด์ชนิดหนึ่งของธาตุต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งชนิด Si,Al,Zr,Sn,Zn,Mg และ Ln, ซึ่ง Ln คือแร่หายาก 2 6. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 25 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งปริมาณของธาตุต่างๆ ในตัวเร่งปฏิกิริยาหลังจากทำการเผาซึ่งแสดงอยู่ในหน่วยโดยน้ำหนักของออกไซด์เทียบกับน้ำหนักของตัวเร่งปฏิกิริยาที่เผาแล้วคือมีโคบอลท์5 ถึง 40% Mo และ/หรือ W 1 ถึง 30%และธาตุ N 0.05 ถึง 5% 2 7. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 26 ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งได้ทำการรีดิวซ์ตัวเร่งปฏิกิริยาล่วงหน้าก่อนใช้โดยให้สัมผัสกับแก๊สผสมของแก๊สเฉื่อย และแก๊สตัวรีดิวซ์อย่างน้อยหนึ่งชนิดในอัตราส่วนโดยน้ำหนักของแก๊สตัวรีดิวซ์ต่อแก๊สเฉื่อยเท่ากับ 0.001:1 ถึง 1:1 ซึ่งแก๊สตัวรีดิวซ์คือไฮโดรเจน และ/หรือ คาร์บอนมอนอกไซด์ ทำการรีดิวซ์ล่วงหน้าที่อุณหภูมิ 150 องศา ซ. ถึง 600 องศา ซ. ความดัน 0.1 ถึง 10 เมกะพัสคาล และที่อัตราโดยปริมาตรของแก๊สผสมเท่ากับ 100 ถึง 40,000 เท่า ต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง 2 8. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 27 ซึ่งทำการรีดิวซ์ล่วงหน้าที่อุณหภูมิ 200 ถึง 500 องศา ซ. 2 9. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 28 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดัน 0.5 ถึง 15 เมกะพัสคาล อุณหภูมิ 150 ถึง 350 องศา ซ. อัตราโดยปริมาตรของแก๊สสังเคราะห์เท่ากับ 100 ถึง 10,000 เท่า ต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:CO เท่ากับ 1:1 ถึง 3:1 3 0. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 29 ซึ่งดำเนินการภายใต้ความดัน 1 ถึง 10 เมกะพัสคาลอุณหภูมิ 170 ถึง 300 องศา ซ. อัตราโดยปริมาตรของแก๊สสังเคราะห์เท่ากับ 400 ถึง 5,000 เท่า ต่อปริมาตรของตัวเร่งปฏิกิริยาต่อชั่วโมง และอัตราส่วนโดยโมลของ H2:CO เท่ากับ 1.2:1 ถึง 2.5:1 31.Process for the production of mixtures of mostly linear saturated hydrocarbons containing at least 80% C5 + hydrocarbons by weight, compared to all hydrocarbons formed from synthetic gas, which are hydrogen-containing mixtures. And carbon oxides (CO and CO2), with catalysts in them. Which is prepared by gelling Ion exchange Dry saturated, co-precipitated, mechanical or coupling of organic metal complexes and at least one additional M cobalt selected from molybdenum and tungsten and at least one additional N element. Selected from groups Ia and IIa, where the cobalt and elements M and N are distributed on the support. Bring the resulting product to heat treatment. Then burned Quantity of elements Of catalyst after sintering This is expressed in units by the weight of the element relative to the weight of the support: cobalt 1.0 to 60% MO and / or W 0.1 to 60% and N 0.01 to 60%. 2. Procedure according to claim 1, where the accelerator The reaction also contains at least one additional element from the uranium group. Presidium And neodymium 3. Clause 1 or 2 process in which the catalyst also contains at least one additional element from group Ib and palladium and ruthenium elements 4. Claims 1 to 3 process. Any one The support is at least one oxide of at least one of the following elements Si, Al, Zr, Sn, Zn, Mg and Ln, where Ln is a rare metal. 5. Which of the previous claims? One Which the quantity of various elements Of catalyst after sintering This is expressed in the unit by weight of the oxide relative to the weight of the burned catalyst, ie 5 to 40% Mo and / or W 1 to 30% and element N 0.05 to 5%. Any of the preceding items, which, before reducing the catalyst, is exposed to at least one mixture of inert gas and reducing agent in a mole ratio of the reducing agent to inert gas, 0.001: 1 to 1: 1. The reducing agent, hydrogen and / or carbon monoxide, is pre-reduced at temperatures of 150 ° C to 600 ° C, pressure 0.1 to 10 MPa and at mixing speeds of 100 to 40,000. By volume-by-volume of catalyst per hour 7. Process according to claim 6, which is pre-reducing at temperature 200 degrees C to 500 degrees C. 8. Process according to claims 1 to 7. one It is carried out under pressure from 0.5 to 15 MPa, temperature from 150 to 350 ° C, the speed of synthetic gas from 100 to 10,000 vol / volume of catalyst per hour. And the molar ratio of H2: CO from 1: 1 to 3: 1 9. Process according to claim 8, which is performed under pressure from 1 to 10 MPAS, temperature from 170 to 300 ° C. Synthetic gas velocity from 400 to 5,000 vol / volume of catalyst per hour. And the molar ratio of H2: CO from 1.2: 1 to 2.5: 1 1 0. The process of any claim 1 to 9. Which produces most of the linear saturated hydrocarbons from synthetic gas. There is a liquid phase in which one or more hydrocarbons contain at least 5 carbon atoms per molecule. 1. Process in accordance with Clause 1 to 10. The catalyst reduction is performed first with a liquid phase containing at least 5 hydrocarbons per molecule. 1 2. Process according to claim 10 or 11, where the liquid phase contains at least one hydrocarbon. 1 3. Process for the manufacture of mixtures of mostly linear saturated hydrocarbons containing at least 80% C5 + hydrocarbons by weight, compared to all hydrocarbons formed from synthetic gases of Hydrogen-containing mixes And carbon oxides (CO and CO2) with catalysts in them. Which is prepared by gelling Ion exchange, dry saturated, coagulant, mechanical or coupling of organic metal complexes, and at least one additional M cobalt selected from molybdenum. And at least one additional tungsten and N selected from the Ib, ruthenium and palladium group, where the cobalt and the M and N elements are distributed on the support. Bring the resulting product to heat treatment. Then burned Quantity of elements Of catalyst after sintering This is expressed in units by the weight of the element relative to the weight of the support: cobalt 1.0 to 60%, Mo and / or W 0.1 to 60% and N 0.01 to 60% 1 4. Procedure according to claim 13, which The support is at least one oxide of at least one of the following elements: Si, Al, Zr, Sn, Zn, Mg and Ln, where Ln is a rare-earth metal. Rights 13 or 14 which the quantity of various elements Of catalyst after sintering This is expressed in the unit by weight of the oxide relative to the weight of the burned catalyst, namely 5 to 40% Mo cobalt and / or W 1 to 30% and element N 0.5 to 5% 1. Any right of Articles 13 to 15 Which before using the catalyst to reduce it in contact with the mixture of inert gas And at least one reducing agent in the mole ratio of the reducing agent Per inert gas equal to 0.001: 1 to 1: 1, where the reducing agent is hydrogen and / or carbon monoxide, it is first reduced at 150 ° C to 600 ° C, pressure 0.1 to 10 MPa. L and at the speed of mixtures 100 to 40,000 by volume-to-volume of the catalyst per h 1 7. Treatment according to claim 16, which is preceded by reduction at temperatures of 200 ° C to 500 ° C 1 8. Process according to any of Clause 13 to 17 It is carried out under pressure from 0.3 to 15 MPa, temperature from 150 to 350 ° C, the speed of synthetic gas from 100 to 10,000 v / volume of catalyst per hour. And the molar ratio of H2: CO from 1: 1 to 3: 1 1. 9. Process according to claim 18, which is performed under pressure from 1 to 10 MPa, temperature from 170 to 300 ° C. The speed of synthetic gas is from 400 to 5,000 v / volume of catalyst per hour. And the mole ratio of H2: CO from 1.2: 1 to 2.5: 1 2 0. Process of any claim 13 to 19. Which produces most of the linear saturated hydrocarbons from synthetic gas. There is a liquid phase in which one or more hydrocarbons have at least 5 carbon atoms per molecule. 2 1. The process of claim 13 to 20, either. The catalyst reduction is performed first with a liquid phase containing at least 5 hydrocarbons per molecule. 2. Process according to claim 20 or 21, in which the liquid phase consists of at least one hydrocarbon. 2. Process for producing mostly linear saturated hydrocarbon mixtures containing at least 80% of C5 + hydrocarbons by weight compared to all hydrocarbons formed from synthetic gases, which are mostly linear saturated hydrocarbons. Mixed containing hydrogen with carbon oxides - (CO and CO2) with a catalyst prepared by gelling. Ion exchange Immersed, dried, saturated, co-precipitated, mechanical coagulant, or coupling of organic metal complexes and containing at least one additional M cobalt selected from molybdenum and tungsten and at least one additional N element. Selected from uranium Presiodium And neodymium Where the cobalt and the elements M and N are distributed on the support The resulting product is processed by heat, then the quantities of various elements are burned. Of the catalyst after sintering, which is expressed in the weight of the element relative to the weight of the support, is 1.0 to 60% cobalt, 0.1 to 60% Mo and / or W elements, and 0.01 to 60% N elements. According to claim 23, the catalyst also contains at least one other element of group Ib, or ruthenium or palladium 2 5. The process of claim 23 or 24, in which the support is one of the oxides of the next element. This is at least one of a kind. Si, Al, Zr, Sn, Zn, Mg and Ln, where Ln is a rare mineral 2 6. Process according to one of Clause 23 to 25. Which the quantity of various elements In the catalyst after sintering, expressed in units by oxide weight versus weight of the firing catalyst, it contains cobalt 5 to 40% Mo and / or W 1 to 30% and element N 0.05 to 5. % 2 7. Process according to one of Clause 23 to 26 in which the catalyst is pre-reduced prior to use by exposure to mixed inert gas mixtures. And at least one reducing gas in the ratio by weight of reducing reducing gas to inert gas is 0.001: 1 to 1: 1, where reducing reducing gas is hydrogen and / or carbon monoxide. Pre-reducing at 150 ° C to 600 ° C, pressure 0.1 to 10 MPa, and at a volume rate of 100 to 40,000 times the volume of the catalyst per hour. Clause 27, which is pre-reduced at a temperature of 200 to 500 degrees C. 2. 9. Process in accordance with Clause 23 to 28. It is carried out under pressure of 0.5 to 15 MPa, temperature 150 to 350 ° C. The volumetric rate of synthetic gas is 100 to 10,000 times the volume of the catalyst per hour. And the molar ratio of H2: CO is 1: 1 to 3: 1 3 0. The process of claim 29, which is carried out under pressure of 1 to 10 mpa, temperature 170 to 300 ° C. The volume of synthetic gas is 400 to 5,000 times the volume of the catalyst per hour. And the molar ratio of H2: CO is 1.2: 1 to 2.5: 1 3.
1. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 30 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการผลิต ไฮโดรคาร์บอนที่อิ่มตัวชนิดเชิงเส้นเป็นส่วนใหญ่จากแก๊สสังเคราะห์โดยมีวัฏภาคของเหลวที่มีไฮโดรคาร์บอนหนึ่งชนิดหรือมากกว่าที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอม ต่อโมเลกุล อยู่ด้วย 31. Process according to any of Clause 23 to 30. Which produced Linear saturated hydrocarbons are predominantly from synthetic gases, with a liquid phase containing one or more hydrocarbons that contain at least 5 carbon atoms per molecule.
2. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 23 ถึง 30 ข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งทำการรีดิวซ์ล่วงหน้าของตัวเร่งปฏิกิริยาโดยมีวัฏภาคของเหลวที่มีไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 5 อะตอมต่อโมเลกุล อยู่ด้วย 32. Process according to Clause 23 to 30, any one Which pre-reducing the catalyst with a liquid cycle containing at least 5 hydrocarbons with 3 carbon atoms per molecule.
3. กรรมวิธีตามข้อถือสิทธิข้อ 31 หรือ 32 ซึ่งวัฏภาคของเหลวประกอบด้วยไฮโดรคาร์บอนอย่างน้อยชนิดหนึ่งที่มีคาร์บอนอย่างน้อย 10 อะตอมต่อโมเลกุล3. Process according to claim 31 or 32 in which the liquid phase contains at least one hydrocarbon containing at least 10 carbon atoms per molecule.