TH116996A - การถอดรหัสของกระแสบิตที่มีการเข้ารหัสสัญญาณออดิโอแบบหลายช่องสัญญาณโดยใช้การแปลงสภาพแบบลูกผสมที่มีการปรับแต่ง - Google Patents

Abstract

DC60 (08/05/55) กระบวนการที่ใช้ในการถอดรหัสเฟรมของกระแสบิต AC-3 ที่มีการเพิ่มขีดความสามารถมีการ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินกรรมวิธีให้ดีขึ้นโดยการประมวลผลบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละ บล็อกในเฟรมหนึ่งๆ เพียงครั้งเดียว บล็อกของสัญญาณออดิโอของข้อมูลที่เข้ารหัสไว้จะถูกถอดรหัสใน ลำดับของบล็อกแทนที่จะอยู่เป็นลำดับของช่องสัญญาณ การประดิษฐ์นี้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับ กระบวนการถอดรหัสที่ยกมาเป็นตัวอย่างสำหรับลักษณะพิเศษในการเข้ารหัสกระแสบิตที่มีการเพิ่มขีด ความสามารถ อย่างเช่น การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการปรับแต่งและส่วนต่อขยาย สเปกตรัม กระบวนการที่ใช้ในการถอดรหัสเฟรมของกระแสบิต AC-3 ที่มีการเพิ่มขีดความสามารถมีการ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินกรรมวิธีให้ดีขึ้นโดยการประมวลผลบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละ บล็อกในเฟรมหนึ่งๆ เพียงครั้งเดียว บล็อกของสัญญาณออดิโอของข้อมูลที่เข้ารหัสไว้จะถูกถอดรหัสใน ลำดับของบล็อกแทนที่จะอยู่เป็นลำดับของช่องสัญญาณ การประดิษฐ์นี้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับ กระบวนการถอดรหัสที่ยกมาเป็นตัวอย่างสำหรับลักษณะพิเศษในการเข้ารหัสกระแสบิตที่มีการเพิ่มขีด ความสามารถ อย่างเช่น การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการปรับแต่งและส่วนต่อขยาย สเปกตรัม

Claims (7)

ข้อถือสิทธฺ์ (ทั้งหมด) ซึ่งจะไม่ปรากฏบนหน้าประกาศโฆษณา :แก้ไข 24/11/2559 1. วิธีการสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้โดยที่ เฟรมดังกล่าวประกอบรวมด้วยเมทาเดต้าของเฟรม, บล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่งและ บล็อกของสัญญาณออดิโอที่ตามมาตั้งแต่หนึ่งบล็อกขึ้นไปและ บล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่งและที่ตามมาแต่ละบล็อกดังกล่าวประกอบรวมด้วย เมทาเดต้าที่เป็นบล็อกและข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้สำหรับช่องสัญญาณออดิโอตั้งแต่สองช่อง ขึ้นไปโดยที่ ข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ดังกล่าวประกอบรวมด้วยตัวประกอบของมาตรา ส่วนและค่าที่มีการกำหนดมาตราส่วนซึ่งแสดงส่วนประกอบภายในที่เป็นสเปกตรัมของช่องสัญญาณ ออดิโอตั้งแต่สองช่องขึ้นไปโดยที่ค่าที่มีการกำหนดมาตราส่วนดังกล่าวแต่ละค่าถูกนำมาใช้ร่วมกับ ตัวประกอบของมาตราส่วนดังกล่าวตัวใดตัวหนึ่งอย่างละหนึ่งค่าและ เมทาเดด้าที่เป็นบล็อกดังกล่าวประกอบรวมด้วยข่าวสารสำหรับควบคุมซึ่งอธิบาย เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสที่นำมาใช้โดยกระบวนการเข้ารหัสที่ผลิตข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วยการดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการ ปรับแต่งซึ่งประกอบรวมด้วย การนำกลุ่มของตัวกรองสำหรับการวิเคราะห์ที่ดำเนินการโดยการแปลงปฐมภูมิ มาใช้กับช่องสัญญาณออดิโอตั้งแต่สองช่องขึ้นไปเพื่อสร้างสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิและ การนำการแปลงทุติยภูมิมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิสำหรับ ช่องสัญญาณออดิโออย่างน้อยบางช่องจากจำนวนตั้งแต่สองช่องขึ้นไปเพื่อสร้างสัมประสิทธิ์ของการ แปลงแบบลูกผสม และโดยที่วิธีการดังกล่าวประกอบรวมด้วย (A) การรับเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้และ (B) การตรวจสอบสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้ของเฟรมดังกล่าวในรอบการ ทำงานเพียงรอบเดียวเพื่อถอดรหัสข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้สำหรับบล็อกของสัญญาณออดิโอ แต่ละบล็อกตามลำดับทีละหนึ่งบล็อกโดยที่การถอดรหัสของบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละบล็อก ประกอบรวมด้วย (1) การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลง แบบลูกผสมที่มีการปรับแต่งในการเข้ารหัสข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่ สำหรับ แต่ละช่องสัญญาณของช่องสัญญาณตั้งแต่สองช่องขึ้นไปดังกล่าว (2) หากกระบวนการเข้ารหัสได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการ ปรับแต่งสำหรับแต่ละช่องสัญญาณ (a) หากบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละบล็อกเป็นบล็อกของสัญญาณออดิโอ ที่หนึ่งในเฟรมก็จะมี (i) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงแบบลูกผสมทั้งหมดของ แต่ละช่องสัญญาณสำหรับเฟรมจากข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ในบล็อกของสัญญาณออดิโอ ที่หนึ่งและ (ii) การนำการแปลงทุติยภูมิแบบผกผันมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการ แปลงแบบลูกผสมเพื่อให้ได้สัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันและ (b) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิจากสัมประสิทธิ์ของการ แปลงทุติยภูมิผกผันสำหรับแต่ละช่องสัญญาณในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอ (3) หากกระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวไม่ได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบ ลูกผสมที่มีการปรับแต่งสำหรับแต่ละช่องสัญญาณก็จะมีการจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิ สำหรับแต่ละช่องสัญญาณโดยการถอดรหัสข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอและ (C) การนำการแปลงปฐมภูมิผกผันมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิเพื่อสร้าง สัญญาณเอาต์พุตที่แสดงแต่ละช่องสัญญาณในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอ 2. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่เฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้ดังกล่าว มีลักษณะที่สอดคล้องกับซินแท็กส์ของกระแสบิต AC-3 ที่มีการเพิ่มขีดความสามารถ 3. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 2 โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วยการ ประมวลผลของส่วนต่อขยายสเปกตรัมและการถอดรหัสของแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอประกอบ รวมเพิ่มเติมด้วย การดัดสินว่ากระบวนการถอดรหัสควรใช้การประมวลผลส่วนต่อขยายสเปกตรัมเพื่อ ถอดรหัสข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่ และ หากควรมีการใช้การประมวลผลของส่วนต่อขยายสเปกตรัมก็จะมีการสังเคราะห์ ส่วนประกอบที่เป็นสเปกตรัมตั้งแต่หนึ่งส่วนขึ้นไปจากสัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันเพื่อ จัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิซึ่งมีความกว้างแถบที่ต่อขยายออกไป 4. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 2 หรือ 3 โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วย การต่อพ่วงช่องสัญญาณและการถอดรหัสของแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอก็จะประกอบรวม เพิ่มเติมด้วย การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณในการเข้ารหัส ข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่และ หากกระบวนการเข้ารหัสใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณก็จะมีการหาส่วนประกอบที่เป็น สเปกตรัมจากสัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันเพื่อจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิ สำหรับช่องสัญญาณที่ถูกต่อพ่วง 5. ชุดเครื่องสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้เดยที่ ชุดเครื่องดังกล่าวประกอบรวมด้วยวิถีทางสำหรับดำเนินการทุกขั้นตอนตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่ง ของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 4 6. สื่อจัดเก็บที่บันทึกโปรแกรมของคำสั่งที่สามารถเอ็กซีคิวต์ได้ด้วยอุปกรณ์อย่างหนึ่งเพื่อให้ ดำเนินการตามวิธีการสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้โดยที่วิธิการ ดังกล่าวประกอบรวมด้วยขั้นตอนทั้งหมดตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 4 ---------------------

1. วิธีการสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้โดยที่ เฟรมดังกล่าวประกอบด้วยเมทาเดต้าของเฟรม, บล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่งและ บล็อกของสัญญาณออดิโอที่ตามมาตั้งแต่หนึ่งบล็อกขึ้นไปและ บล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่งและที่ตามมาแต่ละบล็อกดังกล่าวประกอบด้วยเมทาเดต้า ที่เป็นบล็อกและข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้สำหรับช่องสัญญาณออดิโอตั้งแต่สองช่องขึ้นไปโดย ที่ ข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ดังกล่าวประกอบด้วยตัวประกอบของมาตราส่วน และค่าที่มีการกำหนดมาตราส่วนซึ่งแสดงส่วนประกอบภายในที่เป็นสเปกตรัมของช่องสัญญาณออดิโอ ตั้งแต่สองช่องขึ้นไปโดยที่ค่าที่มีการกำหนดมาตราส่วนดังกล่าวแต่ละค่าถูกนำมาใช้ร่วมกับตัวประกอบ ของมาตรส่วนดังกล่าวตัวใดตัวหนึ่งอย่างละหนึ่งค่าและ เมทาเดต้าที่เป็นบล็อกดังกล่าวประกอบด้วยข่าวสารสำหรับควบคุมซึ่งอธิบายเครื่องมือ สำหรับเข้ารหัสที่นำมาใช้โดยกระบวนการเข้ารหัสที่ผลิตข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้โดยที่ เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วยการดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการ ปรับแต่งซึ่งประกอบด้วย การนำกลุ่มของตัวกรองสำหรับการวิเคราะห์ที่ดำเนินการโดยการแปลงปฐมภูมิ มาใช้กับช่องสัญญาณออดิโอตั้งแต่สองช่องขึ้นไปเพื่อสร้างสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิและ การนำการแปลงทุติยภูมิมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิสำหรับ ช่องสัญญาณออดิโออย่างน้อยบางช่องจากจำนวนตั้งแต่สองช่องขึ้นไปเพื่อสร้างสัมประสิทธิ์ของการ แปลงแบบลูกผสม และโดยที่วิธีการดังกล่าวประกอบด้วย (A) การรับเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้และ (B) การตรวจสอบสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้ของเฟรมดังกล่าวเพื่อถอดรหัส ข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้สำหรับบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละบล็อกตามลำดับทีละหนึ่ง บล็อกโดยที่การถอดรหัสของบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละบล็อกประกอบด้วย (1) การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลง แบบลูกผสมที่มีการปรับแต่งในการเข้ารหัสข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่ สำหรับแต่ ละช่องสัญญาณของช่องสัญญาณตั้งแต่สองช่องขึ้นไปดังกล่าว (2) หากกระบวนการเข้ารหัสได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มีการ ปรับแต่งสำหรับแต่ละช่องสัญญาณ (a) หากบล็อกของสัญญาณออดิโอแต่ละบล็อกเป็นบล็อกของสัญญาณออดิโอที่ หนึ่งในเฟรมก็จะมี (i) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงแบบลูกผสมทั้งหมดของแต่ ละช่องสัญญาณสำหรับเฟรมจากข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ในบล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่ง และ (ii) การนำการแปลงทุติยภูมิแบบผกผันมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการ แปลงแบบลูกผสมเพื่อให้ได้สัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันและ (b) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิจากสัมประสิทธิ์ของการ แปลงทุติยภูมิผกผันสำหรับแต่ละช่องสัญญาณในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอ (3) หากกระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวไม่ได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบ ลูกผสมที่มีการปรับแต่งสำหรับแต่ละช่องสัญญาณก็จะมีการจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิ สำหรับแต่ละช่องสัญญาณโดยการถอดรหัสข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอและ (C) การนำการแปลงปฐมภูมิผกผันมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิเพื่อสร้าง สัญญาณเอาต์พุตที่แสดงแต่ละช่องสัญญาณในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอ

2. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 1 โดยที่เฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้ดังกล่าว มีลักษณะที่สอดคล้องกับซินแท็กซ์ของกระแสบิต AC-3 ที่มีการเพิ่มขีดความสามารถ

3. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 2 โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วยการ ประมวลผลของส่วนต่อขยายสเปกตรัมและการถอดรหัสของแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอการ ดำเนินการเพิ่มเติมคือ การตัดสินว่ากระบวนการถอดรหัสควรใช้การประมวลผลส่วนต่อขยายสเปกตรัมเพื่อ ถอดรหัสข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่ และ หากควรมีการใช้การประมวลผลของส่วนต่อขยายสเปกตรัมก็จะมีการสังเคราะห์ ส่วนประกอบที่เป็นสเปกตรัมตั้งแต่หนึ่งส่วนขึ้นไปจากสัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันเพื่อ จัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิซึ่งมีความกว้างแถบที่ต่อขยายออกไป

4. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 2 หรือ 3 โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสดังกล่าวประกอบด้วยการ ต่อพ่วงช่องสัญญาณและการถอดรหัสของแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอก็จะมีการดำเนินการเพิ่มเติม คือ การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณในการเข้ารหัส ข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้หรือไม่และ หากกระบวนการเข้ารหัสใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณก็จะมีการหาส่วนประกอบที่เป็น สเปกตรัมจากสัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผันเพื่อจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิ สำหรับช่องสัญญาณที่ถูกต่อพ่วง

5. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 2 หรือ 3 โดยที่เครื่องมือสำหรับเข้ารหัสประกอบด้วยการต่อพ่วง ช่องสัญญาณและการถอดรหัสของแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอมีการดำเนินการเพิ่มเติมคือ การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณในการเข้ารหัส ข้อมูลสัญญาณออดิโอใดๆ ที่เข้ารหัสไว้และ หากกระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวใช้การต่อพ่วงช่องสัญญาณ (A) หากแต่ละช่องสัญญาณคือช่องสัญญาณที่หนึ่งสำหรับใช้การต่อพ่วงในเฟรม (1) การตัดสินว่ากระบวนการเข้ารหัสดังกล่าวได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบ ลูกผสมที่มีการปรับแต่งในการเข้ารหัสช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงหรือไม่ (2) หากกระบวนการเข้ารหัสได้ดังกล่าวใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสม ที่มีการปรับแต่งในการเข้ารหัสช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วง (a) หากแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอเป็นบล็อกของสัญญาณออดิโอที่หนึ่ง ในเฟรม (i) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงแบบลูกผสมทั้งหมด สำหรับช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงในเฟรมดังกล่าวจากข้อมูลสัญญาณออดิโอที่เข้ารหัสไว้ในบล็อก ของสัญญาณออดิโอที่หนึ่งและ (ii) การนำการแปลงทุติยภูมิแบบผกผันมาใช้กับสัมประสิทธิ์ของการ แปลงแบบลูกผสมเพื่อจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงทุติยภูมิผกผัน (b) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิจากสัมประสิทธิ์ของการ แปลงทุติยภูมิผกผันสำหรับช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงในแต่ละบล็อกของสัญญาณออดิโอ (3) หากกระบวนการเข้ารหัสไม่ได้ใช้การดำเนินกระบวนการแปลงแบบลูกผสมที่มี การปรับแต่งในการเข้ารหัสช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงก็จะมีการจัดเตรียมส่วนประกอบที่เป็น สเปกตรัมสำหรับช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงโดยการถอดรหัสข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในแต่ละบล็อกของ สัญญาณออดิโอและ (B) การจัดเตรียมสัมประสิทธิ์ของการแปลงปฐมภูมิสำหรับแต่ละช่องสัญญาณโดยการถอด ส่วนประกอบที่เป็นสเปกตรัมสำหรับช่องสัญญาณสำหรับต่อพ่วงออกไป

6. ชุดเครื่องสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้โดยที่ชุด เครื่องดังกล่าวประกอบด้วยวิถีทางสำหรับดำเนินการทุกขั้นตอนตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือ สิทธิที่ 1 ถึง 5

7. สื่อจัดเก็บที่บันทึกโปรแกรมของคำสั่งที่สามารถเอ็กซีคิวต์ได้ด้วยอุปกรณ์อย่างหนึ่งเพื่อให้ ดำเนินการตามวิธีการสำหรับถอดรหัสเฟรมของสัญญาณออดิโอแบบดิจิตอลที่เข้ารหัสไว้โดยที่วิธีการ ดังกล่าวประกอบด้วยขั้นตอนทั้งหมดตามข้อถือสิทธิข้อใดข้อหนึ่งของข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 5